#DarkPhonix X-Men #รีวิวหนังเป็นไงดีตรงไหน - บางครั้งการให้คะแนนหนังก็เหมือนการ bully ชนิดหนึ่ง

#DarkPhonix X-Men #รีวิวหนังเป็นไงดีตรงไหน
1 - บางครั้งการให้คะแนนหนังก็เหมือนการ bully ชนิดหนึ่ง ผมไม่เข้าใจ ถ้าเราได้คะแนนต่ำกว่า5 คือการสอบตก และถ้าได้ 2-3 คือสุดยอดความห่วย แน่นอนว่าเราเองก็คงเสียใจมากแน่ๆ แต่หลายคนก็เลือกที่จะทำร้ายจิตใจกันแบบนั้น อาจเพราะสะใจ หรือคิดว่าเป็นกุศลที่สามารถทำให้บางคนไม่ดูเรื่องนั้นแบบตนเอง...เหรอ

2 - สำหรับเรื่องนี้ ผมบอกเลย ไม่ห่วยขนาดที่อย่าดู เพราะถ้าเทียบมาตราฐานกับหลายๆเรื่องที่ฉายในโรง ถือว่าดีกว่าค่าเฉลี่ยด้วยซ้ำ

3 - สิ่งที่ได้แน่ๆ คือเห็นแม็คนีโต้ กับโปรเฟสเซอร์ x (ที่คล้าย pitbull เข้าไปทุกที โดยเฉพาะตอนใส่สูททักซิโด้นั้น) คือ 2 คนนี้ เท่มาก แค่ได้ดูว่าเขาเป็นไงหลังจากภาคก่อนๆ ก็เหมือนเจอเพื่อนเก่าให้หายคิดถึงแล้ว

4 - จริงๆหนังค่อนข้างดราม่ามากๆ ทั้งปัญหาปมในใจของวัยเด็ก ที่เป็นตราบาปถึงตอนโต / การหลงตัวเองในสิ่งที่สังคมโป้ยอ และบางครั้งอาจเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น / การรักษาที่เหมาะสมในช่วงเวลาหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับระยะยาวก็ได้ / บางครั้งการที่เราคิดว่าวิธีการเดิมๆ เช่นการยื่นไมตรีจิตอย่างจริงใจ จะแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง แน่นอนว่ามันก็ไม่เสมอไป แต่ด้วยอีโก้ของเธอ เธอก็ยังคงเชื่ออย่างนั้น



5 - สำหรับฉากแอ็คชั่น ในยุคนี้ก็มีสารพัดรูปแบบเกินจินตนาการไปแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรใหม่เกินนั้นหรอก แต่ก็มีเพียงพอให้หนังดูสนุก และน่าติดตามดีนะ

6 - น่าเสียดายที่เราเคยดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดีพร้อม สเกลใหญ่กว่ามามากมาย จนหนังเรื่องนี้หลายฉาก พยายามใช้วิถีทางการเล่าเรื่องแบบเรื่องเหล่านั้น แต่อย่างไรก็คงไม่สามารถดีเทียบเท่า original อาจด้วยทีมงานหรืองบประมาณก็ตาม

7 - ที่น่าเสียดายที่สุด คือพลังดารา พลังในการแสดง ที่ไม่สามารถเค้นอารมณ์เพียงพอให้เรารู้สึกคล้อยตามในชะตากรรมนั้นได้ ขนาดตัวแม่อย่างเจน ลอว์ ในเรื่องนี้เธอกลับหมองไม่มีออร่าเลย ไม่นับดารานำที่ดูดีในโปสเตอร์ แต่ในหนังแม้เธอจะโชว์รูปร่างมี look คล้ายแวนด้า ณ อเวนเจอร์ แต่ใบหน้าเธอทำไมเหมือนฉีดโบท็อกซ์มาก่อนเข้าฉากเหรอ

8 - หลายฉากตัวร้ายอารมณ์เหมือนดู terminator คือหน้าเธอนิ่งเป็นหุ่นยนต์เกิน ยิ่งเจอนางเอกออร่าต่ำ หลายฉากที่ควรจะขยี้กลับจืดสนิท (อาจรวมถึงจังหวะหนัง ที่เล่าเรื่องเหมือนเรียงความเกินไป ขาดจังหวะย้ำอารมณ์ ทั้งๆที่ฉากนั้นพยายามดราม่าแท้ๆ) อาจจะรวมถึงบทพูด ที่หลายครั้งกลายเป็นเรียงความเชยๆที่ไม่รู้จะพูดทำไม

9 - แต่ข้อดีของเรื่องนี้ คือยังดูสนุก ดูเพลินๆ แทบไม่มีช่วงชวนหาวเลยนะ (ใน avenger4 ผมยังแอบหาวตั้งหลายฉาก) การเล่าเรื่องดูง่าย ไม่สับสนนัก

#สรุป ถ้าเป็นแฟนหนังแนว super hero เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด แม้อาจจะดีไม่เท่าหนังฮีโร่ยุคใหม่ๆ แต่ก็ผ่านมาตราฐานไม่น่าเบื่อขนาดนั้นนะ

ปล. ซับไทย สับสนมากกับสรรพนาม เธอ เขาเราฉัน ใช้ผิดที่ผิดทางแปลกๆชวนงง แนะนำต้องพยายามฟังเสียงอังกฤษช่วยนิดนึงนะครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่