
สวัสดีครับ เป็นเวลาสามเดือนที่หายไปนาน คือติดธุระหลายเรื่องเลยหายไป แต่ว่ากลับมาเเล้วครับ เพราะงั้นมาเริ่มเลยดีกว่า
"เรื่องราวของโจรหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกจับไปทิ้งกลางทะเลทรายให้ค้นหาบางสิ่ง โชคชะตาพลิกผันให้เขาได้พบกับตะเกียงวิเศษที่มีจินนี่ในตะเกียงที่สามารถขอพรได้สามข้อ เขาจะขอพรอะไร ความรัก ความมั่งคั่ง หรือ อำนาจ"
อะลาดิน ภาพยนตร์ไลฟ์เเอ็คชั่นลำดับที่ 4 ที่ดัดเเปลงจากอนิเมชั่นชื่อเดียวกันของดิสนีย์
ตอนเห็นตัวอย่างออกมาคือไม่มีเรื่องนี้อยู่ในหัวเลย ทั้งเฉย ๆ ที่ตัวเองดูอนิเมชั่นมาแล้ว มีอะไรหลายอย่างที่ไม่โอ พระเอกหน้าตาดูไม่ค่อยจะใช่ เเม้จะเป็นตามคาเเร็กเตอร์ แม้จะรู้จักนาโอมิ สก็อตที่เล่นเป็นจัสมินที่พอดึงความสนใจ แต่ที่อยากปล่อยผ่านไม่ดูเลย คือวิลล์ สมิธ ทำไมมันถึงได้ดูประหลาดดูไม่จินนี่ เหมือนผีมากกว่า แต่นั่นละ เมื่อเห็นตัวอย่างที่ปล่อยมาก่อนฉาย ก็เริ่มคิดว่า เออไปดูก็ได้ ยังไงก็ไม่เสียหายหรอก
แต่พอไปดูจริง ๆ ผิดคาดมาก ไม่เคยดูหนังโดยที่ไม่คาดหวังแล้วจะได้อะไรมาเยอะมาก คือกาย ริชชี่ มาถูกทางแล้วจริง ๆ จากที่ผิดหวังคิง อาร์เธอร์มา กลายเป็นว่าเรื่องนี้พิสูจน์อะไรหลายอย่างมาก ๆ ทำเอารู้สึกผิดเลยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญมันมากนัก เพราะทั้งเรื่องราว มันคือการดัดเเปลงสิ่งที่การ์ตูนมองข้ามไปให้มันมีความสมเหตุสมผล เเล้วเติมฉากความฮา
อะลาดินที่เล่นโดยมีนา มาซูด นักเเสดงชาวอียิปต์ ก็เนรมิตให้กลายเป็นโจรกระจอกธรรมดา ๆ คนนึงที่ไม่ได้หล่อแบบในเวอร์ชั่นการ์ตูน เเต่พอเป็นเจ้าชายก็หล่อขึ้น แต่ยังมีความเป็นอะลาดินโก๊ะกัง เเละมีหัวใจที่บริสุทธิ์สมเป็นเพชรในตม
จัสมินนี่ผมชอบกว่าต้นฉบับอีก เธอดูเป็นเจ้าหญิงตามธรรมเนียมดิสนีย์ แต่มีความจับต้องได้ในความเป็นจริง มีความกล้า มั่นใจ ห่วงใยคนอื่น อีกมุมก็มีความน่ารักแบบผู้หญิงเวลาโดนจีบหรือโดนหยอก
วิลล์ สมิธ ที่เล่นเป็นจินนี่ได้โคตรจะดี ดีแบบว้าวมาก ๆ นั่งขำทุกฉากที่โผล่มา แต่พอดราม่าก็มีหัวจิตหัวใจทำให้เราอินได้เเบบนักเเสดงมีฝีมือ
