พิชิตยอดภูสอยดาว 2,102ม. อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์



#ภูสอยดาว ทริป3วัน2คืน (ยอด2,102ม.). นำทีมคนบ้าเดินป่า โดย #น้อยหลงทาง

ครั้งนี้ เป็นการไป #ภูสอยดาว ครั้งที่2 ของผม หลังจากคราวก่อนเมื่อ3ปีที่แล้ว ภูสอยดาว ถือว่า เป็นการเริ่มหัดเดินป่า ปฐมบทครั้งแรกของผมเลย  

ตอนนั้น..ผมมาช่วงสค. เป็นช่วงปลายฝน จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้ขึ้นยอดภูสอยดาว ได้เพียงขึ้นมาถึงแค่ ลานสนภูสอยดาว เท่านั้น เพราะ ยอดภูสอยดาวจะเปิดให้ขึ้นยอดได้ ช่วงพย-กพ.

ผมจำได้เลยว่า กว่าผมจะเริ่มเดินก็สายๆราว10โมง ถึงแคมป์ลานสน ประมาณเที่ยง พอถึงด้านบน ก็ไม่ค่อยมีไรให้ทำ  

ครั้งนี้..ผมจึงคิดว่า คราวนี้ผมจะค่อยๆไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้ไปถึง แคมป์ลานสน สักประมาณบ่าย3
:
:
#คลิปvdo
#ภูสอยดาว 2,102ม. Trail 3D
https://youtu.be/YCj-nGhat4I
#ภูสอยดาว 2,192ม. ตอน1
https://youtu.be/3TbtBcnhMFo
#ภูสอยดาว 2,102ม. ตอน2
https://youtu.be/2a0L-_3385w
:
:
***ภูสอยดาว สิ่งที่เตือน คือ จะมีตัวคุ่นเยอะมากบนลานสน แนะนำควรแต่งตัวให้มิดชิด เพื่อป้องกันแมลง แม้เราจะมองไม่เห็นมัน แต่บอกเลยว่าถ้าโดนมันกัดเข้าไป จะคันและเป็นรอยแผลอยู่นาน  ส่วนทากจะมีบ้าง แต่ความเห็นส่วนตัว ไม่น่ากลัวเท่าคุ่น

ส่วนถ้ามาหน้าฝน ด้านบนลานสน อากาศจะชื้นชุ่มช้ำมาก เสื้อกันฝนจำเป็นมาก แต่มาช่วงหน้าหนาว พย.-กพ. ตัวคุ่น กับ ทาก จะไม่มีเท่าไร แต่ละช่วงฤดู บรรยากาศจะคนละอย่างกัน นะครับ
:
:
:
เริ่มต้นการเดินทาง...พวกเราเดินทางด้วยรถตู้ ตอนกลางคืนจากกทม. แล้วไปเช้าที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ที่นี้ ตั้งอยู่ ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์
:
:
#วันแรก เช้านี้หลังจากเพื่อนๆจัดแจง แบ่งของที่จะให้ลูกหาบแบกของขึ้นไป  ซึ่งที่นี้ จะคิดค่าลูกหาบแบกของ กิโลละ 30บ.



ส่วนตัวผม ยังคงคอนแซปเดิม คือ พยายามแบกของเอง แต่ครั้งนี้เป้ผมไม่ได้หนักมาก แค่ราว15kg. เพราะ มีแต่ของส่วนตัวไม่มีของกลาง ซึ่งแบ่งให้ลูกหาบแบกไป จึงทำให้น้ำหนักเป้ไม่หนักมาก

ซึ่งตอนที่เรามา ทางอช. ได้จัดจุดที่จะแบ่งของไว้ลูกหาบ กับจุดเดินห่างกันพอสมควร ซึ่งเมื่อสมัยก่อน ตอนที่ผมมาเมื่อ3ปีที่แล้ว จะอยู่ตรงแถวจุดเริ่มเดินเลย





เราเลยต้องนั่งรถตู้ต่อมายังจุดเดิน ที่ #น้ำตกภูสอยดาว โดยแวะทานมื้อเช้ากันก่อน พร้อมกับสั่งอาหารมื้อกลางวัน ที่ร้านป้าเขียวด้วยเลย






หลังจากกินอิ่มกันแล้ว พวกเราก็เริ่มเดินกัน ตอน9โมงกว่า เดินเข้ามา ก็จะเห็น ศาลเจ้าปู่ภูสอยดาว อยู่ทางซ้ายมือ ตรงแถวน้ำตก แนะนำให้เคารพไหว้ขออนุญาติผู้หลักผู้ใหญ่เจ้าที่เจ้าทางก่อน นะครับ




