สวัสดีครับวันนี้ผมก็มีสินค้าใหม่มารีวิวให้ดูครับ นั้นก็คือเจ้า DJI OsmoAction ที่เพิ่งเปิดตัวกันไม่นานมานี้ เชื่อว่าหลายท่านก็คงได้เห็นรูปร่างหน้าตา สเปคกันมาพอสมควรแล้ว ซึ่งผมคงจะไม่เน้นมากในเรื่องเหล่านั้น โดยสิ่งที่อยากจะนำเสนอก็จะประกอบด้วยหัวข้อต่างๆเหล่านี้
1.สเปคกล้อง รูปร่างหน้าตาภายนอก
2.ความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้งานจริง ลุยจริง
3.ภาพและวีดีโอตัวอย่าง,รวมถึงเทคนิคการถ่ายที่ผมใช้
4.สรุปข้อดีและข้อด้อยที่ควรปรับปรุง
-------------1.สเปคกล้อง รูปร่างหน้าตา----------------
- กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 145 องศา f/2.8
- ชัตเตอร์สปีด 1/8000 - 120s
- จอด้านหลังขนาด 2.25 นิ้ว
- จอด้านหน้า ขนาด 1.4 นิ้ว
- เซ็นเซอร์CCD ขนาด 1/2.3″
- ถ่ายวิดีโอ 4k ที่ 60fps , Full HD ที่ 240 fps
- ถ่าย Slow-Motion ได้ที่ 8x
- มีระบบ Timewarp/Hyperlapse (ยังไม่มีในเฟริมแวร์นี้)
- มีระบบ Video Stabilization แบบ RockSteady
- กันน้ำได้โดยไม่ต้องใส่เคสที่ 11 เมตร
- สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้
- มีโหมด HDR Video
- เชื่อมต่อข้อมูลและการถ่ายได้ด้วย Smart Phone
ในกล้องเมื่อเปิดออกมาก็จะประกอบด้วย DJI Osmo Action , Case กนักระแทก , แบตตารี่พร้อมกล่องเก็บเรียบร้อย , คู่มือ , สายชาร์ตแบต ,
อุปกรณ์ยึดติด
รูปร่างหน้าตาของเจ้า DJI Osmo Action ความรู้สึกตอนที่ได้จับครั้งแรกก็ต้องยอมรับเลยดีไซด์วัสดุมีความคล้ายครึง Goproมากๆ
แต่ให้สเปคที่ดีกว่าและที่สำคัญถูกกว่า Goproนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
-------------2.ความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้งานจริง ลุยจริง----------------
---ภายนอก---
- มีจอหน้าช่วยให้เวลาเราถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองง่ายขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องมานั่งมโนว่าถ่ายออกมาจะได้มุมหล่อมุมสวยตามที่ตัวเองต้องการไหม
- หน้าจอทัชลื่นและง่ายมาก เคยใช้ Goproและให้ความรู้สึกว่าทัชยากกว่า Djiบอกเลยง๊ายง่าย
- หน้าจอหลังใหญ่มากอายุมากแล้วจะได้มองเห็น^^
- สามารถใช้อุปกรณ์ accessories ของ Goproได้
- วัสดุ ปุ่มกดแข็งแรงทนทาน เวลาถือแล้วดูแพง
- แต่ไม่ค่อยชอบรูปร่างหน้าตาตัวกล้องมันดูไม่ค่อยหล่อ แต่เท่าที่ทราบมาก็คือมันออกแบบให้สามารถถอดออกเพื่อใส่ Filter NDได้ (เป็นประโยชน์มากสำคัญคนชอบถ่าย Video)
- ฝาปิดแบตแบตสามารถถอดออกได้ อันนี้ชอบเพราะเวลาถ่าย Timelapseใช้เวลาการถ่ายมาก ทำให้สามารถนำสามารถนำ Powder Bank มาเสียบข้างๆเวลาถ่ายได้
