Furious 7 มาเป็นผู้กำกับ James Wan ที่ส่วนใหญ่จะกำกับแต่หนังผีอย่างเรื่อง The Conjuringไม่ก็หนังแนวทริลเลอร์ฆาตกรโรคจิตอย่าง เรื่อง Saw พอแกมาทำหนังแอ็คชั่นเต็มตัวเรื่องแรกอย่างฟาสภาคนี้ กลายเป็นแกไม่เข้าใจคอนเซ็ปจากหนังภาคก่อนๆรึยังไง คือ จากหนังรวมทีมยอดนักซิ่งที่ผันตัวมาเป็นอาชญากรปล้นเงินร้อยล้านมาช่วยงานตำรวจ ที่ยังมีส่วนผสมของหนังแข่งรถอยู่ กลายมาเป็น ยอดทีมสายลับทำงานสู้กับพวกกลุ่มทหารรับจ้าง นักฆ่า เน้นยิงกัน สู้กัน จนไม่หลงเหลือความเป็นหนังรถซิ่งแบบฟาสภาคก่อนๆเลย
ก่อนหน้าตอนฟาสกลับมาเริ่มดังอีกครั้งในภาคสี่ ได้ผกก.อย่าง จัสติน หลิน กำกับ ซึ่งก่อนหน้าแกก็กำกับฟาสภาคโตเกียวดริฟท์ มาทำงานร่วมกับมือเขียนบทอย่าง คริส มอร์แกน ที่แกคนนี้เขียนบทหนังเรื่องนี้ลากยาวมาตั้งแต่ภาคสามยันภาคแปด คือ ภาคโตเกียวดริฟท์ สำหรับผม ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ หนังออกดราม่า และเน้นแข่งรถดริฟท์รถจ๋าเกินไป เหมือนดูหนังพระเอกเป็นเด็กวัยรุ่นมีปัญหาอยากลบปมด้อยเรื่องครอบครัวของตัวเองไงอย่างงั้น ที่ชอบอย่างเดียว คือ ภาคนี้พี่ฮานโคตรเด่น เรียกว่า เป็นพระเอกเลยก็ว่าได้ หนังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนจบของหนังได้ดารารับเชิญอย่าง วิน ดีเซล พระเอกจากหนังฟาสภาคแรกมากู้หน้าไว้ ทำให้คนดูส่วนใหญ่อยากเห็นพี่แกกลับมาในหนังชุดนี้อีกครั้ง
มาเนื้อเรื่องและตอนต่อในภาคสี่ ได้ตัว วิน ดีเซล กับ พอล วอล์กเกอร์ และตัวละครเก่าๆจากภาคแรกโคจรกลับมาอีกครั้ง หนังยังให้เห็นความเป็นฟาสต้นฉบับอยู่ มีการแข่งรถ รถแต่ง แต่เนื้อหาของหนังก็เริ่มปูทางมาเป็นหนังอาชญากรรมและแอ็ค
ชั่นมากขึ้นกว่าสามภาคแรก มาแนวหนังตำรวจจับโจร ไม่ใช่เน้นเรื่องซิ่งรถแข่งกันอย่างเดียว เนื้อเรื่องดูมีปมและเข้มข้นขึ้น สำหรับผม ผมว่าตัวจัสติน หลินและคริส มอร์แกน ทำการบ้านในภาคนี้ได้ดีกว่าภาคก่อนครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำหนังเก่าที่กำลังปิดตัวลง มาทำใหม่ และให้ดูน่าสนใจขึ้น ภาคสี่ ตัว วิน ดีเซล นอกจากจะแสดงนำแล้ว พี่แกยังเป็นโปรดิวเซอร์อีก หนังดูทุนหนาขึ้น ดูอลังกว่าภาคก่อนๆ
