สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับข้อกฏหมายค่ะ ขอเริ่มรายละเอียดเนื้อเรื่องก่อนเลยนะคะ
เราเปิดขายสินค้าเกี่ยวกับสังฆภัณฑ์ค่ะ โดยขายทั้งหน้าร้านและแบบออนไลน์ วันที่ 20 เม.ย. 2562 ได้มีโทรศัพท์โทร.เข้ามาเพื่อสั่งซื้อสินค้า โดยสินค้าที่ลูกค้าสั่งเป็นสินค้าที่ทางร้านไม่ได้ลงสินค้าไว้ แต่จะสั่งเข้ามาให้เมื่อลูกค้าสั่งซื้อเท่านั้น เพราะสินค้าเป็นสินค้าที่ขายออกยากร้านค้าจึงไม่นำมาสต็อคขายหน้าร้าน โดยปกติเราจะแนะนำลูกค้าให้คุยทางไลน์เพื่อจะได้ส่งรูปและรายละเอียดให้ลูกค้าดู และจะได้มีหลักฐานข้อมูลในการพูดคุยกัน แต่เคสนี้แจ้งว่าที่บ้านไม่มีอินเตอร์เนตจึงคุยไลน์ไม่ได้ ด้วยความที่เราไม่ได้คิดอะไรเมื่อลูกค้าไม่สะดวกเลยไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก ก็ให้ลูกค้าสั่งสินค้ามาทางโทรศัพท์ เมื่อรับคำสั่งซื้อแล้วเราจึงโทร.ไปสั่งกับโรงงานที่ซื้อขายกันอยู่ปกติ โดยทางโรงงานแจ้งให้โอนชำระเงินเพื่อจองสินค้าไว้ เราก็ชำระเงินโดยการโอนไปยังบัญชีของโรงงานโดยเป็นชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของโรงงานที่คุยการซื้อขายตามปกติ
เมื่อถึงวันรับสินค้าลูกค้ากลับไม่มารับสินค้า ทางร้านโทร.ไปก็ไม่รับสาย สรุปก็คือไม่มารับสินค้าที่สั่งไว้ เดิมทีเราคิดว่าลูกค้าอาจจะไปได้สินค้าที่อื่นแล้วจึงไม่มารับสินค้า จึงคิดว่าจะปล่อยสินค้าขายหน้าร้านและทางออนไลน์ออกไป แต่บังเอิญว่ามีคนเข้ามาบอกว่าอาจจะเป็นตัวโรงงานเองที่มาสั่งสินค้าหรือเปล่า เพื่อให้เราไปสั่งสินค้าจากเขาอีกที เป็นแผนการขายสินค้าเพราะช่วงนี้โรงงานอาจจะขายของไม่ได้ เราจึงไปแจ้งความเพื่อขอเอกสารไปตรวจสอบเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ ผลปรากฏว่าเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มีชื่อและนามสกุลเดียวกับชื่อบัญชีธนาคารที่เราโอนเงินไปชำระค่าสินค้ากับโรงงาน สรุปคือโรงงานเป็นคนโทร.เข้ามาสั่งสินค้าเองจริงๆ แต่ ณ ตอนนี้เขายังไม่ยอมรับ เขาบอกว่าถูกกลั่นแกล้ง แล้วแจ้งว่าวันนี้(4 มิ.ย. 62) เขาจะมารับของคืนพร้อมคืนเงิน แต่สุดท้ายก็ไม่มา เราจึงไปแจ้งความที่สน.ต้องการดำเนินคดี แต่ทางตำรวจขอนัดให้มาเจรจาอีกครั้งโดยตำรวจโทร.คุยและนัดคู่กรณีให้เป็นวันศุกร์นี้ เราอยากสอบถามว่าถ้าเราอยากให้เขาได้รับบทลงโทษเราจะทำได้หรือไม่ ทางตำรวจแจ้งว่ามันดูไม่เข้าข่ายฉ้อโกง เราจึงอยากรู้แนวทางที่เราจะสามารถดำเนินการเอาผิดกับเขาได้อย่างไรบ้าง รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