- ฝาปิดช่องเก็บแบตไม่มี เพราะมันถูกออกแบบให้ฝาไปยึดติดกับแบต (อันนี้แปลกใจนิดหนึ่งว่าทำไหมต้องทำแบบนี้) เพราะเวลาไม่ได้ใช้นานๆเราจะต้องถอดแบตออกทำให้มีโอกาศฝุ่นเข้าไปด้านใน
---ภายใน---
- ฟังชั้นการถ่ายภาพ วีดีโอด้านในกดง่ายโดยการสไลด์มือ ซ้าย ขวา บน ล่าง
- มีโหมดการถ่ายภาพทั้ง Auto และ Manual ช่วยให้ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพสามารถใช้งานได้ตาามต้องการ
- สามารถถ่ายไฟล์ภาพ RAW ได้ช่วยให้สามารถนำภาพไป Proccess ได้ต่อ
- มีโหมดการถ่าย DEWARP อันนี้แจ่มและถูกใจสุดๆครับ เป็นคำสั่งเมื่อเราเปิดจะช่วยให้กล้องเราภาพถ่ายออกมาไม่บวม ตึกไม่เบี้ยว
- สามารถเชื่อมต่อมือถือเพื่อโหลดข้อมูลหรือตั้งค่าในการถ่าย แต่แอบConnectกับโทรศัพยากนิดหนึ่ง น่าจะเกิดจากซอฟแวร์
- มีโหมด Video HDR ช่วยให้เราสามารถถ่ายวีดีโอย้อนแสงได้ง่าย หน้าคนที่เราถ่ายไม่มืด
- การถ่ายภาพนิ่งสำคัญมืออาชีพสามารถถ่ายคล่อมได้ถึง 5EV
---------------3.ภาพและวีดีโอตัวอย่าง,รวมถึงเทคนิคการถ่ายที่ผมใช้---------------------
---เทคนิคการถ่าย Timelapse ด้วย Osmo Action---
- โดยปกติการถ่าย Timelapse ถ้าแสงบริเวณถ่ายนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงไม่มาก เช่นถ่าย TImelapseตอนกลางวันแดดเปลี้ยงๆเราก็สามารถ เข้าMenu Timelapse แบบ Auto ได้เลยไม่ต้อง Set อะไรมาก ถ่ายมาได้ตัวVideo เลย
- แต่ถ้าเราต้องการถ่าย Timelapse ในที่ที่แสงน้อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงของแสงมาก เช่นถ่ายตอนเย็นลากไปถึงกลางคืน ผมแนะนำให้ถ่ายเป็นภาพชนิด RAW File ต่อเนื่องหลายร้อยใบแล้วนำมารวมด้วยโปรแกรมในคอม เช่น Adobe Affect Effect,Adobe Premium Pro เป็นต้น
เรามาดูการตั้งค่ากล้องกัน
1.เข้าโหมด Photo เลือก Timed (ถ่ายแบบเว้นช่วงเวลา Interval)
2.เลือกโหมดการถ่ายเป็น Auto เพื่อให้กล้องคำนวณความสว่างมืดตลอดเวลาสร้างเปลี่ยน
3.ปรับ ISO Maxไม่เกิน 200-400 เพื่อไม่ให้กล้องดัน ISOมากจนเกินไปทำให้เกิด Noise
4.ปรับ EV ให้เหมาะกับภาพถ้าลองถ่ายใบแลกแล้วสว่างเกินไปให้ปรับ EV-.....ลงมาจนภาพพอดี แต่ถ้าลองถ่ายออกมามืดให้ปรับ EV ขึ้นจนภาพสว่าง
5.เข้าโหมดรูปกล้องด้านล่าง ปรับ WB เป็นกำหนดเอง แนะนำให้ลองดูจนโทนสีในภาพเป็นที่พอใจ ไม่แนะนำให้เลือก Autoเวลาถ่ายTimelapse เพราะกล้องจำคำนวณ WBได้ไม่ดีทำให้เวลาไปรวมเป็นไฟล์ Video มีโอกาสเกิดสีเพี้ยนบางช็อต
6.เปิดคำสั่ง Dewarpเป็น ON เพื่อลดอาการเลนส์บวมและตึกเบี้ยว
7.ปรับ Format ภาพเป็น J+R คือถ่ายภาพออกทั้งไฟล์ JPEG และ RAW
8.เลือกขนาด Ratio หรือสัดส่วนภาพเป็น 16:9
9.กำหนด Interval คือ ให้แต่ล่ะภาพนั้นถ่ายทุกๆกี่วิ มีตั้งแต่ทุกๆ2วิ ถึง 125วิ
