เพื่อนๆคิดเห็นเหมือนหรือต่างยังไงกับผม สามารถบอกกันได้ครับ มาแชร์ความคิดเห็นกัน
1. หนังฟาสภาคนี้ สามารถหยิบความเป็นหนังทีมรถซิ่งจากภาคก่อนๆได้ดี มาเพิ่มเติมคือการรวมหัวกันคิดวางแผนปล้น ทำภารกิจที่ยกระดับตัวบทของหนังและตัวละครไปได้อีกขั้นจากภาคก่อนๆ และทำได้ดูแปลกใหม่และเป็นผลดีของหนัง
2. เหมือนเป็นส่วนผสมของหนังเรื่อง The Italian Job + Gone In 60 Seconds คือ เรื่องราวของทีมปล้น มีการวางแผน หลอกล่อพวกตัวร้ายและพวกตำรวจ ที่ใช้รถซิ่งเป็นอาวุธหลักในการออกปล้น ซึ่งภาคต่อๆมา หนังเริ่มออกแนวทำภารกิจพิทักษ์โลกแบบหนังสายลับอย่าง Mission Impossible + James Bond 007 ไปแล้ว
3. เป็นภาคที่กลมกล่อมและลงตัว ทั้งตัวบท เนื้อเรื่อง การกระจายบทความเด่นของตัวละคร ที่ไม่ได้เน้นตัวดอม เด่นออกนอกหน้าโชว์เท่โชว์หล่ออยู่คนดียวเหมือนภาคหลังๆ ยังกระจายบทให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องได้ดี มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำในแต่ละตัวละคร
4. เป็นภาคที่ไม่ได้ดูโอเว่อร์จนเกินไป ขนาดภาคหลังๆ ที่พวกดอมผันตัวเป็นจนท.รัฐบาลซิ่งรถยับยั้งแผนก่อการร้าย แค่มารวมตัวกันเพื่อวางแผนปล้นตู้เซฟเงินของเจ้าพ่อค้ายาเมืองริโอเท่านั้น เพื่อถอนตัวจากวงการอาชญากรและไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่างแดน ในประเทศที่ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หลีกหนีปัญหาการถูกไล่ล่าจากพวกตำรวจและศูตรเก่า ดูเมคเซ้นกว่าเนื้อเรื่องภาคหลังๆ ที่จะดูเหมือนออกทะเลไปไกลพอควร จนพวกดอม กลายเป็นทีมจารชนนักซิ่งพิทักษ์โลก เว่อร์เกินไป
5. ตัวละครของ ลุค ฮ็ฮบบ์ นายตำรวจหน่วย DSS คู่ปรับของดอม ที่นำแสดงโดย เดอะ ร็อค คือ หนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญในภาคนี้ ที่ดึงดูดให้หนังน่าสนใจขึ้น และมีฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือดขึ้นกว่าภาคก่อนๆ และสร้างชื่อเสียงของเดอะ ร็อค ที่แต่เดิมดังอยู่แล้ว ให้ดังขึ้นอีกในฐานะแอ็คชั่นสตาร์ จนหลังๆมาหนังแนวแอ็คชั่นรวมถึงหนังแนวอื่นๆของแกโผล่ออกมาเพียบ เพราะบทของ ฮ็ฮบบ์ ในเรื่องนี้แหละ แถมตัวละครของฮ็ฮบบ์ ก็คือ ตัวละครแม่เหล็กอีกตัวที่สำคัญในหนังตระกูลฟาสในภาคต่อๆมาอีกด้วย
6. เป็นภาคเดียวที่สมาชิกหลักๆเด่นๆจากฟาสภาคเก่าๆ มารวมตัวกันเกือบครบ และต่างมีบทที่โชว์ความสามารถเฉพาะตัวของตัวเองได้ดี
(ยกเว้น เล็ตตี้) ทั้ง ดอม,