โดนโรงงานแฝงตัวเป็นลูกค้ามาหลอกสั่งสินค้าเอาผิดแบบไหนได้บ้าง
เราเปิดขายสินค้าเกี่ยวกับสังฆภัณฑ์ค่ะ โดยขายทั้งหน้าร้านและแบบออนไลน์ วันที่ 20 เม.ย. 2562 ได้มีโทรศัพท์โทร.เข้ามาเพื่อสั่งซื้อสินค้า โดยสินค้าที่ลูกค้าสั่งเป็นสินค้าที่ทางร้านไม่ได้ลงสินค้าไว้ แต่จะสั่งเข้ามาให้เมื่อลูกค้าสั่งซื้อเท่านั้น เพราะสินค้าเป็นสินค้าที่ขายออกยากร้านค้าจึงไม่นำมาสต็อคขายหน้าร้าน โดยปกติเราจะแนะนำลูกค้าให้คุยทางไลน์เพื่อจะได้ส่งรูปและรายละเอียดให้ลูกค้าดู และจะได้มีหลักฐานข้อมูลในการพูดคุยกัน แต่เคสนี้แจ้งว่าที่บ้านไม่มีอินเตอร์เนตจึงคุยไลน์ไม่ได้ ด้วยความที่เราไม่ได้คิดอะไรเมื่อลูกค้าไม่สะดวกเลยไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก ก็ให้ลูกค้าสั่งสินค้ามาทางโทรศัพท์ เมื่อรับคำสั่งซื้อแล้วเราจึงโทร.ไปสั่งกับโรงงานที่ซื้อขายกันอยู่ปกติ โดยทางโรงงานแจ้งให้โอนชำระเงินเพื่อจองสินค้าไว้ เราก็ชำระเงินโดยการโอนไปยังบัญชีของโรงงานโดยเป็นชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของโรงงานที่คุยการซื้อขายตามปกติ
เมื่อถึงวันรับสินค้าลูกค้ากลับไม่มารับสินค้า ทางร้านโทร.ไปก็ไม่รับสาย สรุปก็คือไม่มารับสินค้าที่สั่งไว้ เดิมทีเราคิดว่าลูกค้าอาจจะไปได้สินค้าที่อื่นแล้วจึงไม่มารับสินค้า จึงคิดว่าจะปล่อยสินค้าขายหน้าร้านและทางออนไลน์ออกไป แต่บังเอิญว่ามีคนเข้ามาบอกว่าอาจจะเป็นตัวโรงงานเองที่มาสั่งสินค้าหรือเปล่า เพื่อให้เราไปสั่งสินค้าจากเขาอีกที เป็นแผนการขายสินค้าเพราะช่วงนี้โรงงานอาจจะขายของไม่ได้ เราจึงไปแจ้งความเพื่อขอเอกสารไปตรวจสอบเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ ผลปรากฏว่าเจ้าของเบอร์โทรศัพท์มีชื่อและนามสกุลเดียวกับชื่อบัญชีธนาคารที่เราโอนเงินไปชำระค่าสินค้ากับโรงงาน สรุปคือโรงงานเป็นคนโทร.เข้ามาสั่งสินค้าเองจริงๆ แต่ ณ ตอนนี้เขายังไม่ยอมรับ เขาบอกว่าถูกกลั่นแกล้ง แล้วแจ้งว่าวันนี้(4 มิ.ย. 62) เขาจะมารับของคืนพร้อมคืนเงิน แต่สุดท้ายก็ไม่มา เราจึงไปแจ้งความที่สน.ต้องการดำเนินคดี แต่ทางตำรวจขอนัดให้มาเจรจาอีกครั้งโดยตำรวจโทร.คุยและนัดคู่กรณีให้เป็นวันศุกร์นี้ เราอยากสอบถามว่าถ้าเราอยากให้เขาได้รับบทลงโทษเราจะทำได้หรือไม่ ทางตำรวจแจ้งว่ามันดูไม่เข้าข่ายฉ้อโกง เราจึงอยากรู้แนวทางที่เราจะสามารถดำเนินการเอาผิดกับเขาได้อย่างไรบ้าง รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