10.วางขาตั้วลงบนพื้นที่ที่มั่นคง หรือขาตั้งกล้องก่อนถ่ายเพื่อป้องกันการสั่นไหวของภาพ
11.คำนวณเวลาที่ใช้ถ่าย ขออนุญาตินำลิงค์การคำนวณมาแปะ (นี้เป็นเพียงการคำนวณเวลาขั้นพื้นฐาน พอฝึกจนเข้าใจก็สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงตามใจตนเองได้อีก)
http://www.zoomcamera.net/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5/How-to-shoot-Time-Lapse-Photography.html
12.นำภาพที่ได้ทั้งมาปรับโทนสีความสว่างอีกครั้งตามใจตนเอง และนำไปร่วมในโปรแกรม เช่น Adobe Affect Effect,Adobe Premium Pro เป็นต้น
ซึ่งในกระทู้นี้คงไม่ได้ส่วนการรวมในโปรแกรมน่ะครับไม่งั้นคงจะยางแน่ๆ แต่สามารถหาวิธีได้ใน Google ทั่วไปไม่ยากเลย
---เทคนิคการถ่าย ภาพด้วย Osmo Action---
สถานที่ถ่าย โรงแรม Prime Hotel Central Station Bangkok
https://goo.gl/maps/MdAQa4iL2iJa7qEF9
เทคนิคการถ่ายภาพนี้
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 1 ทุ่ม
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ Photo - AEB
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 0.6วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop แล้วทำโทน
สถานที่ถ่าย ร่มโพธิ์คอนโดมิเนียม
https://goo.gl/maps/s6DDd1QMAN68hJ2x5
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอสะพานเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 100 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO200 F2.8 Speedshutter 1/8 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 100 ภาพมารวมกันใน Photoshop แล้วใช้คำสั่ง Stack ฟ้าไหล
สถานที่ถ่าย วัดเบญจมบพิตร
https://goo.gl/maps/2q4Rj8P7oLjFPtUg6
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม แล้วนำกล้องมาวางในน้ำขังเพื่อเอาเงาสะท้อน
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย คอนโด STATE Tower
https://goo.gl/maps/3y2nNc2ae3oiBjGt8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอจังหวะที่มีสายฟ้าผ่าลงมา
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 100 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M แล้วมานั่งเลือกรูปที่ติดฟ้าผ่า
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำภาพมา Proccess ต่อใน Photoshop
สถานที่ถ่าย The Deck by Arun Residence
https://goo.gl/maps/r1WyiNr8jpkNyWbe8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอวัดเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO200 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย สะพานลอยหน้าห้อง SIam Discovery .
