ถ้าใครได้ติดตามซีรีย์ Game of Thrones ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแย่งชิงความเป็นผู้นำที่มีอำนาจของเมืองต่างๆ โยงใยพันธมิตรและความเป็นศัตรู ซึ่งแต่ละตอนจะมีตัวละครที่เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง
ก็ไม่ต่างอะไรกับ "เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC" ที่มหาอำนาจของโลกอย่างประเทศอเมริกา และจีน พยายามเข้ามาชิงความได้เปรียบบนพื้นที่ของภูมิภาคเอเซีย ก็ไม่ต่างอะไรกับ "คิงแลนดิ้ง" ที่มหาอำนาจต่างๆ พยายามที่จะเข้ามาอิทธิพลเหนือพื้นที่นี้เช่นกัน
แต่ถ้าประเทศไทยเราสามารถใช้ความได้เปรียบในส่วนนี้ในการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก ให้เข้ามาร่วมสร้างจุดสมดุลย์ของโลก ร่วมลงทุนกับทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศอเมริกา หรือจีน หรือญี่ปุ่น หรือยุโรป แต่ประเทศไทยเราควรจะต้องเปิดเวทีการค้ากับทุกประเทศทั่วโลก และให้ความสำคัญกับทุกประเทศอย่างเท่าเทียม
เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทย และคนในประเทศที่จะได้ประโยชน์ร่วมกัน
ซึ่งเป็นความท้าทายที่คนไทยทุกคนควรจะต้องช่วยกัน !!!
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พูดต่อหน้าแขกจากต่างประเทศในการประชุมที่ปักกิ่งว่า
“พวกเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าเราไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกที่กำลังเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายใน 7 อาณาจักรแห่งเวสเทอรอส (我们必须确保我们所生活的世界不会陷入混乱的七国交战)”
ซึ่งหากใครได้ดูซีรีส์เกม ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) หรือชื่อในภาษาจีนคือ “权力的游戏” จะรู้ดีว่า ในการแย่งชิงความเป็นผู้นำที่มีอำนาจของเมืองต่างๆ โยงใยพันธมิตรและความเป็นศัตรู ซึ่งแต่ละตอนจะมีตัวละครที่เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง
หากดูข่าวจากสื่อต่างประเทศที่สะท้อนภาพความกดดัน การหาจุดสมดุลของมหาอำนาจอย่างอเมริกา และจีน และมีตัวแปรที่สำคัญอย่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ซึ่งการที่สื่อต่างประเทศจับสัญญาณร้อนแรง การเมืองโลก สงครามการค้าอเมริกา-จีนชิงความได้เปรียบบนพื้นที่สื่อ ทำให้ประเทศเล็กๆ อย่างไทยต้องมีความรู้ความเข้าใจ และบทบาทสื่อไทยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยมีสติ เอาหลักความจริง และคำนึงถึงการพัฒนา และความมั่นคงของประเทศด้วย ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ให้ประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อการเมืองโลก ที่เกิดจากสื่อที่ขาดความรับผิดชอบ แต่สื่อสารแบบเป็นกลาง เพราะอย่างไรไทยก็เป็นมิตรกับทุกคน ท่ามกลางสงครามที่ไม่ได้ใช้อาวุธ แต่ใช้สงครามข่าวสารชิงพื้นที่สื่อ ซึ่งไทยก็เปิดใจรักทุกคน แต่ยังไงก็ต้องระวังการถูกจับชนของคนไม่หวังดี
หากไทยเรารู้ไม่เท่าทัน ทะเล่อทะล่าไม่ดูตาม้าตาเรือ โดยเฉพาะสื่อไทยจะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้ประเทศได้ หากมองภาพขาด ไม่พลาดเป็นเครื่องมือในระดับมหภาคให้กับการเมืองโลก มิเช่นนั้น ไทยอาจเผลอเข้าไปในสนามรบของเกม ออฟ โธรนส์ โดยไม่รู้ตัว