ไบรอัน, มีอา, ฮาน, จีเซล, โรมัน, เทจ, วินซ์, สองนักเจาะกำแพงชาวสเปน ซึ่งภาคต่อๆมา สมาชิกในทีมก็ค่อยๆหายไป ตายในบทหนัง หรือตายจริง อย่างพระเอกหนุ่ม พอล วอล์กเกอร์ ผู้ที่รับบท ไบรอันมาตั้งแต่หนังภาคแรกนั้นเอง
7. ตัวร้ายในภาคนี้ ไม่ได้ดูเก่งเว่อร์ หรือ มีอิทธิพลถึงขนาดตัวร้ายภาคต่อๆมา ที่เป็นถึงขนาด กลุ่มทหารรับจ้าง, นักฆ่า, ทหารหน่วยรบพิเศษ, ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ ที่ดูมีความเหนือชั้นกว่าแกงค์นักซิ่งของดอมมาก ดูไม่สมเหตุสมผลหลายๆอย่าง ที่พวกดอมจะเอาชนะได้ ดูเอามันอย่างเดียว แต่สำหรับภาคนี้ ตัวร้ายเป็นอะไรที่ไม่ได้เกินเลยกับพวกดอม ที่ก็คลุกคลีกับพวกเหล่าอาชญากร ตำรวจชั่ว เจ้าพ่อค้ายามาตั้งแต่ภาคแรกๆแล้ว และ ตัวร้ายก็ไม่ได้มีพวกเยอะหรืออาวุธไฮเทคเว่อร์เกินขนาด รถถัง, เครื่องบิน, เรือดำน้ำ, โดรนจู่โจม, ระเบิดนิวเคลียร์ จนพวกดอมรับมือไม่ไหว ดูสมจริงและเข้าท่ากว่าภาค
หลังๆ
8. ตัวละคร ตำรวจหญิงชาวบราซิลคู่หู ฮ็ฮบบ์ อย่าง
เอลิน่า ที่นำแสดงโดย เอลซ่า ปาทังกี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีบทสำคัญในภาคนี้ และดึงดูดเหล่าแฟนหนังชายมิใช่น้อย แถมยังเป็นแฟนของดอมในช่วงระยะหนึ่งด้วย (แหม..ตำรวจพี่ดอมแกก็ไม่เว้น จับทำเมียมาแล้ว แกคงนึกในใจว่าเราเป็นโจรต้องไว้ลาย 555) ด้วยความสวยและเสน่ห์ของเธอ ตัวจริงเธอเป็นภรรยาของพระเอก คริส เฮมเวิร์ธ จากเรื่อง Thor นั่นเอง
9. เป็นภาคที่ฉากแอ็คชั่นใส่มาถูกช่วงจังหวะของหนัง ไม่ใช่เน้นซิ่งรถ สู้กัน ระเบิด
ตู้มต้าม โอเว่อร์ๆเกินไป แบบภาคหลังๆ และฉากแอ็คชั่นดูในระดับมาตรฐานหนังแอ็ค
ชั่นทั่วไป ยังมีความดิบ สมจริงอยู่บ้าง และไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป อยู่ระดับกลางๆ และดูดี
10. เป็นภาคที่แสดงความเป็นครอบครัวในอุดมคติของดอม ได้ดูดี อบอุ่น และดูไม่เลี่ยนเกินไปแบบที่ตัวดอมมาเน้นพูดซึ้งๆในภาคต่อๆมา ผมชอบฉากตอนช่วงกลางเรื่องที่เหล่าสมาชิกในทีมมาล้อมวงคุยกัน กินกัน พูดหยอกล้อกัน มีความเป็นห่วงเป็นใยกันในแต่ละคน ดูความเป็นครอบครัว
11. ตัวพี่วิน ดีเซล ในบทดอม แกก็เก๊กหล่อ ทำเข้มมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะ แต่มาในภาคนี้ก็ยังดูไม่ได้ขี้เก๊ก ติดพูดคำคมดูเลี่ยนเกินไป และไม่ได้โชว์ความเป็นยอดซุปเปอร์แมนเหมือนภาคหลังๆ คือ อยู่ในระดับพอดี เก่งในระดับที่เราคนดูเชื่อได้ว่า เออ..นักซิ่งข้างถนน โจรอาชญากร มันก็เก่งแค่ระดับนี้แหละ ไม่ใช่ซุปเปอร์แมน หรือ ยอดสายลับ แบบภาคหลังๆ
