จขกท เคยตั้งกระทู้ไว้ก่อนหน้านี้ มีเรื่องราวของลุงซึ่งเป็นญาติห่างๆกัน ที่ไปทำงานเป็น front ต้อนรับลูกค้าที่อพาร์ตเม้นท์แห่งหนึ่งแถวลาดกระบัง เนื้อหากระทู้ก็ตามนี้เลยค่ะ
https://ppantip.com/topic/38804807 มาวันนี้ขอขยายความเพิ่มอีกหน่อยละกันนะคะ ลุงแกทำงานมาได้ 5 เดือนกว่าๆแล้ว ลักษณะงานของลุงคือทำงานเป็นกะ เข้างาน 4 โมงเย็นเลิกเที่ยงคืน แต่บางคืนที่งานยังไม่เสร็จลุงเเกก็จะอยู่เกินเวลาให้ บางคืนไปเลิกเอาตี 1 ครึ่งเลยก็มี แม่กับ จขกท เคยเตือนว่างานเป็นกะนานวันเข้าสุขภาพจะเสียเอา เพราะอายุลุงแกก็ไม่ใช่น้อยๆเเล้ว ขนาดคนหนุ่มสาวทำนานๆยังส่งผลต่อสุขภาพเลย ลุงแกเพิ่งอายุ 67 ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองค่ะ ตอนแรกลุงเเกมีเหตุผลของแกที่ไปทำคือ 1.แกต้องการนำเงินไปช่วยเหลือญาติที่ป่วย 2.งานบริการลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์เป็นสิ่งที่เเกชอบอยู่แล้ว เนื่องจากมีลูกค้าต่างชาติ แล้วแกอยากฝึกฝนภาษาที่เคยได้ร่ำเรียนมา 3.แกอยากมีเงินเก็บก้อนหนึ่งเพื่อไปเเสวงบุญต่างประเทศโดยที่ไม่ต้องกวนญาติพี่น้อง ตอนนี้ตัดข้อ 1 ไปได้แล้วเพราะญาติเเกอาการดีขึ้น และมีคนมาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้ว ก็จะเหลือข้อ 2 กับข้อ 3 คือฉันกับเเม่ก็ไม่ได้อะไรกับลุงเเกนะคะ เพียงเเต่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพก็เท่านั้น ก่อนแกมาทำงานตรงนี้เเกก็ป่วยเป็นหวัดบ่อยอยู่เเล้ว คือถ้าเเกยังหนุ่มเเละไม่ได้ป่วยบ่อยก็ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก อาทิตย์ก่อนหน้าวันเกิดเเกก็เพิ่งป่วยเป็นงูสวัดไป ต้องหยุดงานไปอาทิตย์นึง หมอบอกเป็นเพราะพักผ่อนน้อยและอายุมากด้วย
ฉันกับเเม่ก็กลัวว่าสักวันหนึ่งเเกจะล้มป่วยเอา และก็ป่วยจริงๆตอนเป็นงูสวัดก็เกือบเเย่ เพราะเชื้อใกล้ปลายประสาทตา ตอนหนุ่มๆลุงเเกเคยทำงานบริษัทและธนาคารค่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเเกหมดไปหรือยัง แต่ที่เเน่ๆตอนนี้เเกรับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่หรือเป็นเพราะได้น้อยหรือเปล่า ถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เเกต้องออกไปทำงานทั้งที่อายุขนาดนี้แล้ว เเม่ฉันเคยบอกกับลุงเเกว่า "ถ้าเงินที่ได้อยู่ไม่พอหรือเดือดร้อนตรงไหนบอกกันได้ไม่ต้องเกรงใจ ถึงเราจะเป็นญาติห่างๆกันแต่เราก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆนะ" แต่ลุงเเกไม่เอาค่ะบอกว่าเเกเกรงใจ ฉันกับเเม่พยายามพูดโน้มน้าวหลายรอบเเล้วแต่ก็ไม่ได้ผลค่ะ ลุงเเกยืนยันว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะทำไม่ไหว