ที่น่าชื่นชมคือกาย ริชชี่ใช้ความอะลาดินมาปรับผสานเข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะฉากไล่ล่า ฉากเมืองต่าง ๆ ฉากมุมนั้นนี้ จังหวะจะโคนในมุกต่าง ๆ ยังกับหนังของตัวเองไม่ใช่ของดิสนีย์
ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มเสริมเติมเเต่งสิ่งที่ไม่มีในเวอร์ชั่นต้นฉบับ การเทบทบาทให้ฝั่งของสุลต่านกับเจ้าหญิงจัสมิน นางสนมดาเลีย และองครักษ์ฮาคิมที่ในต้นฉบับไม่มี ที่ออกมาปล่อยของกันจนเเย่งซีนอะลาดิน ทั้งเรื่องมิตรภาพ หน้าที่ ทั้งเรื่องสิทธิสตรีที่บุรุษเป็นใหญ่ ส่วนจาฟาร์ที่ไม่ได้อยู่ในสายตาตอนตัวอย่าง ก็กลายเป็นตัวละครที่มีมิติขึ้น อาจเพราะหน้าตาไม่ได้ดูร้ายกาจ เเต่ร้ายลึกมากกว่าต้นฉบับ เเถมการเรียบเรียงเพลง ดีกว่า โฉมงามกับเจ้าชายอสูรเยอะ อันนั้นเหมือนไม่ดูหนังเหมือนมาดูละครเพลงให้มันจบ ๆ คือเรื่องนี้มันมีความเป็นหนังอย่างพอดี มีฉากร้องเพลงที่ว้าวมาก โดยเฉพาะเพลง SPEECHLESS เงียบเสียง ที่เป็นเพลงปลุกใจเพื่อนหญิงพลังหญิงได้มาก ๆ ส่วนเพลงอื่นก็ดี แต่ชอบเพลงนี้ที่สุดแล้ว
นอกจากนี้ก็สอนใจคนด้วยเรื่องของเปลือกนอก เปลือกในที่เข้าใจง่าย ความมั่นใจในตัวเอง การเป็นตัวเอง หรือ การลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์ตัวเองในการต่อสู้ฉากอลังการมีไม่มาก เเต่อยู่ในสเกลที่พอดี ๆ แต่ฉากท้าย ๆ คือซีจีลอยไปนิด ๆ เเต่นั่นละหนังเเฟนตาซีจะไปเอาความสมจริงอะไรล่ะ
พากย์ไทยคือสอบผ่าน เสียงเข้ากับตัวละครซาน อัศรัญ พากย์เป็นอะลาดินได้ใกล้เคียงต้นฉบับ เเต่ชอบเสียงจัสมินที่พากย์โดยคุณดาวสุดละ เสียงหวาน เเต่ทรงพลังมาก ร้องเพลงก็ได้ พากย์เสียงก็ดี อยากให้คุณดาวลงมาพากย์หนังเยอะ ๆ บ้าง เพลงก็แปลดีไม่มีติดขัด อาจเพราะไม่ค่อยสนใจเนื้อเรื่องเวอร์ออริจินัลหรือภาพยนตร์ด้วยล่ะมั้ง
สรุปคือ อะลาดินเรื่องนี้คือเหล้าขวดนึงที่ดีอยู่เเล้ว เเต่เติมเสริมให้รสชาติมันมีความนุ่มลึก สงบเสงี่ยม แต่ก็ครึกครื้น จนเป็นเหล้าขวดใหม่
แต่ก็ไม่ใช่จะทำร้ายรสชาติดั้งเดิมที่มีอยู่ ไม่ได้พยายามจะแทนที่ แต่จะพยายามทำให้ดีในแบบของตัวเองในการเป็นเหล้าอีกขวดนึง
กาย ริชชี่ ผมรอดูเชอร์ล็อค โฮมส์ 3 อยู่นะ ทำออกมาดี ๆ
เพราะงั้นแนะนำจริง ๆ...ควรไปดู แล้วคุณจะอิ่มอกอิ่มใจ หลังออกจากโรงแน่นอน
เรื่องที่ 17 : อะลาดิน เหล้าเก่าที่กลายเป็นเหล้าใหม่
