นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ในปีนี้ได้เตรียมวัคซีนไว้จำนวน 4 ล้านโด๊ส แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือน 2.เด็ก อายุ 6 เดือน-2 ปี 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด 4.ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และ 7.โรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก./ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตรม.
นอกจากนี้ได้เตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 4 แสนโด๊ส ได้แก่
บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ทำลายสัตว์ปีก
เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ นักศึกษาทางการแพทย์และสาธารณสุข
สำหรับวัคซีนที่ใช้เป็นวัคซีนที่ป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ A Michigan (H1N1), A Switzerland (H3N2) และ B Colorado (Victoria lineage) ซึ่งจากการเฝ้าระวังศึกษาการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อในไทย ปี 2562 ข้อมูลถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แยกเป็น A(H1N1) ร้อยละ 23.51 A(H3N2) ร้อยละ 18.17 และ B ร้อยละ 58.32 โดยการวิเคราะห์สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่แยกได้ในประเทศไทยได้ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2562 โดยพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ A(H1N1) พบเป็น A Michigan (H1N1) ร้อยละ 100 , A(H3N2) พบเป็น A Switzerland ร้อยละ 35.00 และ A Singapore ร้อยละ 65.00 สวนเชื้อ B ในปีนี้มีความหลากหลายสายพันธุ์มากกว่าหลายปีที่ผ่านมาคือพบ B Victoria lineage ร้อยละ 99.00 ที่เหลือเป็น B Phuket (Yamagata lineage) ร้อยละ 1.00 ซึ่งพบเชื้อที่ก่อโรคตรงกับสายพันธุ์ในวัคซีน 3 สายพันธุ์ดังกล่าว โดยถือว่ามีความคุ้มค่าและมีความปลอดภัย เพราะมีประสบการณ์การใช้ในประเทศไทยยาวนานกว่า 10 ปี และยังเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลก โดยวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันอาการรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอรับบริการวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2562
1 มิ.ย. 62 ฉีดวันซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ฟรีทั่วประเทศ!!!
นอกจากนี้ได้เตรียมวัคซีนสำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 4 แสนโด๊ส ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สอบสวนควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ทำลายสัตว์ปีก
เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ นักศึกษาทางการแพทย์และสาธารณสุข
สำหรับวัคซีนที่ใช้เป็นวัคซีนที่ป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ A Michigan (H1N1), A Switzerland (H3N2) และ B Colorado (Victoria lineage) ซึ่งจากการเฝ้าระวังศึกษาการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อในไทย ปี 2562 ข้อมูลถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แยกเป็น A(H1N1) ร้อยละ 23.51 A(H3N2) ร้อยละ 18.17 และ B ร้อยละ 58.32 โดยการวิเคราะห์สายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่แยกได้ในประเทศไทยได้ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2562 โดยพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ A(H1N1) พบเป็น A Michigan (H1N1) ร้อยละ 100 , A(H3N2) พบเป็น A Switzerland ร้อยละ 35.00 และ A Singapore ร้อยละ 65.00 สวนเชื้อ B ในปีนี้มีความหลากหลายสายพันธุ์มากกว่าหลายปีที่ผ่านมาคือพบ B Victoria lineage ร้อยละ 99.00 ที่เหลือเป็น B Phuket (Yamagata lineage) ร้อยละ 1.00 ซึ่งพบเชื้อที่ก่อโรคตรงกับสายพันธุ์ในวัคซีน 3 สายพันธุ์ดังกล่าว โดยถือว่ามีความคุ้มค่าและมีความปลอดภัย เพราะมีประสบการณ์การใช้ในประเทศไทยยาวนานกว่า 10 ปี และยังเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลก โดยวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันอาการรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอรับบริการวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2562