https://goo.gl/maps/nQZtsR1e1hxjH4Lv8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอห้างเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/20 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย สนามหลวง ช่วงวันงานเฉลิมพระเกียรติ
https://goo.gl/maps/3Lt7Wgrpd8t4YixDA
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอดอกไม้เปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอถนนเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1.6 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
ภาพและวีดีโอทั้งหมดผมใช้ กล้อง Osmi Actionถ่ายทำทั้งหมด
[SR] รีวิว DJI Osmo Action ฉบับเน้นการถ่ายภาพ
1.สเปคกล้อง รูปร่างหน้าตาภายนอก
2.ความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้งานจริง ลุยจริง
3.ภาพและวีดีโอตัวอย่าง,รวมถึงเทคนิคการถ่ายที่ผมใช้
4.สรุปข้อดีและข้อด้อยที่ควรปรับปรุง
-------------1.สเปคกล้อง รูปร่างหน้าตา----------------
- กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 145 องศา f/2.8
- ชัตเตอร์สปีด 1/8000 - 120s
- จอด้านหลังขนาด 2.25 นิ้ว
- จอด้านหน้า ขนาด 1.4 นิ้ว
- เซ็นเซอร์CCD ขนาด 1/2.3″
- ถ่ายวิดีโอ 4k ที่ 60fps , Full HD ที่ 240 fps
- ถ่าย Slow-Motion ได้ที่ 8x
- มีระบบ Timewarp/Hyperlapse (ยังไม่มีในเฟริมแวร์นี้)
- มีระบบ Video Stabilization แบบ RockSteady
- กันน้ำได้โดยไม่ต้องใส่เคสที่ 11 เมตร
- สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้
- มีโหมด HDR Video
- เชื่อมต่อข้อมูลและการถ่ายได้ด้วย Smart Phone
ในกล้องเมื่อเปิดออกมาก็จะประกอบด้วย DJI Osmo Action , Case กนักระแทก , แบตตารี่พร้อมกล่องเก็บเรียบร้อย , คู่มือ , สายชาร์ตแบต ,
อุปกรณ์ยึดติด
รูปร่างหน้าตาของเจ้า DJI Osmo Action ความรู้สึกตอนที่ได้จับครั้งแรกก็ต้องยอมรับเลยดีไซด์วัสดุมีความคล้ายครึง Goproมากๆ
แต่ให้สเปคที่ดีกว่าและที่สำคัญถูกกว่า Goproนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
-------------2.ความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้งานจริง ลุยจริง----------------
---ภายนอก---
- มีจอหน้าช่วยให้เวลาเราถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองง่ายขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องมานั่งมโนว่าถ่ายออกมาจะได้มุมหล่อมุมสวยตามที่ตัวเองต้องการไหม
- หน้าจอทัชลื่นและง่ายมาก เคยใช้ Goproและให้ความรู้สึกว่าทัชยากกว่า Djiบอกเลยง๊ายง่าย
- หน้าจอหลังใหญ่มากอายุมากแล้วจะได้มองเห็น^^
- สามารถใช้อุปกรณ์ accessories ของ Goproได้
- วัสดุ ปุ่มกดแข็งแรงทนทาน เวลาถือแล้วดูแพง
- แต่ไม่ค่อยชอบรูปร่างหน้าตาตัวกล้องมันดูไม่ค่อยหล่อ แต่เท่าที่ทราบมาก็คือมันออกแบบให้สามารถถอดออกเพื่อใส่ Filter NDได้ (เป็นประโยชน์มากสำคัญคนชอบถ่าย Video)
- ฝาปิดแบตแบตสามารถถอดออกได้ อันนี้ชอบเพราะเวลาถ่าย Timelapseใช้เวลาการถ่ายมาก ทำให้สามารถนำสามารถนำ Powder Bank มาเสียบข้างๆเวลาถ่ายได้