แล้วเราก็เดินลัดเลาะตามน้ำตกมาเรื่อยๆ ช่วงแรกจะเป็นทางราบ มีเดินขึ้นบางเพียงเล็กน้อย













ระหว่างทางก็จะเจอ ดอกบัวผุด ซึ่งยังไม่บาน แต่เห็นมีอยู่หลายดอกเหมือนกัน อยู่ข้างทางเดินบริเวณน้ำตก








จนเดินมาได้ ประมาณราว2km. ก็จะเจอ ป้าย #เนินส่งญาติ ในความคิดผมคนที่ตั้งชื่อ น่าจะประมาณว่า ญาติมาส่งแค่นี้ ที่เหลือไปเอง ไม่ไปต่อแล้ว เนื่องจากทางชัน555







ช่วงนี้ทางขึ้นจะชัน แต่มีทำเป็นบันไดเหล็ก ส่วนตัว..ขอบอกว่าไม่ชอบบันไดเหล็กเลย รู้สึกว่าเวลาเดินมันจะลื่นๆ เดินมาได้ราว200-300ม. ก็เจอป้าย #เนินปราบเซียน






ช่วง..เนินปราบเซียน จะเป็นทางราบสลับชันเล็กน้อย ระหว่างทางเพื่อนๆนั่งพัก ต้มน้ำชงกาแฟสดกันสักหน่อย โดยมีพี่เอกเป็นผู้ดูแลร้าน หลังจากนั่งพักกันชิลๆ ราวครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มเดินกันต่อ



โดยเดินไล่ตามสันเขามาเรื่อยๆ ช่วงนี้ทางจะชันเพียงเล็กน้อย จนเดินถึงป้าย #เนินป่าก่อ ตอนนี้เดินมาได้ราว4.6km. ซึ่งเกินครึ่งทางแล้ว
    



พวกเราจึงแวะพักกินข้าวมื้อเที่ยงที่ #เนินป่าก่อ กันก่อน เพราะ เป็นเวลาเที่ยงพอดี หลังจากกินอิ่มกันแล้ว ก็เดินต่อมาเรื่อยๆ ช่วงนี้ทางจะราบๆมีชันเล็กน้อย จนเดินมาอีก ราว500ม. ก็ถึงป้าย #เนินเสือโคร่ง




แล้วเดินขึ้นเนินต่อมาเรื่อยๆ ราว600ม. ก็จะเจอจุดชมวิว ตอนนี้เริ่มไม่มีร่มไม้เท่าไรแล้ว แดดก็เริ่มมาเต็ม เพราะ เป็นช่วงบ่าย ร่มไม้เริ่มน้อย
    




แล้วเดินต่อมาจนเจอป้าย #เนินมรณะ ที่ความสูงราว1,400ม. จุดนี้ผมดูgpsที่นาฬิกาแล้ว ได้ความสูงตรงกัน ตอนนี้เดินมาได้ ราว6km.แล้ว

แต่ป้ายบอกว่า เดินอีกราว1.5km.  ผมจึงคิดว่าที่อช.น่าจะวัดระยะทางผิด จากป้ายเนินมรณะ เราจะเห็นเนินนี้อยู่เบื้องหน้านี้เอง ช่วงนี้เป็นเนินชัน+แดดแรงๆ




ข้างหน้า คือ ยอดภูสอยดาว

ผมจึงค่อยๆเดินขึ้นไปแบบไม่รีบ เพราะ เวลายังเหลือเยอะ เลยแวะถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย ชิลๆ ทำให้เดินสบายไม่เหนื่อมาก




เดินได้ไม่นาน ก็ถึงป้าย ผู้พิชิตภูสอยดาว 1,633ม. แต่gpsผม กลับวัดได้แค่ ราว1,600ม. แล้วก็เดินต่อมาอีกราว500ม. ผมก็ถึง #แคมป์ลานสน ตอน14:30 ระยะทางรวมราว7.5km. ใช้เวลาตามเป้าที่วางไว้
    



ครั้งนี้ ผมมาช่วงพย. จึงทำให้ไม่ค่อยเห็น ดอกหงอนนาค ไม่เยอะมาก เหมือนช่วงสค.

หลังจากทำแคมป์เสร็จ มีโอกาสได้สอบถามเจ้าหน้าที่อช. ว่าที่นี้มันเดินราว7.5km.ไช่ไหม?  ซึ่งพี่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า “ไช่7.5km แต่สมัยก่อนที่วัดได้6.5km. มันวัดเป็นเส้นตรง”






ราว4โมงกว่า อากาศเริ่มเย็นลง พี่พิม,พี่อ้อย ท่าทางจะแรงเหลือ พากันออกไปวิ่งเล่นต่อบริเวณลานสน อีกราว5km.






#########
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่