สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องอยากจะรบกวนปรึกษาชาวพันทิป
เราทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาเกือบสี่ปีแล้วค่ะ เป็นงานที่ต้องออกมากินนอนอยู่ที่ไซต์งานต่างประเทศ
ทำงานสามสี่เดือนได้กลับบ้านสักสองสามอาทิตย์ ขอเล่าย้อนไปนะคะ ว่าพื้นฐานครอบครัวเราปานกลางค่อนไปทางรายได้ต่ำ
ที่บ้านลำบากเพราะภาวะฟองสบู่แตก เสียคุณพ่อไปตั้งแต่ช่วงนั้น ตอนนี้เหลือแต่คุณแม่ค่ะ
เรากู้กยศเรียนตั้งแต่ม ปลาย จนถึงมหาลัย ระหว่างนั้นเราทำงานสอนพิเศษหาเงินเป็นค่าขนมให้ตัวเอง
ไม่ได้รบกวนค่าขนมจากที่บ้านอีก หลังจากจบมาก็ได้งานกับบริษัทข้ามชาตินี้ ซึ่งทำให้สถานะทางการเงินของทางบ้านดีขึ้น
ปัญหาของเราคือเราจิตตกค่ะ หลังจากทำงานปีที่สองจนจบ เราโดนโยกย้ายไปหลายประเทศ เป็นระยะเวลาสั้นๆสามเดือนตลอดปีที่ผ่านมา
ยอมรับว่าเราหมดไฟ และหมดแรงใจในการทำงานค่ะ เพราะเรารู้สึกไม่มั่นคง และเราเองก็ไม่ชอบงานที่ทำอยู่
แต่เพราะเราต้องซัพพอร์ตที่บ้าน เรามีหนี้รถยนต์ที่ผ่อนให้ทางบ้านใช้ มีหนี้กยศ อีกสองแสนกว่าบาทจากยอดเต็มสามแสน คุณแม่ก็เพิ่งตกงาน
เราคิดว่าเราอยากลาออกค่ะ อยากหางานใหม่ หรือพาตัวเองไปเรียนต่อ อยู่ในที่ใหม่ๆ
ตอนนี้เราพอมีเงินเก็บค่ะ พอจะซัพพอร์ตที่บ้านและหนี้รถยนต์ได้ปีนึง รวมถึงซัพพอร์ตตัวเองได้เพื่อเรียนต่อ แต่เงินจะหมดทันที
เราพยายามหางานใหม่ แต่ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้และเราเองไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ยอมรับว่าค่อนข้างหางานลำบากค่ะ
ด้วยเงินเดือนที่เราเคยได้รวมๆแล้วแสนบาทต่อเดือน เราขอที่ใหม่ไปประมาณสี่หมื่นถึงห้าหมื่นค่ะ
เพราะเรารู้ว่างานเก่าเราค่อนข้างเฉพาะทาง แต่เราได้เรื่องของภาษาและการจัดการปัญหาเฉพาะหน้ามาทดแทนค่ะ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปสัมภาษณ์
หลังจากเรารีเควสเรทเงินเดือนนั้น
ตอนนี้เราทำงานอยู่ที่คูเวตค่ะ เพิ่งย้ายมาเมื่อต้นปี ล่าสุดรุ่นพี่ที่บริษัทที่ไทย ถามเรื่องว่าเราอยากกลับไทยไหม เงินเดือนอาจจะลดลงสองสามหมื่น
เราเองก็มองๆไว้เหมือนกันค่ะ ถ้ายังต้องทำงานที่นี่เพื่อช่วยที่บ้าน รวมถึงถ้ากลับไทย โอกาสเลื่อนขั้นก็จะต้องใช้เวลาไปอีก แต่สภาพจิตใจเราอาจจะดีขึ้น
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าจะไปทางไหนก็ไม่สุด จะลาออกก็ไม่กล้า จะย้ายก็ไม่แน่ใจเพราะอยากลาออกไปเลยมากกว่า
เราพยายามวางแผนนู่นนี่เพื่อขยับไปข้างหน้านะคะ แต่จิดใจมันย่ำแย่เอามากๆเลย ไม่มีแรงใจ
ที่เราเล่ามาทั้งหมด เราอยากรบกวนให้เพื่อนๆช่วยชี้แนะค่ะ
คุยกับคุณแม่ คุณแม่ก็เครียดไปด้วย บอกให้เราออกมาเลย ทีนี้เราเลยไม่กล้าปรึกษาอีก
ทำอย่างไรให้ตัวเองเข้มแข็งและมีสติ เพื่อที่จะมีแรงสู้ดีคะ