12. เป็นภาคที่โดยส่วนตัวผมว่าจบ happy ending ได้ดีที่สุด ทุกคนสมหวัง ถึงจะดูเป็นคนไม่ดีไปปล้นเงินคนอื่นมาก็เถอะ แต่ทุกคนที่ต่างหนีหัวซุกหัวซุนตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่เสียแรงเปล่า รวยกันทุกคน แถมไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันดีทุกคน ภาคอื่นๆ บางทีจบแบบดูเซ็ตตั้งใจแถความเป็นครอบครัวจนดูเลี่ยนเกินไปสำหรับผม
13. ใครที่ดูภาค 1,4,5 ต่อกัน จะรู้ถึงความสมูทและลงตัวพีคขึ้นเรื่อยๆ ตั่งแต่ภาค 1,4 มาถึงภาค 5 อย่างดีดูสมเหตุสมผลของตัวบทและการดำเนินเรื่องของหนัง ที่มีมากกว่าภาค 6-8 หรือ ภาค
2-3 ที่ผมว่ามันดูแปลกๆไงไม่รู้ โดยเฉพาะภาค 2-3
14. ผมชอบฉากที่ขบวนรถหุ้มเกราะของฮ็ฮบบ์ถูกพวกตัวร้ายซุ่มโจมตี ลูกน้องฮ็ฮบบ์ตายเกลี้ยง ฮ็ฮบบ์ถูกแรงระเบิดนอนเจ็บ แล้วดอมไบรอัน และ วินซ์ ก็โผล่มาช่วยหยิบปืนจากศพลูกน้องของฮ็ฮบบ์มายิงพวกตัวร้าย ดูฉากนี้แล้วโคตรชอบ นับถือใจพี่ดอมจริงๆ โคตรพระเอก ถึงจะเป็นโจรไปปล้นคนอื่น แค่ก็ยังมีจิตใจดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ถึงจะเป็นคู่ปรับกันก็ตาม ช่วยฮ็ฮบบ์ ไม่งั้นฮ็ฮบบ์ไม่รอดแน่ และผมยังชอบความเป็นมนุษย์ของฮ็ฮบบ์ในภาคนี้นะ เจ็บเป็น ไม่งั้นภาคต่อๆมา ดูเหมือน Terminator + Rambo
15. ซีนขับรถไล่ล่าลากตู้เซฟตอนท้ายเรื่อง ผมยกให้เป็นซีนการไล่ล่ารถที่ดุเดือดที่สุดในหนังตระกูลฟาสทั้งแปดภาค คือ มีความเว่อร์แต่อยู่ในระดับรับได้ และไล่ล่ากันไม่ได้ดูยาวยืดเยื้อจนเกินไป ผมว่าฉากขับรถไล่ล่าในภาคนี้เทียบความดีความชอบได้กับฉากระดับตำนานอย่างเรื่อง Ronin หรือเรื่อง
The Bourne Supremacy ได้เลย ไล่ล่าด้วยรถได้เดือดพอกัน
16. เป็นภาคที่ผมเอาใจช่วยพวกดอมมากที่สุดเลยนะ จากสถานการณ์ที่พวกดอมเจอ ในภาคนี้หนักสุด หนีการไล่ล่าจับกุมของตำรวจทั้งในสหรัฐอเมริกาและตำรวจบราซิล เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ อาวุธ รวมถึงรถ ไม่ค่อยจะมีใช้ ต้องไปหาเอาดาบหน้ากันเอง แถมโดยพวกตัวร้ายตามล่ากันทั่วเมือง ขณะที่พวกดอมต้องอยู่อย่างหลบซ่อนและพยายามคิดวางแผนปล้นเงินในตู้เซฟอีก ภาคนี้เจองานหินมากๆ ดูแล้วผมลุ้นเอาใจช่วยดอมกว่าภาคอื่นเลยจริงๆ 555