พอภาคสี่หนังกลับมาดังอีกครั้ง ทางค่ายสตูดิโอเห็นว่าหนังเริ่มปูเนื้อเรื่องใหม่มาทางแอ็คชั่นได้ดี เฮียหลินเลยได้กำกับต่ออีกสองภาค ภาคห้า นี่ผมว่าหนังกลมกล่อมที่สุดแล้ว มันมาแนวหนังวางแผนปล้น โชว์กึ๋นของทีม บู๊กำลังดี ไม่มากไปหรือน้อยไป อารมณ์เหมือนดูหนังเรื่อง The Italian Job แต่แอ็ค
ชั่นมากกว่า
ภาคนี้มันปังกว่าภาคสี่เพราะได้ เดอะ ร็อค มาแสดงในบท นายตำรวจฮ็อบบ์ด้วยนี่แหละ ทวีคูณความเดือดขึ้น หนังเริ่มมีฉากแอ็คชั่นที่มากกว่าการซิ่งรถไล่ล่า เริ่มดำเนินหนังด้วยการไล่ล่า ชิงไหวชิงพริบระหว่างพวกดอมกับพวกฮ็ฮบบ์ ตัวร้ายดูมีพาวเวอร์และน่าเกรงขามขึ้นกว่าภาคก่อนๆ ฉากต่อสู้และฉากยิงกัน ทำได้สนุกดี แถมฉากสุดท้าย ขับรถลากตู้เซฟ ผมว่าเป็นฉากขับรถไล่ล่าที่ดูดีและสนุกที่สุดของหนังตระกูลฟาสเลย ยิ่งตอนแอบสลับตู้เซฟหลอกฮ็ฮบบ์นี่ ชอบมาก ได้โชว์กึ๋นของทีมนี้อย่างแท้จริง ที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นนักซิ่งรถ ยังใช้สมองอีกด้วย
ด้วยความดังระเบิดของภาคห้า ภาคหกกลับมา โดยนำตัวละครที่หลายคนคิดว่าตายแล้วกลับมาอย่าง เล็ตตี้ ที่ดันความจำเสื่อมไปทำงานอยู่กับพวกตัวร้าย ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้ จากพวกดอมเป็นยอดโจรต้องผันตัวมาทำงานให้ตำรวจอย่างฮ็ฮบบ์ หนังมันอัพสกิลไปอีก มีความเว่อร์ขึ้นในด้านฉากแอ็คชั่น อย่างฉากกลุ่มรถซิ่งไปสกัดรถถัง หรือ ฉากสู้กับบนเครื่องบินตอนท้ายเรื่อง แต่ผมก็ยังพอรับได้นะ ถึงภาคห้ากับภาคหก หนังจะให้พี่ดอมดูบทเด่นกว่าไบรอันก็เถอะ ผมว่าภาคหกดร็อปความสนุก ลุ้น แบบภาคห้าไปนิด แต่ตัวบทก็ยังโอเคอยู่ หนังมันเล่นไทม์ไลน์ได้ดีระหว่างเหตุการณ์ภาคสี่และการตายของฮานในภาคโตเกียวดริฟท์ ที่ทำหลายๆคน งง ว่าเหตุการณ์ไหนมาก่อนหลัง
ทำไม่นึกเลยว่า ภาคหกจะย้อนภาพเหตุการณ์ไปในภาคสี่ที่ทั้งดอมและไบรอัน คิดว่า เล็ตตี้ถูกฟินิกซ์ลูกน้องบราก้ายิงกระบาลตายไปแล้ว แต่หนังกลับเอาตัวละครอย่าง บราก้ากลับมา บอกความจริงกับไบรอันว่า จริงๆฟินิกซ์มันยิงถังน้ำมันรถเล็ตตี้ระเบิด หวังให้นางตายนั่นแหละ แต่นางเป็นพวกดาย ฮาร์ด รอดตายมาได้ แต่ดันความจำเสื่อม แต่พวกตัวร้ายภาคหกดันทำงานร่วมกับพวกบราก้า เห็นโอกาสเหมาะเจาะเลยเอาเจ๊เล็ตตี้เมียพี่ดอมมาเข้าพวกซะเลย คือ ผมว่าเฮียคริสแกเขียนบทดีนะ หรือฉาก end credits ปริศนาการตายของพี่ฮาน ที่ถูกรถชน ก็ถูกเปิดเผยว่าเป็นฝีมือของ เด็ดคาร์ด ชอว์ ที่แสดงโดย เจสัน สเตแธม พี่ชายของโอเว่น ชอว์ ตัวร้ายภาคหก