หรือไม่ก็จนกว่าทางนั้นจะหาคนใหม่ที่หนุ่มกว่าเเละไฟเเรงกว่าได้ เเกบอกไม่เป็นไรหรอกอย่างมากก็เเค่ตายดูเเกพูดสิคะ เข้าใจว่าแกรักงานของแกถึงจะไม่ห่วงตัวเอง เเต่ก็น่าจะคิดถึงคนอื่นที่เขาเป็นห่วงแกบ้าง คือถ้าทางผู้จัดการของอพาร์ทเม้นท์ยอมสลับกะให้เเกมาอยู่กะกลางวันบ้างจะไม่ว่าเลย แต่นี่ไม่ตัวเองเอาไปคนเดียวหมด ถ้าฉันเป็นเจ้าของฉันจะไม่รับคนอายุขนาดนี้มาอยู่กะกลางคืนนะ จะดูคนที่ยังไหวและสลับเปลี่ยนกะให้ตามความเหมาะสมค่ะ ฉันกับเเม่ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงได้เเต่ปล่อยเเกไป แต่ก็คอยเตือนให้เเกหาเวลาพักผ่อนและกินอาหารที่มีประโยชน์ ก็เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่าพอจะมีวิธีพูดโน้มน้าวใจยังไงได้บ้างเพื่อให้เเกยอมใจอ่อนลง ใครมีวิธีดีๆอยากขอคำเเนะนำด้วยค่ะ
จะทำยังไงดีให้ลุงเลิกทำงาน
ฉันกับเเม่ก็กลัวว่าสักวันหนึ่งเเกจะล้มป่วยเอา และก็ป่วยจริงๆตอนเป็นงูสวัดก็เกือบเเย่ เพราะเชื้อใกล้ปลายประสาทตา ตอนหนุ่มๆลุงเเกเคยทำงานบริษัทและธนาคารค่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของเเกหมดไปหรือยัง แต่ที่เเน่ๆตอนนี้เเกรับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่หรือเป็นเพราะได้น้อยหรือเปล่า ถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เเกต้องออกไปทำงานทั้งที่อายุขนาดนี้แล้ว เเม่ฉันเคยบอกกับลุงเเกว่า "ถ้าเงินที่ได้อยู่ไม่พอหรือเดือดร้อนตรงไหนบอกกันได้ไม่ต้องเกรงใจ ถึงเราจะเป็นญาติห่างๆกันแต่เราก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆนะ" แต่ลุงเเกไม่เอาค่ะบอกว่าเเกเกรงใจ ฉันกับเเม่พยายามพูดโน้มน้าวหลายรอบเเล้วแต่ก็ไม่ได้ผลค่ะ ลุงเเกยืนยันว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะทำไม่ไหว หรือไม่ก็จนกว่าทางนั้นจะหาคนใหม่ที่หนุ่มกว่าเเละไฟเเรงกว่าได้ เเกบอกไม่เป็นไรหรอกอย่างมากก็เเค่ตายดูเเกพูดสิคะ เข้าใจว่าแกรักงานของแกถึงจะไม่ห่วงตัวเอง เเต่ก็น่าจะคิดถึงคนอื่นที่เขาเป็นห่วงแกบ้าง คือถ้าทางผู้จัดการของอพาร์ทเม้นท์ยอมสลับกะให้เเกมาอยู่กะกลางวันบ้างจะไม่ว่าเลย แต่นี่ไม่ตัวเองเอาไปคนเดียวหมด ถ้าฉันเป็นเจ้าของฉันจะไม่รับคนอายุขนาดนี้มาอยู่กะกลางคืนนะ จะดูคนที่ยังไหวและสลับเปลี่ยนกะให้ตามความเหมาะสมค่ะ ฉันกับเเม่ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงได้เเต่ปล่อยเเกไป แต่ก็คอยเตือนให้เเกหาเวลาพักผ่อนและกินอาหารที่มีประโยชน์ ก็เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่าพอจะมีวิธีพูดโน้มน้าวใจยังไงได้บ้างเพื่อให้เเกยอมใจอ่อนลง ใครมีวิธีดีๆอยากขอคำเเนะนำด้วยค่ะ