17. ภาคนี้ผมว่าทิ้ง end credits ได้น่าสนใจกว่าภาคหก ตรงที่ว่า เล็ตตี้ เมียดอม ยังไม่ตาย และในข้อมูลแฟ้มอาชญากรของเธอ บอกว่าเธอไปเข้าร่วมทีมซิ่งก่อการร้าย ทำให้เราคนดูต่างคิดกีนไปต่างๆนานา ว่า ตอนภาคสี่ ที่นางถูกรถชน รถพลิกคว่ำ ถูกยิง แล้วรอดมาได้ไงขนาดตัวร้ายในภาคสี่ที่ลงมือฆ่านาง ก็เชื่อใจว่านางตายชัวร์ หลุมศพที่ฝังไปล่ะ มันยังไงกันแน่ ตรงนี้แหละที่ทำให้น่าสนใจมากๆ แถมยังมีนางเอกจาก 2 Fast 2 Furious ที่รับบทโดย อีวา เมนเดส มาแสดงรับเชิญด้วย คือ โดยส่วนตัวผมไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องของภาคสองนะ แต่ชอบนางเอกมาก และยังหวังให้นางกลับมาแจมในหนัง
ฟาสอีกครั้ง เป็น end credits ที่ผมชอบที่สุดเลย
18. เพลงประกอบในหนังภาคนี้ ผมว่าใส่มาถูกจังหวะนะ พวกเพลง rap, r&b เพลงละติน ไรพวกนี้ ไม่ได้ใส่มาฟังดูหนวกหูหรือใส่มาเกินความจำเป็น ซึ่งบางภาคใส่มามากไปจนผมรำคาญ โดยเฉพาะภาคแปด ใส่มาเยอะเกิน
19. ฉากที่ดอมสู้กับฮ็ฮบบ์ ผมว่าเป็นซีนต่อสู้มือเปล่า ที่ดูสมจริง ดุดัน และไม่ดูตลก เหมือนตอนภาคเจ็ด ที่ดอมสู้กับชอว์นะ หรือตอนท้ายเรื่องภาคหกที่สู้กันบนเครื่องบินก็ดูเว่อร์ไป ซีนดอมปะทะฮ็ฮบบ์ในภาคนี้ ดูดิบดี เหมือนแมตซ์ rampage ใหญ่ชนยักษ์ และต่างคนต่างสู้กันดูสูสีกันดี ไม่ใช่เอาประแจเหล็กใหญ่ๆมาฟาดกัน ดูตลกไงไม่รู้
20. มุขตลก ปล่อยฮาของโรมัน ผมว่าภาคนี้อยู่ในระดับโอเคเลยนะ ไม่ได้ปล่อยมามากเกินไป หรือ ดูตั้งใจที่จะเล่นมุขเกินไป ฮาเท่าที่จำเป็น รู้ว่าช่วงไหนควรเล่น ช่วงไหนควรซีเรียส ภาค 6-8 ทั้งแซว ทั้งหัวเราะ ยิงมุขแป๊กๆ ตลอดแทบทั้งเรื่อง
21. ฉากที่จีเซลขุ่นแม่ wonder woman ของเรา
ใส่บิกินี่ไปให้ตัวร้ายจับก้นเอาลายนิ้วมือ คือ เป็นอีกหนึ่งซีนที่เจ๋งมากในหนัง ผมชอบแผนของนางมาก ดูง่ายๆ แต่ฉลาดโคตรมีชั้นเชิง เอาความเป็นผู้หญิงหุ่นดีหน้าสวยไปยั่ว ตัวร้ายถึงเป็นเจ้าพ่อเจอจีเซลก็ทนไม่ไหวบีบซะเต็มที่ ซีนนี้ทำเอาฮานตาค้าง 555
22. หนังภาคนี้ผมว่ามันไม่ได้เน้นเอารถแต่ง รถหรูๆ มาขายโชว์มากเกินไป คือ รู้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับรถ แต่ภาค 6-8 เอารถมาใช้ในฉากแอ็คชั่นดูเปลืองและดูจงใจไป ที่จะเอารถมาชนกัน รถระเบิด รถพลิกคว่ำ ขับรถทะลุตึก แฮ็ครถทั้งเมืองมาชนกัน หรือโชว์ประสิทธิภาพของรถมากไป ภาคห้านี่อยู่ในระดับกำลังดี ไม่ได้ยัดเอารถมาใช้เปลืองไปหรือดูเซ็ตให้จงใจเหมือนภาคต่อๆมา
ภาคนี้ผมให้ 10/10 เลยครับ ไม่มีติ ใดๆทั้งสิ้น ดีงามพระรามเก้า ภาคอื่นๆยังดูเกินไปบ้าง เล่นไม่สุดบ้าง ภาคนี้กลมกล่อมที่สุด ภาค 6-8 เน้นใส่ cg ระเบิดตู้มต้ามเหมือนหนังไมเคิล เบย์ จงใจเอารถหรูมาโชว์มากไป เน้นสู้กัน สาดกระสุน จนผมว่าไม่มีความเป็น Fast & Furoous ภาคห้า คือ ดีที่สุดแล้ว บท การดำเนินเรื่อง แอ็คชั่นลงตัว