มาภาค 7 เฮ้ย... เฮียเจมส์ ไม่ได้ย้อนดูภาคก่อนๆเหรอ อ่านแต่เรื่องย่อกับบทสรุปของหนังรึเปล่า ทำไมหนังมันดูโอเว่อร์แบบนี้ มันกลายเป็นหนังสายลับบู๊ระห่ำ แบบ Mission Impossible ไม่ก็ James Bond 007 มีอะไรนะ เทคโนโลยีไล่ล่าผู้ร้ายสุดไฮเทคอย่าง God's eye หรือ ตาเทพ มาแฮ็คใช้กันในภาคนี้ คือถ้ามันไปใช้ในหนัง MI หรือ 007 จะไม่ว่าเลย นี่มันหนังเรื่องฟาสนะ เฮียคริสก็เขียนบทดูเว่อร์เกิน ไหนจะการเอาเฮียเหม่งขาบู๊อย่าง เจสัน มาแสดงบทร้ายอีก คือ ผมดูหนังแกมาแทบทุกเรื่อง เรื่องนี้แอบดีใจได้เห็นแกมาแจมในฟาส แต่ดูเฮียเจมส์จะใช้งานเฮียเหม่งไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ ผมว่าแกบู๊ได้ดีนะ ในเรื่องนี้ แต่มันน่าจะดูสมศักดิ์ศรีความเป็นเจสันแบบเรื่องก่อนๆหน่อย อย่าง Transporter หรือ Crank คือ แกปล่อยของน้อยไปหน่อย ดูพวกดอมกับไบรอันจะเก่งกันมากไปเกินหน้าเกินตา คือ ภาคห้า ภาคหก กว่าจะรู้ทันแผนพวกตัวร้าย หรือ ทำภารกิจสำเร็จมันดูยากกว่านี้ ไม่ใช่มาบู๊แหลกแจกกระสุนท่าเดียว
คือ ดูเพลินๆ ผมว่าภาคเจ็ด มันนะ แต่เทียบกับภาคห้ากับภาคหก หนังมันดูมีกึ๋นกว่านี้ มันยังมีการวางแผนคิด ภาคเจ็ดนี่ เฮ้ย..เอามันกับฮาอย่างเดียว แต่ผมชอบฉากที่ดอมกับพวกใช้รถซิ่งมาดัดแปลงกับรถหุ้มเกราะของทหารนะ ที่ใช้ทำภารกิจช่วยแรมซีย์ในขบวนรถทหารรับจ้าง มันดูมีความเป็นฟาสหน่อย คือ จะแอ็คชั่นไล่ล่ารถ ไล่ยิงกัน ก็ได้แบบระห่ำสาดกระสุนไม่เลี้ยงแต่หนังคงเป็นหนังทีมอยู่ ยังใช้รถเป็นอาวุธหลักในการบรรลุภารกิจ แต่ฉากผู้หญิงต่อสู้ ผมดูแล้วขัดใจ คือ เล็ตตี้ มาจากสก๊อยข้างถนน เก่งซิ่งรถอะไม่แปลก แต่มาลุยเดี่ยวเตะต่อยกับพวกบอดี้การ์ดหุ่นล้ำๆ แล้วชนะนี่ แปลกมาก คือ ภาคก่อน มีฉากนางสู้กับตำรวจหญิงคู่หูฮ็ฮบบ์อะ ทำได้ดี ดูสูสีกันหน่อย และเล็ตตี้ก็ยังไม่ได้สู้เก่งเว่อร์จะรอดมาเพราะ โชคช่วยด้วย ภาคเจ็ด คือ นางคนเดียวอัดพวกการ์ดสี่ห้าคนอยู่หมัด แบบ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายดูแล้วแอบเซ็ง เอา รอนด้า ราวซี่ มาบู๊ซะเสียของ ไปเลย ...
