คือเหนื่อยมาก ไม่มีครอบครัว สมบัติติดตัวสักชิ้นก็ไม่มี ทำงานหาเงินใช้เองตั้งแต่เด็ก ปากกัดตีนถีบ เข้ามหาลัยก็ต้องกู้ กยศ. ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย หนำซ้ำเงินไม่พอใช้ก็ต้องกระ
กระสนไปหาทุนเรียนอีก ตอนเรียนประถมถึงมัธยมนี่สิบได้ที่ 1 ของห้องเรียนตลอด เรียนมหาวิทยาลัยจบมาก็เกรดสามกว่าๆ ไม่ได้แย่
เรียนจบ ป.ตรี เอกภาษาอังกฤษ ทำงานเริ่มต้นได้แค่ 15,000 จนตอนนี้ผ่านมา 6 ปีแล้ว เป็นได้แค่ผู้จัดการแผนกรีเซฟชั่นโรงแรม 3 ดาว ยังได้เงินรวมๆแล้วแค่ 30,000-35,000/เดือน
อยากจะอยู่คอนโดดีๆ ก็ไม่มีปัญญาเช่า เพราะเดือนละ 10,000-12,000 แพงเหลือเกิน เท่ากับผ่อนเองเลย จะให้ผ่อนก็ไม่กล้า ไม่อยากเป็นหนี้ 20-30 ปี แล้วต้องอดอยากปากแห้งมีเงินไม่พอกิน ก็ต้องทนอยู่ห้องพักเท่ารูหนูเดือนละ 5,000 ต่อไป
อยากซื้อรถก็ค่าใช้จ่ายเยอะเหลือเกิน ค่าผ่อน+น้ำมัน+ประกัน+จิปาถะ ตีต่ำๆต้องจ่ายเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 ก้ต้องทนต้องโหนรถเมล์ต่อไป เบื่อก็เบื่อ รอรถก็นาน คนก็แน่น รถก็ติด ค่ารถเมล์ตอนนี้ก้แพงมาก ขึ้น 10-15 นาที รัยะทาง 4-5 กิโล ปาไปเที่ยวละ 20 บาทแล้วนะ คิดถึงคนรายได้เดือนละ 15,000 นี่จะอยู่กันยังไง เหอะๆ
อยากได้เงินเดือนสักแสนนึง แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปได้ยากมาก แล้วถ้าทำได้จริงก็คงอีกนานนน อาจจะตายก่อนก็ได้ คิดแล้วท้อไปหมด มองดูคนอื่นที่จบมาพร้อมๆกัน เขามีครอบครัว หรือคู่ชีวิตคอยซัพพอร์ต มีคอนโด มีรถ ทำธุรกิจส่วนตัว เรียนต่อปริญญาตรี ปริญญาเอก มีชีวิตดีๆกันไปหมดแล้ว ทำไมชีวิตคนจนอย่างเรามันถึงได้ลำบากขนาดนี้ อยากถีบตัวเองขึ้นมา กว่าจะได้แต่ละก้าวมันยากเหลือเกิน ค่าครองชีพก็แพงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลก็พึ่งไม่ได้ โอ้ยยยยยย คิดแล้วอยากกัดลิ้นตายๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ชีวิตเฮงซวยอะไรขนาดนี้
ตอนเด็กๆคิดว่าเรียนจบปริญญาตรีคงจะสบาย ทำงานได้เงินเยอะ ชีวิตเป็นอย่างฝัน เลยอดทนปากกัดตีนถีบส่งตัวเองเรียนเพราะไม่อยากเป็นพนักงานโรงงาน แม่บ้าน แม่ครัว หรืองานขายแรงงาน แต่มาถึงวันนี้ที่ทำได้ทุกอย่างตามที่เคยคิดไว้ รู้ซึ้งแล้วว่าชีวิตที่ไม่มีใครคอยหนุนหลังมันไม่เคยปรานีเราเลยจริงๆ
เห็นคนอื่นที่เรียนจบมาพร้อมๆกันหลายคน มองดูตัวเองอีกที คือรู้สึกว่าชีวิต
โคตรแย่ ทำไมเรามันห่วยขนาดนี้ คนอื่นเขาไปถึงใหนกันแล้ว คิดแล้วก็พาลโกรธตัวเอง โกรธชีวิตตัวเองที่เฮงซวย โกรธโลก โกรธมันไปหมดซะทุกอย่าง คือคนจนนี่ต้องทนๆๆๆ อย่างเดียวเลยใช่มั้ย หนทางจะไปเป็นชนชั้นกลางที่มีชีวิตสบายๆ มี lifestyles ที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย มันต้องใช้เงินมากขนาดใหนในยุคสมัยนี้
อายุ 28 เงินเดือน 30,000-35,000 นี่ถือว่าล้มเหลวในชีวิตมั้ย?