Fast Five เร็ว..แรงทะลุนรก 5 (2011) คือ หนังฟาสภาคที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนๆจริงหรือไม่ แต่สำหรับผมคือใช่
1. หนังฟาสภาคนี้ สามารถหยิบความเป็นหนังทีมรถซิ่งจากภาคก่อนๆได้ดี มาเพิ่มเติมคือการรวมหัวกันคิดวางแผนปล้น ทำภารกิจที่ยกระดับตัวบทของหนังและตัวละครไปได้อีกขั้นจากภาคก่อนๆ และทำได้ดูแปลกใหม่และเป็นผลดีของหนัง
2. เหมือนเป็นส่วนผสมของหนังเรื่อง The Italian Job + Gone In 60 Seconds คือ เรื่องราวของทีมปล้น มีการวางแผน หลอกล่อพวกตัวร้ายและพวกตำรวจ ที่ใช้รถซิ่งเป็นอาวุธหลักในการออกปล้น ซึ่งภาคต่อๆมา หนังเริ่มออกแนวทำภารกิจพิทักษ์โลกแบบหนังสายลับอย่าง Mission Impossible + James Bond 007 ไปแล้ว
3. เป็นภาคที่กลมกล่อมและลงตัว ทั้งตัวบท เนื้อเรื่อง การกระจายบทความเด่นของตัวละคร ที่ไม่ได้เน้นตัวดอม เด่นออกนอกหน้าโชว์เท่โชว์หล่ออยู่คนดียวเหมือนภาคหลังๆ ยังกระจายบทให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องได้ดี มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำในแต่ละตัวละคร
4. เป็นภาคที่ไม่ได้ดูโอเว่อร์จนเกินไป ขนาดภาคหลังๆ ที่พวกดอมผันตัวเป็นจนท.รัฐบาลซิ่งรถยับยั้งแผนก่อการร้าย แค่มารวมตัวกันเพื่อวางแผนปล้นตู้เซฟเงินของเจ้าพ่อค้ายาเมืองริโอเท่านั้น เพื่อถอนตัวจากวงการอาชญากรและไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่างแดน ในประเทศที่ไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดน หลีกหนีปัญหาการถูกไล่ล่าจากพวกตำรวจและศูตรเก่า ดูเมคเซ้นกว่าเนื้อเรื่องภาคหลังๆ ที่จะดูเหมือนออกทะเลไปไกลพอควร จนพวกดอม กลายเป็นทีมจารชนนักซิ่งพิทักษ์โลก เว่อร์เกินไป
5. ตัวละครของ ลุค ฮ็ฮบบ์ นายตำรวจหน่วย DSS คู่ปรับของดอม ที่นำแสดงโดย เดอะ ร็อค คือ หนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญในภาคนี้ ที่ดึงดูดให้หนังน่าสนใจขึ้น และมีฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือดขึ้นกว่าภาคก่อนๆ และสร้างชื่อเสียงของเดอะ ร็อค ที่แต่เดิมดังอยู่แล้ว ให้ดังขึ้นอีกในฐานะแอ็คชั่นสตาร์ จนหลังๆมาหนังแนวแอ็คชั่นรวมถึงหนังแนวอื่นๆของแกโผล่ออกมาเพียบ เพราะบทของ ฮ็ฮบบ์ ในเรื่องนี้แหละ แถมตัวละครของฮ็ฮบบ์ ก็คือ ตัวละครแม่เหล็กอีกตัวที่สำคัญในหนังตระกูลฟาสในภาคต่อๆมาอีกด้วย
6. เป็นภาคเดียวที่สมาชิกหลักๆเด่นๆจากฟาสภาคเก่าๆ มารวมตัวกันเกือบครบ และต่างมีบทที่โชว์ความสามารถเฉพาะตัวของตัวเองได้ดี
(ยกเว้น เล็ตตี้) ทั้ง ดอม,