อย่างเช่นอีอีซีที่ควรจะเป็นความได้เปรียบของไทยในการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก สร้างจุดสมดุลของประเทศต่างๆ ในการมาลงทุน แต่หากสื่อไทยไม่ทันเกม มองว่าไทยเลือกข้าง ไม่เป็นกลางในสงครามการค้า ทำไปทำมาอาจถูกดึงมาเป็นส่วนหนึ่งของสนามรบความขัดแย้ง Battle Field ซึ่งหากไทยหลงกลเข้าไป สื่อโหมกระแสโดยไม่ได้ตั้งใจ เราอาจทำร้ายประเทศและคนไทยด้วยกันโดยไม่รู้ตัว เพราะเรากำลังอยู่ในสงครามข้อมูลข่าวสาร
อีกตัวอย่างของสงครามข่าวสารของโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับวิชามโนศาสตร์ ที่พยายามสร้างประเด็นความสัมพันธ์กับจีนที่สื่อนอกตีข่าว และลากยาวมาถึงสื่อไทย หวังจุดกระแสกรณีทุนใหญ่ของไทยเจ้าหนึ่งดึงจีนมาลงทุนอีอีซี ปั่นดีกรีชี้ความสัมพันธ์ไทย-จีน ทั้งที่ข้อมูลจริงๆ หากดูพันธมิตรร่วมลงทุนกลุ่มทุนดังกล่าวในโครงการใหญ่ๆ ของอีอีซีไม่ได้มีเพียงจีน แต่ยังมีทั้งจากญี่ปุ่น อิตาลี เกาหลี และอีกหลายประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของไทยในการเปิดเวทีการค้ากับทุกประเทศในโลก และที่สำคัญยังมีการค้ากับอเมริกามากมายที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งไทยและสหรัฐฯ และผู้บริโภคในไทย รวมถึงคนทำงานในสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเสพข่าวทั้งทีต้องใจแข็ง แม้กระทั่งข่าวการลาออกจากบอร์ดของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีสื่อนอกยังพยายามตีข่าวบอกว่าเจ้าสัวลาออกก็เพื่อจะรับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธทันควันว่า เป็นแผนการส่งไม้ต่อผู้นำรุ่นต่อไป ส่วนนายใหญ่เดินหน้าสร้างผู้นำ เน้นสร้างคน และความยั่งยืน
ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดกระแสพาไป มีสติบนข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ตกไปอยู่ในความขัดแย้งของการเมืองระดับโลก ทำโครงการใหญ่ๆ ตอบโจทย์คนไทย ชนะใจระดับโลก ไม่สร้างบรรยากาศความขัดแย้ง เลือกข้าง แต่สร้างความน่าลงทุนในประเทศไทย เพราะยังไงอย่าเอาไทยเป็นสนามรบ ไม่ว่าจะทางข่าวสาร หรือสนามรบทางการค้า แต่ควรทำให้ไทยเป็นจุดที่น่าลงทุนของทุกประเทศ นี่แหละคือความท้าทายที่คนไทยต้องช่วยกัน!
ที่มา : MGR Online
EEC - Game of Thrones กับมหาศึกชิงบัลลังก์ (อีอีซี)
ก็ไม่ต่างอะไรกับ "เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC" ที่มหาอำนาจของโลกอย่างประเทศอเมริกา และจีน พยายามเข้ามาชิงความได้เปรียบบนพื้นที่ของภูมิภาคเอเซีย ก็ไม่ต่างอะไรกับ "คิงแลนดิ้ง" ที่มหาอำนาจต่างๆ พยายามที่จะเข้ามาอิทธิพลเหนือพื้นที่นี้เช่นกัน
แต่ถ้าประเทศไทยเราสามารถใช้ความได้เปรียบในส่วนนี้ในการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก ให้เข้ามาร่วมสร้างจุดสมดุลย์ของโลก ร่วมลงทุนกับทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ประเทศอเมริกา หรือจีน หรือญี่ปุ่น หรือยุโรป แต่ประเทศไทยเราควรจะต้องเปิดเวทีการค้ากับทุกประเทศทั่วโลก และให้ความสำคัญกับทุกประเทศอย่างเท่าเทียม
ซึ่งเป็นความท้าทายที่คนไทยทุกคนควรจะต้องช่วยกัน !!!
“พวกเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าเราไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกที่กำลังเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายใน 7 อาณาจักรแห่งเวสเทอรอส (我们必须确保我们所生活的世界不会陷入混乱的七国交战)”
หากดูข่าวจากสื่อต่างประเทศที่สะท้อนภาพความกดดัน การหาจุดสมดุลของมหาอำนาจอย่างอเมริกา และจีน และมีตัวแปรที่สำคัญอย่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ซึ่งการที่สื่อต่างประเทศจับสัญญาณร้อนแรง การเมืองโลก สงครามการค้าอเมริกา-จีนชิงความได้เปรียบบนพื้นที่สื่อ ทำให้ประเทศเล็กๆ อย่างไทยต้องมีความรู้ความเข้าใจ และบทบาทสื่อไทยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยมีสติ เอาหลักความจริง และคำนึงถึงการพัฒนา และความมั่นคงของประเทศด้วย ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ให้ประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อการเมืองโลก ที่เกิดจากสื่อที่ขาดความรับผิดชอบ แต่สื่อสารแบบเป็นกลาง เพราะอย่างไรไทยก็เป็นมิตรกับทุกคน ท่ามกลางสงครามที่ไม่ได้ใช้อาวุธ แต่ใช้สงครามข่าวสารชิงพื้นที่สื่อ ซึ่งไทยก็เปิดใจรักทุกคน แต่ยังไงก็ต้องระวังการถูกจับชนของคนไม่หวังดี
หากไทยเรารู้ไม่เท่าทัน ทะเล่อทะล่าไม่ดูตาม้าตาเรือ โดยเฉพาะสื่อไทยจะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้ประเทศได้ หากมองภาพขาด ไม่พลาดเป็นเครื่องมือในระดับมหภาคให้กับการเมืองโลก มิเช่นนั้น ไทยอาจเผลอเข้าไปในสนามรบของเกม ออฟ โธรนส์ โดยไม่รู้ตัว
อย่างเช่นอีอีซีที่ควรจะเป็นความได้เปรียบของไทยในการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก สร้างจุดสมดุลของประเทศต่างๆ ในการมาลงทุน แต่หากสื่อไทยไม่ทันเกม มองว่าไทยเลือกข้าง ไม่เป็นกลางในสงครามการค้า ทำไปทำมาอาจถูกดึงมาเป็นส่วนหนึ่งของสนามรบความขัดแย้ง Battle Field ซึ่งหากไทยหลงกลเข้าไป สื่อโหมกระแสโดยไม่ได้ตั้งใจ เราอาจทำร้ายประเทศและคนไทยด้วยกันโดยไม่รู้ตัว เพราะเรากำลังอยู่ในสงครามข้อมูลข่าวสาร
อีกตัวอย่างของสงครามข่าวสารของโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับวิชามโนศาสตร์ ที่พยายามสร้างประเด็นความสัมพันธ์กับจีนที่สื่อนอกตีข่าว และลากยาวมาถึงสื่อไทย หวังจุดกระแสกรณีทุนใหญ่ของไทยเจ้าหนึ่งดึงจีนมาลงทุนอีอีซี ปั่นดีกรีชี้ความสัมพันธ์ไทย-จีน ทั้งที่ข้อมูลจริงๆ หากดูพันธมิตรร่วมลงทุนกลุ่มทุนดังกล่าวในโครงการใหญ่ๆ ของอีอีซีไม่ได้มีเพียงจีน แต่ยังมีทั้งจากญี่ปุ่น อิตาลี เกาหลี และอีกหลายประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของไทยในการเปิดเวทีการค้ากับทุกประเทศในโลก และที่สำคัญยังมีการค้ากับอเมริกามากมายที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งไทยและสหรัฐฯ และผู้บริโภคในไทย รวมถึงคนทำงานในสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเสพข่าวทั้งทีต้องใจแข็ง แม้กระทั่งข่าวการลาออกจากบอร์ดของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่มีสื่อนอกยังพยายามตีข่าวบอกว่าเจ้าสัวลาออกก็เพื่อจะรับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธทันควันว่า เป็นแผนการส่งไม้ต่อผู้นำรุ่นต่อไป ส่วนนายใหญ่เดินหน้าสร้างผู้นำ เน้นสร้างคน และความยั่งยืน
ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดกระแสพาไป มีสติบนข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ตกไปอยู่ในความขัดแย้งของการเมืองระดับโลก ทำโครงการใหญ่ๆ ตอบโจทย์คนไทย ชนะใจระดับโลก ไม่สร้างบรรยากาศความขัดแย้ง เลือกข้าง แต่สร้างความน่าลงทุนในประเทศไทย เพราะยังไงอย่าเอาไทยเป็นสนามรบ ไม่ว่าจะทางข่าวสาร หรือสนามรบทางการค้า แต่ควรทำให้ไทยเป็นจุดที่น่าลงทุนของทุกประเทศ นี่แหละคือความท้าทายที่คนไทยต้องช่วยกัน!
ที่มา : MGR Online