สวัสดีครับ เป็นเวลาสามเดือนที่หายไปนาน คือติดธุระหลายเรื่องเลยหายไป แต่ว่ากลับมาเเล้วครับ เพราะงั้นมาเริ่มเลยดีกว่า
"เรื่องราวของโจรหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกจับไปทิ้งกลางทะเลทรายให้ค้นหาบางสิ่ง โชคชะตาพลิกผันให้เขาได้พบกับตะเกียงวิเศษที่มีจินนี่ในตะเกียงที่สามารถขอพรได้สามข้อ เขาจะขอพรอะไร ความรัก ความมั่งคั่ง หรือ อำนาจ"
อะลาดิน ภาพยนตร์ไลฟ์เเอ็คชั่นลำดับที่ 4 ที่ดัดเเปลงจากอนิเมชั่นชื่อเดียวกันของดิสนีย์
ตอนเห็นตัวอย่างออกมาคือไม่มีเรื่องนี้อยู่ในหัวเลย ทั้งเฉย ๆ ที่ตัวเองดูอนิเมชั่นมาแล้ว มีอะไรหลายอย่างที่ไม่โอ พระเอกหน้าตาดูไม่ค่อยจะใช่ เเม้จะเป็นตามคาเเร็กเตอร์ แม้จะรู้จักนาโอมิ สก็อตที่เล่นเป็นจัสมินที่พอดึงความสนใจ แต่ที่อยากปล่อยผ่านไม่ดูเลย คือวิลล์ สมิธ ทำไมมันถึงได้ดูประหลาดดูไม่จินนี่ เหมือนผีมากกว่า แต่นั่นละ เมื่อเห็นตัวอย่างที่ปล่อยมาก่อนฉาย ก็เริ่มคิดว่า เออไปดูก็ได้ ยังไงก็ไม่เสียหายหรอก
แต่พอไปดูจริง ๆ ผิดคาดมาก ไม่เคยดูหนังโดยที่ไม่คาดหวังแล้วจะได้อะไรมาเยอะมาก คือกาย ริชชี่ มาถูกทางแล้วจริง ๆ จากที่ผิดหวังคิง อาร์เธอร์มา กลายเป็นว่าเรื่องนี้พิสูจน์อะไรหลายอย่างมาก ๆ ทำเอารู้สึกผิดเลยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญมันมากนัก เพราะทั้งเรื่องราว มันคือการดัดเเปลงสิ่งที่การ์ตูนมองข้ามไปให้มันมีความสมเหตุสมผล เเล้วเติมฉากความฮา
อะลาดินที่เล่นโดยมีนา มาซูด นักเเสดงชาวอียิปต์ ก็เนรมิตให้กลายเป็นโจรกระจอกธรรมดา ๆ คนนึงที่ไม่ได้หล่อแบบในเวอร์ชั่นการ์ตูน เเต่พอเป็นเจ้าชายก็หล่อขึ้น แต่ยังมีความเป็นอะลาดินโก๊ะกัง เเละมีหัวใจที่บริสุทธิ์สมเป็นเพชรในตม
จัสมินนี่ผมชอบกว่าต้นฉบับอีก เธอดูเป็นเจ้าหญิงตามธรรมเนียมดิสนีย์ แต่มีความจับต้องได้ในความเป็นจริง มีความกล้า มั่นใจ ห่วงใยคนอื่น อีกมุมก็มีความน่ารักแบบผู้หญิงเวลาโดนจีบหรือโดนหยอก
วิลล์ สมิธ ที่เล่นเป็นจินนี่ได้โคตรจะดี ดีแบบว้าวมาก ๆ นั่งขำทุกฉากที่โผล่มา แต่พอดราม่าก็มีหัวจิตหัวใจทำให้เราอินได้เเบบนักเเสดงมีฝีมือ