ไบรอัน, มีอา, ฮาน, จีเซล, โรมัน, เทจ, วินซ์, สองนักเจาะกำแพงชาวสเปน ซึ่งภาคต่อๆมา สมาชิกในทีมก็ค่อยๆหายไป ตายในบทหนัง หรือตายจริง อย่างพระเอกหนุ่ม พอล วอล์กเกอร์ ผู้ที่รับบท ไบรอันมาตั้งแต่หนังภาคแรกนั้นเอง
7. ตัวร้ายในภาคนี้ ไม่ได้ดูเก่งเว่อร์ หรือ มีอิทธิพลถึงขนาดตัวร้ายภาคต่อๆมา ที่เป็นถึงขนาด กลุ่มทหารรับจ้าง, นักฆ่า, ทหารหน่วยรบพิเศษ, ผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ ที่ดูมีความเหนือชั้นกว่าแกงค์นักซิ่งของดอมมาก ดูไม่สมเหตุสมผลหลายๆอย่าง ที่พวกดอมจะเอาชนะได้ ดูเอามันอย่างเดียว แต่สำหรับภาคนี้ ตัวร้ายเป็นอะไรที่ไม่ได้เกินเลยกับพวกดอม ที่ก็คลุกคลีกับพวกเหล่าอาชญากร ตำรวจชั่ว เจ้าพ่อค้ายามาตั้งแต่ภาคแรกๆแล้ว และ ตัวร้ายก็ไม่ได้มีพวกเยอะหรืออาวุธไฮเทคเว่อร์เกินขนาด รถถัง, เครื่องบิน, เรือดำน้ำ, โดรนจู่โจม, ระเบิดนิวเคลียร์ จนพวกดอมรับมือไม่ไหว ดูสมจริงและเข้าท่ากว่าภาค
หลังๆ
8. ตัวละคร ตำรวจหญิงชาวบราซิลคู่หู ฮ็ฮบบ์ อย่าง
เอลิน่า ที่นำแสดงโดย เอลซ่า ปาทังกี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีบทสำคัญในภาคนี้ และดึงดูดเหล่าแฟนหนังชายมิใช่น้อย แถมยังเป็นแฟนของดอมในช่วงระยะหนึ่งด้วย (แหม..ตำรวจพี่ดอมแกก็ไม่เว้น จับทำเมียมาแล้ว แกคงนึกในใจว่าเราเป็นโจรต้องไว้ลาย 555) ด้วยความสวยและเสน่ห์ของเธอ ตัวจริงเธอเป็นภรรยาของพระเอก คริส เฮมเวิร์ธ จากเรื่อง Thor นั่นเอง
9. เป็นภาคที่ฉากแอ็คชั่นใส่มาถูกช่วงจังหวะของหนัง ไม่ใช่เน้นซิ่งรถ สู้กัน ระเบิด
ตู้มต้าม โอเว่อร์ๆเกินไป แบบภาคหลังๆ และฉากแอ็คชั่นดูในระดับมาตรฐานหนังแอ็ค
ชั่นทั่วไป ยังมีความดิบ สมจริงอยู่บ้าง และไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป อยู่ระดับกลางๆ และดูดี
10. เป็นภาคที่แสดงความเป็นครอบครัวในอุดมคติของดอม ได้ดูดี อบอุ่น และดูไม่เลี่ยนเกินไปแบบที่ตัวดอมมาเน้นพูดซึ้งๆในภาคต่อๆมา ผมชอบฉากตอนช่วงกลางเรื่องที่เหล่าสมาชิกในทีมมาล้อมวงคุยกัน กินกัน พูดหยอกล้อกัน มีความเป็นห่วงเป็นใยกันในแต่ละคน ดูความเป็นครอบครัว
11. ตัวพี่วิน ดีเซล ในบทดอม แกก็เก๊กหล่อ ทำเข้มมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะ แต่มาในภาคนี้ก็ยังดูไม่ได้ขี้เก๊ก ติดพูดคำคมดูเลี่ยนเกินไป และไม่ได้โชว์ความเป็นยอดซุปเปอร์แมนเหมือนภาคหลังๆ คือ อยู่ในระดับพอดี เก่งในระดับที่เราคนดูเชื่อได้ว่า เออ..นักซิ่งข้างถนน โจรอาชญากร มันก็เก่งแค่ระดับนี้แหละ ไม่ใช่ซุปเปอร์แมน หรือ ยอดสายลับ แบบภาคหลังๆ