เรียนจบ ป.ตรี เอกภาษาอังกฤษ ทำงานเริ่มต้นได้แค่ 15,000 จนตอนนี้ผ่านมา 6 ปีแล้ว เป็นได้แค่ผู้จัดการแผนกรีเซฟชั่นโรงแรม 3 ดาว ยังได้เงินรวมๆแล้วแค่ 30,000-35,000/เดือน
อยากจะอยู่คอนโดดีๆ ก็ไม่มีปัญญาเช่า เพราะเดือนละ 10,000-12,000 แพงเหลือเกิน เท่ากับผ่อนเองเลย จะให้ผ่อนก็ไม่กล้า ไม่อยากเป็นหนี้ 20-30 ปี แล้วต้องอดอยากปากแห้งมีเงินไม่พอกิน ก็ต้องทนอยู่ห้องพักเท่ารูหนูเดือนละ 5,000 ต่อไป
อยากซื้อรถก็ค่าใช้จ่ายเยอะเหลือเกิน ค่าผ่อน+น้ำมัน+ประกัน+จิปาถะ ตีต่ำๆต้องจ่ายเดือนไม่ต่ำกว่า 10,000 ก้ต้องทนต้องโหนรถเมล์ต่อไป เบื่อก็เบื่อ รอรถก็นาน คนก็แน่น รถก็ติด ค่ารถเมล์ตอนนี้ก้แพงมาก ขึ้น 10-15 นาที รัยะทาง 4-5 กิโล ปาไปเที่ยวละ 20 บาทแล้วนะ คิดถึงคนรายได้เดือนละ 15,000 นี่จะอยู่กันยังไง เหอะๆ
อยากได้เงินเดือนสักแสนนึง แต่ก็คิดว่าคงเป็นไปได้ยากมาก แล้วถ้าทำได้จริงก็คงอีกนานนน อาจจะตายก่อนก็ได้ คิดแล้วท้อไปหมด มองดูคนอื่นที่จบมาพร้อมๆกัน เขามีครอบครัว หรือคู่ชีวิตคอยซัพพอร์ต มีคอนโด มีรถ ทำธุรกิจส่วนตัว เรียนต่อปริญญาตรี ปริญญาเอก มีชีวิตดีๆกันไปหมดแล้ว ทำไมชีวิตคนจนอย่างเรามันถึงได้ลำบากขนาดนี้ อยากถีบตัวเองขึ้นมา กว่าจะได้แต่ละก้าวมันยากเหลือเกิน ค่าครองชีพก็แพงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลก็พึ่งไม่ได้ โอ้ยยยยยย คิดแล้วอยากกัดลิ้นตายๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ชีวิตเฮงซวยอะไรขนาดนี้
ตอนเด็กๆคิดว่าเรียนจบปริญญาตรีคงจะสบาย ทำงานได้เงินเยอะ ชีวิตเป็นอย่างฝัน เลยอดทนปากกัดตีนถีบส่งตัวเองเรียนเพราะไม่อยากเป็นพนักงานโรงงาน แม่บ้าน แม่ครัว หรืองานขายแรงงาน แต่มาถึงวันนี้ที่ทำได้ทุกอย่างตามที่เคยคิดไว้ รู้ซึ้งแล้วว่าชีวิตที่ไม่มีใครคอยหนุนหลังมันไม่เคยปรานีเราเลยจริงๆ
เห็นคนอื่นที่เรียนจบมาพร้อมๆกันหลายคน มองดูตัวเองอีกที คือรู้สึกว่าชีวิตโคตรแย่ ทำไมเรามันห่วยขนาดนี้ คนอื่นเขาไปถึงใหนกันแล้ว คิดแล้วก็พาลโกรธตัวเอง โกรธชีวิตตัวเองที่เฮงซวย โกรธโลก โกรธมันไปหมดซะทุกอย่าง คือคนจนนี่ต้องทนๆๆๆ อย่างเดียวเลยใช่มั้ย หนทางจะไปเป็นชนชั้นกลางที่มีชีวิตสบายๆ มี lifestyles ที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย มันต้องใช้เงินมากขนาดใหนในยุคสมัยนี้