เดี๋ยวมาต่อครับ
ผู้กำกับ Justin Lin กำกับหนังเรื่อง Fast & Furious ภาค 4-6 โอเคมากๆ แต่พอเปลี่ยนผู้กำกับสองภาคหลัง...
ก่อนหน้าตอนฟาสกลับมาเริ่มดังอีกครั้งในภาคสี่ ได้ผกก.อย่าง จัสติน หลิน กำกับ ซึ่งก่อนหน้าแกก็กำกับฟาสภาคโตเกียวดริฟท์ มาทำงานร่วมกับมือเขียนบทอย่าง คริส มอร์แกน ที่แกคนนี้เขียนบทหนังเรื่องนี้ลากยาวมาตั้งแต่ภาคสามยันภาคแปด คือ ภาคโตเกียวดริฟท์ สำหรับผม ผมไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ หนังออกดราม่า และเน้นแข่งรถดริฟท์รถจ๋าเกินไป เหมือนดูหนังพระเอกเป็นเด็กวัยรุ่นมีปัญหาอยากลบปมด้อยเรื่องครอบครัวของตัวเองไงอย่างงั้น ที่ชอบอย่างเดียว คือ ภาคนี้พี่ฮานโคตรเด่น เรียกว่า เป็นพระเอกเลยก็ว่าได้ หนังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนจบของหนังได้ดารารับเชิญอย่าง วิน ดีเซล พระเอกจากหนังฟาสภาคแรกมากู้หน้าไว้ ทำให้คนดูส่วนใหญ่อยากเห็นพี่แกกลับมาในหนังชุดนี้อีกครั้ง
มาเนื้อเรื่องและตอนต่อในภาคสี่ ได้ตัว วิน ดีเซล กับ พอล วอล์กเกอร์ และตัวละครเก่าๆจากภาคแรกโคจรกลับมาอีกครั้ง หนังยังให้เห็นความเป็นฟาสต้นฉบับอยู่ มีการแข่งรถ รถแต่ง แต่เนื้อหาของหนังก็เริ่มปูทางมาเป็นหนังอาชญากรรมและแอ็ค
ชั่นมากขึ้นกว่าสามภาคแรก มาแนวหนังตำรวจจับโจร ไม่ใช่เน้นเรื่องซิ่งรถแข่งกันอย่างเดียว เนื้อเรื่องดูมีปมและเข้มข้นขึ้น สำหรับผม ผมว่าตัวจัสติน หลินและคริส มอร์แกน ทำการบ้านในภาคนี้ได้ดีกว่าภาคก่อนครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำหนังเก่าที่กำลังปิดตัวลง มาทำใหม่ และให้ดูน่าสนใจขึ้น ภาคสี่ ตัว วิน ดีเซล นอกจากจะแสดงนำแล้ว พี่แกยังเป็นโปรดิวเซอร์อีก หนังดูทุนหนาขึ้น ดูอลังกว่าภาคก่อนๆ
พอภาคสี่หนังกลับมาดังอีกครั้ง ทางค่ายสตูดิโอเห็นว่าหนังเริ่มปูเนื้อเรื่องใหม่มาทางแอ็คชั่นได้ดี เฮียหลินเลยได้กำกับต่ออีกสองภาค ภาคห้า นี่ผมว่าหนังกลมกล่อมที่สุดแล้ว มันมาแนวหนังวางแผนปล้น โชว์กึ๋นของทีม บู๊กำลังดี ไม่มากไปหรือน้อยไป อารมณ์เหมือนดูหนังเรื่อง The Italian Job แต่แอ็ค
ชั่นมากกว่า
ภาคนี้มันปังกว่าภาคสี่เพราะได้ เดอะ ร็อค มาแสดงในบท นายตำรวจฮ็อบบ์ด้วยนี่แหละ ทวีคูณความเดือดขึ้น หนังเริ่มมีฉากแอ็คชั่นที่มากกว่าการซิ่งรถไล่ล่า เริ่มดำเนินหนังด้วยการไล่ล่า ชิงไหวชิงพริบระหว่างพวกดอมกับพวกฮ็ฮบบ์ ตัวร้ายดูมีพาวเวอร์และน่าเกรงขามขึ้นกว่าภาคก่อนๆ ฉากต่อสู้และฉากยิงกัน ทำได้สนุกดี แถมฉากสุดท้าย ขับรถลากตู้เซฟ ผมว่าเป็นฉากขับรถไล่ล่าที่ดูดีและสนุกที่สุดของหนังตระกูลฟาสเลย ยิ่งตอนแอบสลับตู้เซฟหลอกฮ็ฮบบ์นี่ ชอบมาก ได้โชว์กึ๋นของทีมนี้อย่างแท้จริง ที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นนักซิ่งรถ ยังใช้สมองอีกด้วย
ด้วยความดังระเบิดของภาคห้า ภาคหกกลับมา โดยนำตัวละครที่หลายคนคิดว่าตายแล้วกลับมาอย่าง เล็ตตี้ ที่ดันความจำเสื่อมไปทำงานอยู่กับพวกตัวร้าย ความน่าสนใจมันอยู่ตรงนี้ จากพวกดอมเป็นยอดโจรต้องผันตัวมาทำงานให้ตำรวจอย่างฮ็ฮบบ์ หนังมันอัพสกิลไปอีก มีความเว่อร์ขึ้นในด้านฉากแอ็คชั่น อย่างฉากกลุ่มรถซิ่งไปสกัดรถถัง หรือ ฉากสู้กับบนเครื่องบินตอนท้ายเรื่อง แต่ผมก็ยังพอรับได้นะ ถึงภาคห้ากับภาคหก หนังจะให้พี่ดอมดูบทเด่นกว่าไบรอันก็เถอะ ผมว่าภาคหกดร็อปความสนุก ลุ้น แบบภาคห้าไปนิด แต่ตัวบทก็ยังโอเคอยู่ หนังมันเล่นไทม์ไลน์ได้ดีระหว่างเหตุการณ์ภาคสี่และการตายของฮานในภาคโตเกียวดริฟท์ ที่ทำหลายๆคน งง ว่าเหตุการณ์ไหนมาก่อนหลัง
ทำไม่นึกเลยว่า ภาคหกจะย้อนภาพเหตุการณ์ไปในภาคสี่ที่ทั้งดอมและไบรอัน คิดว่า เล็ตตี้ถูกฟินิกซ์ลูกน้องบราก้ายิงกระบาลตายไปแล้ว แต่หนังกลับเอาตัวละครอย่าง บราก้ากลับมา บอกความจริงกับไบรอันว่า จริงๆฟินิกซ์มันยิงถังน้ำมันรถเล็ตตี้ระเบิด หวังให้นางตายนั่นแหละ แต่นางเป็นพวกดาย ฮาร์ด รอดตายมาได้ แต่ดันความจำเสื่อม แต่พวกตัวร้ายภาคหกดันทำงานร่วมกับพวกบราก้า เห็นโอกาสเหมาะเจาะเลยเอาเจ๊เล็ตตี้เมียพี่ดอมมาเข้าพวกซะเลย คือ ผมว่าเฮียคริสแกเขียนบทดีนะ หรือฉาก end credits ปริศนาการตายของพี่ฮาน ที่ถูกรถชน ก็ถูกเปิดเผยว่าเป็นฝีมือของ เด็ดคาร์ด ชอว์ ที่แสดงโดย เจสัน สเตแธม พี่ชายของโอเว่น ชอว์ ตัวร้ายภาคหก