12. เป็นภาคที่โดยส่วนตัวผมว่าจบ happy ending ได้ดีที่สุด ทุกคนสมหวัง ถึงจะดูเป็นคนไม่ดีไปปล้นเงินคนอื่นมาก็เถอะ แต่ทุกคนที่ต่างหนีหัวซุกหัวซุนตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่เสียแรงเปล่า รวยกันทุกคน แถมไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันดีทุกคน ภาคอื่นๆ บางทีจบแบบดูเซ็ตตั้งใจแถความเป็นครอบครัวจนดูเลี่ยนเกินไปสำหรับผม
13. ใครที่ดูภาค 1,4,5 ต่อกัน จะรู้ถึงความสมูทและลงตัวพีคขึ้นเรื่อยๆ ตั่งแต่ภาค 1,4 มาถึงภาค 5 อย่างดีดูสมเหตุสมผลของตัวบทและการดำเนินเรื่องของหนัง ที่มีมากกว่าภาค 6-8 หรือ ภาค
2-3 ที่ผมว่ามันดูแปลกๆไงไม่รู้ โดยเฉพาะภาค 2-3
14. ผมชอบฉากที่ขบวนรถหุ้มเกราะของฮ็ฮบบ์ถูกพวกตัวร้ายซุ่มโจมตี ลูกน้องฮ็ฮบบ์ตายเกลี้ยง ฮ็ฮบบ์ถูกแรงระเบิดนอนเจ็บ แล้วดอมไบรอัน และ วินซ์ ก็โผล่มาช่วยหยิบปืนจากศพลูกน้องของฮ็ฮบบ์มายิงพวกตัวร้าย ดูฉากนี้แล้วโคตรชอบ นับถือใจพี่ดอมจริงๆ โคตรพระเอก ถึงจะเป็นโจรไปปล้นคนอื่น แค่ก็ยังมีจิตใจดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ถึงจะเป็นคู่ปรับกันก็ตาม ช่วยฮ็ฮบบ์ ไม่งั้นฮ็ฮบบ์ไม่รอดแน่ และผมยังชอบความเป็นมนุษย์ของฮ็ฮบบ์ในภาคนี้นะ เจ็บเป็น ไม่งั้นภาคต่อๆมา ดูเหมือน Terminator + Rambo
15. ซีนขับรถไล่ล่าลากตู้เซฟตอนท้ายเรื่อง ผมยกให้เป็นซีนการไล่ล่ารถที่ดุเดือดที่สุดในหนังตระกูลฟาสทั้งแปดภาค คือ มีความเว่อร์แต่อยู่ในระดับรับได้ และไล่ล่ากันไม่ได้ดูยาวยืดเยื้อจนเกินไป ผมว่าฉากขับรถไล่ล่าในภาคนี้เทียบความดีความชอบได้กับฉากระดับตำนานอย่างเรื่อง Ronin หรือเรื่อง
The Bourne Supremacy ได้เลย ไล่ล่าด้วยรถได้เดือดพอกัน
16. เป็นภาคที่ผมเอาใจช่วยพวกดอมมากที่สุดเลยนะ จากสถานการณ์ที่พวกดอมเจอ ในภาคนี้หนักสุด หนีการไล่ล่าจับกุมของตำรวจทั้งในสหรัฐอเมริกาและตำรวจบราซิล เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ อาวุธ รวมถึงรถ ไม่ค่อยจะมีใช้ ต้องไปหาเอาดาบหน้ากันเอง แถมโดยพวกตัวร้ายตามล่ากันทั่วเมือง ขณะที่พวกดอมต้องอยู่อย่างหลบซ่อนและพยายามคิดวางแผนปล้นเงินในตู้เซฟอีก ภาคนี้เจองานหินมากๆ ดูแล้วผมลุ้นเอาใจช่วยดอมกว่าภาคอื่นเลยจริงๆ 555
