ค่าเงินยิ่งอ่อนยิ่งดี เป็นผลดีกับรากหญ้า เพราะกำลังซื้อจะสูงขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเงินแข็ง

ค่าเงินแข็ง เป็นผลดีแต่กับนายทุนคนรวย ส่วนรากหญ้า คนจนจะลำบากมากขึ้น เพราะราคาสินค้าจะแพงขึ้นตามค่าเงินที่มีค่ามากขึ้นๆ 

นี่คือตัวชี้วัดที่ดีว่าทำไมเราจึงไม่ควรฟินนํ้าแตกกับตัวชี้วัดเศรษฐกิจแหกตา  อย่าง ค่าเงินบาทที่แข็งเอาๆ เงินทุนสำรองล้นคลัง บัญชีเกินดุลสะพัด ซึ่งสวนทางกับ เงินในกระเป๋าคนที่ลดลงเรื่อยๆ 

https://www.facebook.com/111893278854187/posts/2450970934946398/ 

ข่าวโพลชี้วัด คนมาเลย์รวยขึ้น เทียบกับคนไทยที่จนลง แม้ว่าค่าเงินริงกิตจะอ่อนตัวลงอย่างหนักแต่ก็เป็นผลดีต่อประชาชนทั่วไปของมาเลเซียเอง เพราะของจะถูกลง เทียบกับไทยที่ค่าเงินแข็งเอาๆ แต่ค่าครองชีพก็สูงตามค่าเงิน

เทียบกับยุคต้มยำกุ้ง ที่แย่ๆ ดิ้นเร่าๆจะตายให้ได้ จากค่าเงินบาทอ่อนค่า จากการถูกโจมตีค่าเงิน ก็มีแต่พวกเมืองหลวง คนรวย คนทำธุรกิจทั้งนั้น ในขณะ ที่คนชนบทกลับอยู่ดีสบายดี 
เทียบกลับยุคนี้ ค่าเงินบาทแข็ง ทุนสำรองอันดับที่ 12 ของโลก แต่สถานะทางการเงินของคนทั่วไปในเวลานี้  แย่กว่าตอนยุคต้มยำกุ้งเสียอีก

 ถ้าค่าเงินบาทไทย อ่อนตัวลงไปแตะ 60 - 80 บาท 
คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นล่างน่าจะยิ้มออกได้มากกว่านี้ ที่น่าจะตายซี้แหงแก๋ ก็พวกคนรวยที่เอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจจะมีมากขึ้น 

ค่าเงินอ่อน กับ เงินเฟ้อนั้น เป็นคนละเรื่องกัน บางครั้งค่าเงินอ่อนขนาดไหน แต่ ราคาสินค้าบริการก็ลดลง ถูกลงตามค่าเงิน คนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น  และ เงินเฟ้อก็สามารถเกิดได้อย่างรุนแรง ซ้อนสภาวะเงินฝืดได้อีกทีหนึ่ง เหมือนที่ไทยเผชิญอยู่ในเวลานี้ คือ เงินในระบบแทบไม่มี แต่ราคาสินค้าและบริการกลับพุ่งเอาๆ เพราะฉะนั้นจะเอา กรณีค่าเงิน ของซิมบับเว กับ เวเนซุเอลา มาอ้างไม่ได้

Cr.jirayu suteerattanapirom