- ฝาปิดช่องเก็บแบตไม่มี เพราะมันถูกออกแบบให้ฝาไปยึดติดกับแบต (อันนี้แปลกใจนิดหนึ่งว่าทำไหมต้องทำแบบนี้) เพราะเวลาไม่ได้ใช้นานๆเราจะต้องถอดแบตออกทำให้มีโอกาศฝุ่นเข้าไปด้านใน
---ภายใน---
- ฟังชั้นการถ่ายภาพ วีดีโอด้านในกดง่ายโดยการสไลด์มือ ซ้าย ขวา บน ล่าง
- มีโหมดการถ่ายภาพทั้ง Auto และ Manual ช่วยให้ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพสามารถใช้งานได้ตาามต้องการ
- สามารถถ่ายไฟล์ภาพ RAW ได้ช่วยให้สามารถนำภาพไป Proccess ได้ต่อ
- มีโหมดการถ่าย DEWARP อันนี้แจ่มและถูกใจสุดๆครับ เป็นคำสั่งเมื่อเราเปิดจะช่วยให้กล้องเราภาพถ่ายออกมาไม่บวม ตึกไม่เบี้ยว
- สามารถเชื่อมต่อมือถือเพื่อโหลดข้อมูลหรือตั้งค่าในการถ่าย แต่แอบConnectกับโทรศัพยากนิดหนึ่ง น่าจะเกิดจากซอฟแวร์
- มีโหมด Video HDR ช่วยให้เราสามารถถ่ายวีดีโอย้อนแสงได้ง่าย หน้าคนที่เราถ่ายไม่มืด
- การถ่ายภาพนิ่งสำคัญมืออาชีพสามารถถ่ายคล่อมได้ถึง 5EV
---------------3.ภาพและวีดีโอตัวอย่าง,รวมถึงเทคนิคการถ่ายที่ผมใช้---------------------
---เทคนิคการถ่าย Timelapse ด้วย Osmo Action---
- โดยปกติการถ่าย Timelapse ถ้าแสงบริเวณถ่ายนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือเปลี่ยนแปลงไม่มาก เช่นถ่าย TImelapseตอนกลางวันแดดเปลี้ยงๆเราก็สามารถ เข้าMenu Timelapse แบบ Auto ได้เลยไม่ต้อง Set อะไรมาก ถ่ายมาได้ตัวVideo เลย
- แต่ถ้าเราต้องการถ่าย Timelapse ในที่ที่แสงน้อย หรือมีการเปลี่ยนแปลงของแสงมาก เช่นถ่ายตอนเย็นลากไปถึงกลางคืน ผมแนะนำให้ถ่ายเป็นภาพชนิด RAW File ต่อเนื่องหลายร้อยใบแล้วนำมารวมด้วยโปรแกรมในคอม เช่น Adobe Affect Effect,Adobe Premium Pro เป็นต้น
เรามาดูการตั้งค่ากล้องกัน
1.เข้าโหมด Photo เลือก Timed (ถ่ายแบบเว้นช่วงเวลา Interval)
2.เลือกโหมดการถ่ายเป็น Auto เพื่อให้กล้องคำนวณความสว่างมืดตลอดเวลาสร้างเปลี่ยน
3.ปรับ ISO Maxไม่เกิน 200-400 เพื่อไม่ให้กล้องดัน ISOมากจนเกินไปทำให้เกิด Noise
4.ปรับ EV ให้เหมาะกับภาพถ้าลองถ่ายใบแลกแล้วสว่างเกินไปให้ปรับ EV-.....ลงมาจนภาพพอดี แต่ถ้าลองถ่ายออกมามืดให้ปรับ EV ขึ้นจนภาพสว่าง
5.เข้าโหมดรูปกล้องด้านล่าง ปรับ WB เป็นกำหนดเอง แนะนำให้ลองดูจนโทนสีในภาพเป็นที่พอใจ ไม่แนะนำให้เลือก Autoเวลาถ่ายTimelapse เพราะกล้องจำคำนวณ WBได้ไม่ดีทำให้เวลาไปรวมเป็นไฟล์ Video มีโอกาสเกิดสีเพี้ยนบางช็อต
6.เปิดคำสั่ง Dewarpเป็น ON เพื่อลดอาการเลนส์บวมและตึกเบี้ยว
7.ปรับ Format ภาพเป็น J+R คือถ่ายภาพออกทั้งไฟล์ JPEG และ RAW
8.เลือกขนาด Ratio หรือสัดส่วนภาพเป็น 16:9
9.กำหนด Interval คือ ให้แต่ล่ะภาพนั้นถ่ายทุกๆกี่วิ มีตั้งแต่ทุกๆ2วิ ถึง 125วิ
10.วางขาตั้วลงบนพื้นที่ที่มั่นคง หรือขาตั้งกล้องก่อนถ่ายเพื่อป้องกันการสั่นไหวของภาพ
11.คำนวณเวลาที่ใช้ถ่าย ขออนุญาตินำลิงค์การคำนวณมาแปะ (นี้เป็นเพียงการคำนวณเวลาขั้นพื้นฐาน พอฝึกจนเข้าใจก็สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงตามใจตนเองได้อีก)
http://www.zoomcamera.net/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A5/How-to-shoot-Time-Lapse-Photography.html