มาภาค 7 เฮ้ย... เฮียเจมส์ ไม่ได้ย้อนดูภาคก่อนๆเหรอ อ่านแต่เรื่องย่อกับบทสรุปของหนังรึเปล่า ทำไมหนังมันดูโอเว่อร์แบบนี้ มันกลายเป็นหนังสายลับบู๊ระห่ำ แบบ Mission Impossible ไม่ก็ James Bond 007 มีอะไรนะ เทคโนโลยีไล่ล่าผู้ร้ายสุดไฮเทคอย่าง God's eye หรือ ตาเทพ มาแฮ็คใช้กันในภาคนี้ คือถ้ามันไปใช้ในหนัง MI หรือ 007 จะไม่ว่าเลย นี่มันหนังเรื่องฟาสนะ เฮียคริสก็เขียนบทดูเว่อร์เกิน ไหนจะการเอาเฮียเหม่งขาบู๊อย่าง เจสัน มาแสดงบทร้ายอีก คือ ผมดูหนังแกมาแทบทุกเรื่อง เรื่องนี้แอบดีใจได้เห็นแกมาแจมในฟาส แต่ดูเฮียเจมส์จะใช้งานเฮียเหม่งไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ ผมว่าแกบู๊ได้ดีนะ ในเรื่องนี้ แต่มันน่าจะดูสมศักดิ์ศรีความเป็นเจสันแบบเรื่องก่อนๆหน่อย อย่าง Transporter หรือ Crank คือ แกปล่อยของน้อยไปหน่อย ดูพวกดอมกับไบรอันจะเก่งกันมากไปเกินหน้าเกินตา คือ ภาคห้า ภาคหก กว่าจะรู้ทันแผนพวกตัวร้าย หรือ ทำภารกิจสำเร็จมันดูยากกว่านี้ ไม่ใช่มาบู๊แหลกแจกกระสุนท่าเดียว
คือ ดูเพลินๆ ผมว่าภาคเจ็ด มันนะ แต่เทียบกับภาคห้ากับภาคหก หนังมันดูมีกึ๋นกว่านี้ มันยังมีการวางแผนคิด ภาคเจ็ดนี่ เฮ้ย..เอามันกับฮาอย่างเดียว แต่ผมชอบฉากที่ดอมกับพวกใช้รถซิ่งมาดัดแปลงกับรถหุ้มเกราะของทหารนะ ที่ใช้ทำภารกิจช่วยแรมซีย์ในขบวนรถทหารรับจ้าง มันดูมีความเป็นฟาสหน่อย คือ จะแอ็คชั่นไล่ล่ารถ ไล่ยิงกัน ก็ได้แบบระห่ำสาดกระสุนไม่เลี้ยงแต่หนังคงเป็นหนังทีมอยู่ ยังใช้รถเป็นอาวุธหลักในการบรรลุภารกิจ แต่ฉากผู้หญิงต่อสู้ ผมดูแล้วขัดใจ คือ เล็ตตี้ มาจากสก๊อยข้างถนน เก่งซิ่งรถอะไม่แปลก แต่มาลุยเดี่ยวเตะต่อยกับพวกบอดี้การ์ดหุ่นล้ำๆ แล้วชนะนี่ แปลกมาก คือ ภาคก่อน มีฉากนางสู้กับตำรวจหญิงคู่หูฮ็ฮบบ์อะ ทำได้ดี ดูสูสีกันหน่อย และเล็ตตี้ก็ยังไม่ได้สู้เก่งเว่อร์จะรอดมาเพราะ โชคช่วยด้วย ภาคเจ็ด คือ นางคนเดียวอัดพวกการ์ดสี่ห้าคนอยู่หมัด แบบ ไม่ได้ลำบากอะไรมากมายดูแล้วแอบเซ็ง เอา รอนด้า ราวซี่ มาบู๊ซะเสียของ ไปเลย ...
เดี๋ยวมาต่อครับ