เที่ยวบางกะเจ้า...หายใจเข้ารับโอโซนกัน (One Day Trip)

กระทู้สนทนา

เที่ยวเชิงอนุรักษ์ บันทึกนักเดินทาง One Day Trip เที่ยวตลาดน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ

📌 One Day Trip 1 วัน 10 สถานที่ ก็เที่ยวได้ที่บางกะเจ้า 500-600 บาทก็เอาอยู่ 🌳

"บางกะเจ้า" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เป้นพื้นที่เอื้อประโยชน์เป็น ปอดแห่งเมืองกรุงและสมุทรปราการ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมป่า ชมทัศนียภาพ สูดอากาศดีๆเข้าปอด อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมากมาย ให้ผู้คนได้มาเที่ยวกัน

โดยเราได้หาเวลาว่างๆไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เคยคิดว่าบางกะเจ้า มันเคยเป็น 1 ตัวเลือกที่เราอยากจะไปเที่ยวมานานแล้ว และเห็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย โดยครั้งนี้ผมได้มีเพื่อนร่วมทริปด้วย เป็นเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ก็ชวนไปเที่ยวด้วยกัน และทริปนี้ก็เริ่มต้นขึ้น หลังจากนี้...

โดยการเดินทางที่บางกะเจ้าของผม ในที่นี่จะกล่าวถึงวิธีการเดินทางด้วยตนเอง

โดยจะใช้วิธีนั่งรถไฟฟ้า BTS จากตัวเมืองสมุทรปราการไปลงสถานีบางนา

และเดินลงโดยใช้ทางออกตรงข้ามฝั่งไบเทคบางนา และเดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงสี่แยกบางนา

เราเดินทางมาถึงที่บางนาตั้งแต่เช้า ผมยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย ก็เลยหาข้าวเช้ากินแถวบริเวณสี่แยกบางนากัน ซึ่งมีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวมันไก่ ร้านกาแฟมากมาย และเราก็เลือกที่จะทานข้าวมันไก่กัน

และนี่คืออาหารมื้อเช้าของผมเอง เห็นแล้วน่ากินเลยทีเดียว

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ผมรอเพื่อนนัดเจอกันที่นี่ เมื่อเพื่อนผมมาแล้ว ก็เลยเดินจากสี่แยกบางนาและเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสรรพาวุธ และเดินตรงมาเรื่อยๆ จะมีวิธีการเดินทางไปยังท่าเรือบางนานอก 2 วิธี

1. นั่งรถสองแถวสีแดง (ตามภาพ) : 7 บาท/คน

2. นั่งรถวินมอเตอร์ไซค์ : เราไม่ได้เลือกนั่งวินมอเตอร์ไซค์ (ราคาโดยประมาณ 10-20 บาท)

เมื่อผมนั่งรถสองแถวจอดบริเวณหน้าท่าเรือวัดบางนานอกแล้ว ให้เดินต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอท่าเรือ ให้เดินลงไปรอที่โป๊ะเลย และให้รอเรือที่จะไปท่าตาเลื่อน หรือ ท่าวัดบางน้ำผึ้งนอกก็ได้ สำหรับผม ผมเลือกเดินทางไปท่าตาเลื่อน ซึ่งก็ไปได้เช่นกัน

สำหรับใครที่นำมอเตอร์ไซค์มาก็สามารถนำมาได้ครับ โดยจะขี่ขึ้นเรือไปยังท่าวัดบางน้ำผึ้งนอกเท่านั้น

เมื่อถึงท่าตาเลื่อนแล้ว ก็ลงเรือแล้วก็เสียค่าบริการเรือข้ามฟากด้วย ค่าโดยสาร : 6 บาท / คน

เมื่อจ่ายค่าเรือข้ามฟากเสร็จแล้ว เมื่อเดินออกจากท่าเรือ จะเจอร้านบริการเช่าจักรยาน

เราเลือกที่จะปั่นจักรยานเที่ยว โดยเลือกจักรยานให้เหมาะกับตนเอง ปั่นง่าย ไม่มีปัญหา หรือเลือกให้เหมาะกับการถ่ายรูป

สำหรับปั่นเที่ยวภายในบางกะเจ้านั้น มีให้เลือกเป็นตามชั่วโมงหรือทั้งวัน โดยของผมเลือกเช่าทั้งวัน

เสียค่าบริการ 50 บาท /คน/คัน พร้อมกับบัตรประชาชน 1 ใบ เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้แผนที่เส้นทางการเดินทางบางกะเจ้ามา

คืนจักรยานได้ไม่เกิน 17:00 น. หลังจากเวลานี้ให้โทรหาผู้ให้บริการจักรยานเช่าทันที (เบอร์จะอยู่ในแผนที่ของร้านเช่า)

และนี่คือแผนที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของบางกะเจ้า ซึ่งภายใน 1 วันสามารถปั่นจักรยานเที่ยวได้หลายที่ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรแกรมเที่ยวของแต่ละคน)

และนี่คือระหว่างทางการปั่นจักรยานของผมและเพื่อน โดยเราจะไปเที่ยวที่บ้านธูปสมุนไพรกันก่อน