ที่น่าชื่นชมคือกาย ริชชี่ใช้ความอะลาดินมาปรับผสานเข้ากับสไตล์ของตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะฉากไล่ล่า ฉากเมืองต่าง ๆ ฉากมุมนั้นนี้ จังหวะจะโคนในมุกต่าง ๆ ยังกับหนังของตัวเองไม่ใช่ของดิสนีย์
ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่มเสริมเติมเเต่งสิ่งที่ไม่มีในเวอร์ชั่นต้นฉบับ การเทบทบาทให้ฝั่งของสุลต่านกับเจ้าหญิงจัสมิน นางสนมดาเลีย และองครักษ์ฮาคิมที่ในต้นฉบับไม่มี ที่ออกมาปล่อยของกันจนเเย่งซีนอะลาดิน ทั้งเรื่องมิตรภาพ หน้าที่ ทั้งเรื่องสิทธิสตรีที่บุรุษเป็นใหญ่ ส่วนจาฟาร์ที่ไม่ได้อยู่ในสายตาตอนตัวอย่าง ก็กลายเป็นตัวละครที่มีมิติขึ้น อาจเพราะหน้าตาไม่ได้ดูร้ายกาจ เเต่ร้ายลึกมากกว่าต้นฉบับ เเถมการเรียบเรียงเพลง ดีกว่า โฉมงามกับเจ้าชายอสูรเยอะ อันนั้นเหมือนไม่ดูหนังเหมือนมาดูละครเพลงให้มันจบ ๆ คือเรื่องนี้มันมีความเป็นหนังอย่างพอดี มีฉากร้องเพลงที่ว้าวมาก โดยเฉพาะเพลง SPEECHLESS เงียบเสียง ที่เป็นเพลงปลุกใจเพื่อนหญิงพลังหญิงได้มาก ๆ ส่วนเพลงอื่นก็ดี แต่ชอบเพลงนี้ที่สุดแล้ว
นอกจากนี้ก็สอนใจคนด้วยเรื่องของเปลือกนอก เปลือกในที่เข้าใจง่าย ความมั่นใจในตัวเอง การเป็นตัวเอง หรือ การลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์ตัวเองในการต่อสู้ฉากอลังการมีไม่มาก เเต่อยู่ในสเกลที่พอดี ๆ แต่ฉากท้าย ๆ คือซีจีลอยไปนิด ๆ เเต่นั่นละหนังเเฟนตาซีจะไปเอาความสมจริงอะไรล่ะ
พากย์ไทยคือสอบผ่าน เสียงเข้ากับตัวละครซาน อัศรัญ พากย์เป็นอะลาดินได้ใกล้เคียงต้นฉบับ เเต่ชอบเสียงจัสมินที่พากย์โดยคุณดาวสุดละ เสียงหวาน เเต่ทรงพลังมาก ร้องเพลงก็ได้ พากย์เสียงก็ดี อยากให้คุณดาวลงมาพากย์หนังเยอะ ๆ บ้าง เพลงก็แปลดีไม่มีติดขัด อาจเพราะไม่ค่อยสนใจเนื้อเรื่องเวอร์ออริจินัลหรือภาพยนตร์ด้วยล่ะมั้ง
สรุปคือ อะลาดินเรื่องนี้คือเหล้าขวดนึงที่ดีอยู่เเล้ว เเต่เติมเสริมให้รสชาติมันมีความนุ่มลึก สงบเสงี่ยม แต่ก็ครึกครื้น จนเป็นเหล้าขวดใหม่
แต่ก็ไม่ใช่จะทำร้ายรสชาติดั้งเดิมที่มีอยู่ ไม่ได้พยายามจะแทนที่ แต่จะพยายามทำให้ดีในแบบของตัวเองในการเป็นเหล้าอีกขวดนึง
กาย ริชชี่ ผมรอดูเชอร์ล็อค โฮมส์ 3 อยู่นะ ทำออกมาดี ๆ
เพราะงั้นแนะนำจริง ๆ...ควรไปดู แล้วคุณจะอิ่มอกอิ่มใจ หลังออกจากโรงแน่นอน