ทำงานมาเกือบ 4 ปี ยังค้นหาตัวเองไม่เจอค่ะ ทุกข์ใจทุกวัน
เราทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาเกือบสี่ปีแล้วค่ะ เป็นงานที่ต้องออกมากินนอนอยู่ที่ไซต์งานต่างประเทศ
ทำงานสามสี่เดือนได้กลับบ้านสักสองสามอาทิตย์ ขอเล่าย้อนไปนะคะ ว่าพื้นฐานครอบครัวเราปานกลางค่อนไปทางรายได้ต่ำ
ที่บ้านลำบากเพราะภาวะฟองสบู่แตก เสียคุณพ่อไปตั้งแต่ช่วงนั้น ตอนนี้เหลือแต่คุณแม่ค่ะ
เรากู้กยศเรียนตั้งแต่ม ปลาย จนถึงมหาลัย ระหว่างนั้นเราทำงานสอนพิเศษหาเงินเป็นค่าขนมให้ตัวเอง
ไม่ได้รบกวนค่าขนมจากที่บ้านอีก หลังจากจบมาก็ได้งานกับบริษัทข้ามชาตินี้ ซึ่งทำให้สถานะทางการเงินของทางบ้านดีขึ้น
ปัญหาของเราคือเราจิตตกค่ะ หลังจากทำงานปีที่สองจนจบ เราโดนโยกย้ายไปหลายประเทศ เป็นระยะเวลาสั้นๆสามเดือนตลอดปีที่ผ่านมา
ยอมรับว่าเราหมดไฟ และหมดแรงใจในการทำงานค่ะ เพราะเรารู้สึกไม่มั่นคง และเราเองก็ไม่ชอบงานที่ทำอยู่
แต่เพราะเราต้องซัพพอร์ตที่บ้าน เรามีหนี้รถยนต์ที่ผ่อนให้ทางบ้านใช้ มีหนี้กยศ อีกสองแสนกว่าบาทจากยอดเต็มสามแสน คุณแม่ก็เพิ่งตกงาน
เราคิดว่าเราอยากลาออกค่ะ อยากหางานใหม่ หรือพาตัวเองไปเรียนต่อ อยู่ในที่ใหม่ๆ
ตอนนี้เราพอมีเงินเก็บค่ะ พอจะซัพพอร์ตที่บ้านและหนี้รถยนต์ได้ปีนึง รวมถึงซัพพอร์ตตัวเองได้เพื่อเรียนต่อ แต่เงินจะหมดทันที
เราพยายามหางานใหม่ แต่ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้และเราเองไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ยอมรับว่าค่อนข้างหางานลำบากค่ะ
ด้วยเงินเดือนที่เราเคยได้รวมๆแล้วแสนบาทต่อเดือน เราขอที่ใหม่ไปประมาณสี่หมื่นถึงห้าหมื่นค่ะ
เพราะเรารู้ว่างานเก่าเราค่อนข้างเฉพาะทาง แต่เราได้เรื่องของภาษาและการจัดการปัญหาเฉพาะหน้ามาทดแทนค่ะ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกไปสัมภาษณ์
หลังจากเรารีเควสเรทเงินเดือนนั้น
ตอนนี้เราทำงานอยู่ที่คูเวตค่ะ เพิ่งย้ายมาเมื่อต้นปี ล่าสุดรุ่นพี่ที่บริษัทที่ไทย ถามเรื่องว่าเราอยากกลับไทยไหม เงินเดือนอาจจะลดลงสองสามหมื่น
เราเองก็มองๆไว้เหมือนกันค่ะ ถ้ายังต้องทำงานที่นี่เพื่อช่วยที่บ้าน รวมถึงถ้ากลับไทย โอกาสเลื่อนขั้นก็จะต้องใช้เวลาไปอีก แต่สภาพจิตใจเราอาจจะดีขึ้น
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าจะไปทางไหนก็ไม่สุด จะลาออกก็ไม่กล้า จะย้ายก็ไม่แน่ใจเพราะอยากลาออกไปเลยมากกว่า
เราพยายามวางแผนนู่นนี่เพื่อขยับไปข้างหน้านะคะ แต่จิดใจมันย่ำแย่เอามากๆเลย ไม่มีแรงใจ
ที่เราเล่ามาทั้งหมด เราอยากรบกวนให้เพื่อนๆช่วยชี้แนะค่ะ
คุยกับคุณแม่ คุณแม่ก็เครียดไปด้วย บอกให้เราออกมาเลย ทีนี้เราเลยไม่กล้าปรึกษาอีก
ทำอย่างไรให้ตัวเองเข้มแข็งและมีสติ เพื่อที่จะมีแรงสู้ดีคะ