โดยจะปั่นจักรยานชมวิวธรรมชาติ ภายในเส้นทางธรรมชาติ

เมื่อมาถึงแล้วก็ขอเซลฟี่กันหน่อย โอ้ยยมันดีมาก บรรยากาศ แต่ร้อนไปหน่อยย

โดยระหว่างทางจะเป็นสะพานสเล็กๆ สามารถปั่นจักรยานไปได้

แต่จะต้องหลบรถหลบคนด้วย และเป็นมุมถ่ายรูปที่ดีอีกด้วย ได้รูปสวยๆเลย ตามภาพเลยจ้า

และเราก็มาถึงแล้ว...บ้านธูปหอมสมุนไพร

เราสามารถเดิน Walk in เข้าไปได้เลย และจะเจอวิทยากรยืนคอยต้อนรับ

เป็นสถานที่ศึกษา และWorkshop ให้กับบุคคลทั่วไปและหมู่คณะ บรรยากาศธรรมชาติและมีวิทยากรที่เป็นกันเองอีกด้วย

โดยที่นี่ส่วนใหญ่แล้วจะมีผู้คนมาทำธูปหอมสมุนไพรไล่ยุง ผ้ามัดย้อม ขนมไทย สบู่ฟักข้าว และอื่นๆอีกมากมาย ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน

โดยผมจะเลือกทำผ้ามัดย้อม เพราะอยากมีเสื้อสวยๆสักตัวกลับบ้านไป

โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00–15:00 น.

**กรณีที่มาเป็นหมู่คณะให้แนะนำให้โทรสำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้า 1-2 วัน ที่เบอร์ 02-815-0729

มีผ้ามัดย้อมให้เราได้เลือกลายสีของผ้าที่เราจะทำ พร้อมกับขนาด/รูปแบบผ้า ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามขนาดของผ้า

โดยผมเลือกทำเสื้อผ้า ขนาด2XL ราคา 170 บาท (ราคาผ้าขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของผ้า)

มาทำผ้ามัดย้อมแล้วมันสนุกที่ต้องมาทาสีนี่แหละ เห็นแล้วอยากมาเพ้นท์เสื้อใช่มั้ยล้าา

ได้แล้วเสื้อทำเองง สีสวยมากกก เรนโบว์เชียว แต่จะต้องรอตากแดด ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

ดังนั้นผมจะเดินทางไปเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก่อน เพราะอยู่ใกล้ๆกัน (โดยปั่นจักรยานและไปฝากกับร้านฝากรถ ค่าเช่า 10 บ.)

ถึงแล้ว...ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

เมื่ออยู่ในขั้นตอนรอผ้ามัดย้อมให้แห้ง เราเลือกเดินทางมาเที่วตลาดก่อน

มาช้อป กิน ชิม เที่ยวกันที่นี่ก่อน และที่นี่เป็นจุดไฮไลต์ที่ใครมาที่บางกะเจ้าแล้วก็ต้องมาครับ

เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ + วันนักขัตฤกษ์ เวลา 08:00–16:00 น.

เนื่องจากผมยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลยทานลูกชิ้นเล่นไปก่อน

เรือนนมสด เป็นสถานที่ที่อยู่ภายในตลาดน่ำบางน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นเรือนโบราณ ภายในก็จะให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านทรงไทย ภายในจะมีของโบราณอยู่มากมายไม่ว่าจะกระดานหมากรุก / วิทยุเก่า / โอ่งโบราณ บอกเลยว่า ชอบมากกก ควรมาา!!

เมื่อผมเดินเล่นตลาดน้ำเสร็จแล้ว ก็ไปเอาจักรยานที่ร้านเช่า และเดินทางไปไหว้พระกันที่วัดบางน้ำผึ้งนอก

ซึ่งบริเวณนี้มีท่าเรือข้ามฟากไปยังวัดบางนานอกได้อีกด้วย โดยขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามฟากหรือเราสามารถขึ้นเรือที่นี่ได้

เมื่อไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขี่จักรยานเข้าเส้นทางธรรมชาติกันต่อ

โดยคราวนี้จะขี่ไปทางอีกทางเพื่อให้ไปถึงบ้านธูปสมุนไพร เพื่อไปรับเสื้อที่ตากทิ้งไว้

ซึ่งระหว่างทางเป้นเส้นทางธรรมชาติมาก เหมาะกับการปั่นจักรยานมาก และรับอากาศดีๆเข้าปอดกัน ^^

จนมาถึงสถานที่แห่งนี้ Bangkok Tree House เป็นคาเฟ่ร้านอาหารและรีสอร์ทอยู่ภายในที่นี่

ซึ่งเราจะไปถ่ายรูปเนื่องจากว่ามีทางเดินมุ่งสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปที่ควรไปถ่าย (แต่เสี่ยงร้อน5555)

และการเสี่ยงร้อนของเรานี่เอง ก็ได้ภาพที่ได้มาจากการถ่ายรูป สวยใช่มั้ยล่ะ มันดีมาก มุมกล้องได้ บรรยากาศได้

แถมยังได้รูปเท่ๆได้อีก มันเป็นมุมที่สวยมาก บรรยาการายรอบด้วยต้นไม้ปกคลุม ให้อากาศเย็นสบาย รับโอโซนไปที

เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขี่จักรยานไปเอาผ้าที่บ้านธูปหอมฯ และเดินทางต่อไป ซึ่งที่ต่อไปที่จะไปก็คือ วัดพราหมณ์ มหาเทวาลัย

โดยเป็นสถานที่ระหว่างทางที่จะไปสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เราได้แวะเที่ยวที่นี่ก่อน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ภายในจะมีพระพิฆเนศ ปางมหาราชา สูง 9 ม. ให้สักการะบูชาขอพร เนื่องจากพระพิฆเนศนั้นทรงเป็นเทพแห่งความสำเร็จ อีกทั้งยังทรงเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการ และการประพันธ์อีกด้วย