17. ภาคนี้ผมว่าทิ้ง end credits ได้น่าสนใจกว่าภาคหก ตรงที่ว่า เล็ตตี้ เมียดอม ยังไม่ตาย และในข้อมูลแฟ้มอาชญากรของเธอ บอกว่าเธอไปเข้าร่วมทีมซิ่งก่อการร้าย ทำให้เราคนดูต่างคิดกีนไปต่างๆนานา ว่า ตอนภาคสี่ ที่นางถูกรถชน รถพลิกคว่ำ ถูกยิง แล้วรอดมาได้ไงขนาดตัวร้ายในภาคสี่ที่ลงมือฆ่านาง ก็เชื่อใจว่านางตายชัวร์ หลุมศพที่ฝังไปล่ะ มันยังไงกันแน่ ตรงนี้แหละที่ทำให้น่าสนใจมากๆ แถมยังมีนางเอกจาก 2 Fast 2 Furious ที่รับบทโดย อีวา เมนเดส มาแสดงรับเชิญด้วย คือ โดยส่วนตัวผมไม่ได้ชอบเนื้อเรื่องของภาคสองนะ แต่ชอบนางเอกมาก และยังหวังให้นางกลับมาแจมในหนัง
ฟาสอีกครั้ง เป็น end credits ที่ผมชอบที่สุดเลย
18. เพลงประกอบในหนังภาคนี้ ผมว่าใส่มาถูกจังหวะนะ พวกเพลง rap, r&b เพลงละติน ไรพวกนี้ ไม่ได้ใส่มาฟังดูหนวกหูหรือใส่มาเกินความจำเป็น ซึ่งบางภาคใส่มามากไปจนผมรำคาญ โดยเฉพาะภาคแปด ใส่มาเยอะเกิน
19. ฉากที่ดอมสู้กับฮ็ฮบบ์ ผมว่าเป็นซีนต่อสู้มือเปล่า ที่ดูสมจริง ดุดัน และไม่ดูตลก เหมือนตอนภาคเจ็ด ที่ดอมสู้กับชอว์นะ หรือตอนท้ายเรื่องภาคหกที่สู้กันบนเครื่องบินก็ดูเว่อร์ไป ซีนดอมปะทะฮ็ฮบบ์ในภาคนี้ ดูดิบดี เหมือนแมตซ์ rampage ใหญ่ชนยักษ์ และต่างคนต่างสู้กันดูสูสีกันดี ไม่ใช่เอาประแจเหล็กใหญ่ๆมาฟาดกัน ดูตลกไงไม่รู้
20. มุขตลก ปล่อยฮาของโรมัน ผมว่าภาคนี้อยู่ในระดับโอเคเลยนะ ไม่ได้ปล่อยมามากเกินไป หรือ ดูตั้งใจที่จะเล่นมุขเกินไป ฮาเท่าที่จำเป็น รู้ว่าช่วงไหนควรเล่น ช่วงไหนควรซีเรียส ภาค 6-8 ทั้งแซว ทั้งหัวเราะ ยิงมุขแป๊กๆ ตลอดแทบทั้งเรื่อง
21. ฉากที่จีเซลขุ่นแม่ wonder woman ของเรา
ใส่บิกินี่ไปให้ตัวร้ายจับก้นเอาลายนิ้วมือ คือ เป็นอีกหนึ่งซีนที่เจ๋งมากในหนัง ผมชอบแผนของนางมาก ดูง่ายๆ แต่ฉลาดโคตรมีชั้นเชิง เอาความเป็นผู้หญิงหุ่นดีหน้าสวยไปยั่ว ตัวร้ายถึงเป็นเจ้าพ่อเจอจีเซลก็ทนไม่ไหวบีบซะเต็มที่ ซีนนี้ทำเอาฮานตาค้าง 555
22. หนังภาคนี้ผมว่ามันไม่ได้เน้นเอารถแต่ง รถหรูๆ มาขายโชว์มากเกินไป คือ รู้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นเกี่ยวกับรถ แต่ภาค 6-8 เอารถมาใช้ในฉากแอ็คชั่นดูเปลืองและดูจงใจไป ที่จะเอารถมาชนกัน รถระเบิด รถพลิกคว่ำ ขับรถทะลุตึก แฮ็ครถทั้งเมืองมาชนกัน หรือโชว์ประสิทธิภาพของรถมากไป ภาคห้านี่อยู่ในระดับกำลังดี ไม่ได้ยัดเอารถมาใช้เปลืองไปหรือดูเซ็ตให้จงใจเหมือนภาคต่อๆมา
ภาคนี้ผมให้ 10/10 เลยครับ ไม่มีติ ใดๆทั้งสิ้น ดีงามพระรามเก้า ภาคอื่นๆยังดูเกินไปบ้าง เล่นไม่สุดบ้าง ภาคนี้กลมกล่อมที่สุด ภาค 6-8 เน้นใส่ cg ระเบิดตู้มต้ามเหมือนหนังไมเคิล เบย์ จงใจเอารถหรูมาโชว์มากไป เน้นสู้กัน สาดกระสุน จนผมว่าไม่มีความเป็น Fast & Furoous ภาคห้า คือ ดีที่สุดแล้ว บท การดำเนินเรื่อง แอ็คชั่นลงตัว