12.นำภาพที่ได้ทั้งมาปรับโทนสีความสว่างอีกครั้งตามใจตนเอง และนำไปร่วมในโปรแกรม เช่น Adobe Affect Effect,Adobe Premium Pro เป็นต้น
ซึ่งในกระทู้นี้คงไม่ได้ส่วนการรวมในโปรแกรมน่ะครับไม่งั้นคงจะยางแน่ๆ แต่สามารถหาวิธีได้ใน Google ทั่วไปไม่ยากเลย
---เทคนิคการถ่าย ภาพด้วย Osmo Action---
สถานที่ถ่าย โรงแรม Prime Hotel Central Station Bangkok https://goo.gl/maps/MdAQa4iL2iJa7qEF9
เทคนิคการถ่ายภาพนี้
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 1 ทุ่ม
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ Photo - AEB
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 0.6วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop แล้วทำโทน
สถานที่ถ่าย ร่มโพธิ์คอนโดมิเนียม https://goo.gl/maps/s6DDd1QMAN68hJ2x5
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอสะพานเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 100 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO200 F2.8 Speedshutter 1/8 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 100 ภาพมารวมกันใน Photoshop แล้วใช้คำสั่ง Stack ฟ้าไหล
สถานที่ถ่าย วัดเบญจมบพิตร https://goo.gl/maps/2q4Rj8P7oLjFPtUg6
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม แล้วนำกล้องมาวางในน้ำขังเพื่อเอาเงาสะท้อน
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย คอนโด STATE Tower https://goo.gl/maps/3y2nNc2ae3oiBjGt8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอจังหวะที่มีสายฟ้าผ่าลงมา
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 100 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M แล้วมานั่งเลือกรูปที่ติดฟ้าผ่า
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำภาพมา Proccess ต่อใน Photoshop
สถานที่ถ่าย The Deck by Arun Residence https://goo.gl/maps/r1WyiNr8jpkNyWbe8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอวัดเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO200 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย สะพานลอยหน้าห้อง SIam Discovery . https://goo.gl/maps/nQZtsR1e1hxjH4Lv8
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม เพื่อรอห้างเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/20 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
สถานที่ถ่าย สนามหลวง ช่วงวันงานเฉลิมพระเกียรติ https://goo.gl/maps/3Lt7Wgrpd8t4YixDA
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอดอกไม้เปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1/3 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
1.เลือกช่วงเวลาการถ่ายช่วง 6โมง- 1 ทุ่ม รอถนนเปิดไฟ
2.ถ่ายภาพแบบเป็น RAW File จำนวน 5 ภาพ ใช้โหมดถ่ายภาพ M
3.ตั้งค่ากล้องเป็นโหมด M ISO100 F2.8 Speedshutter 1.6 วิ เปิดคำสั่ง DEWARP
4.นำทั้ง 5 ภาพมารวมกันใน Photoshop
ภาพและวีดีโอทั้งหมดผมใช้ กล้อง Osmi Actionถ่ายทำทั้งหมด
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม