เอามาจากรายการ จิ๊กโก๋บอลไทย ของตาบับเบิ้ล ในเพจ กูรูคาเฟ่ ใครยังไม่ได้ดูก็หาดูย้อนหลังได้ใน Facebook ครับ
- น้าเบิร์ดทำงานกับกาม่าเมื่อปีที่แล้วที่เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเป็นผู้ช่วยโค้ช และมีช่วยให้เชียงราย คว้า 3 แชมป์
- ก่อนหน้านั้น น้าเบิร์ดแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับการฝึกซ้อมกับทีมเลย เพราะส่วนหนึ่งคือ กาม่ามักจะปรึกษากับผู้ช่วยโค้ชที่เป็นบราซิลด้วยกันซะมากกว่า โดยไม่ให้น้าเบิร์ดยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสนาม หน้าที่มีอย่างเดียวคือ วางกรวยฝึกซ้อมให้กับนักเตะอย่างเดียว
- แต่สุดท้าย กาม่าก็ยอมรับน้าเบิร์ด และให้มีส่วนร่วมในการประชุมการฝึกซ้อมและวางแท็คติกต่างๆ จนกระทั่งกาม่าจากเชียงราย
- จากการทำงานด้วยกัน น้าเบิร์ดมองว่า กาม่าอยากทำฟุตบอลระดับสโมสรมากกว่า แต่ด้วยจังหวะของทีมชาติที่มีการติดต่อกับเจ้าตัวหลังจากหมดสัญญากับเชียงรายแล้ว กาม่าจึงตอบตกลงรับงานคุมชุด 23 ปีไปก่อนนั่นเอง
- น้าเบิร์ดตั้งข้อสงสัยว่า สมาคมได้มอบสัญญาให้กับกาม่าแบบชัดเจนหรือเปล่า เพราะกาม่าเป็นคนที่ชัดเจนและมือความเป็นมืออาชีพในเรื่องนี้ ถ้าเขามีสัญญาอยู่กี่ปีก็จะทำงานให้ครบสัญญา ไม่มียกเลิกกลางคัน
- มองว่า เมืองทองไม่น่ารอดจากบุรีรัมย์ในการเจอวันอาทิตย์นี้ และดูแล้วโค้ชเมืองทองไม่น่าอยู่ต่อได้
- ถ้าโค้ชยู 23 ว่างลง น้าเบิร์ดบอกว่าอยากให้โค้ชเตี้ยมาทำต่อ เพราะเห็นมาแล้วด้วยประสบการณ์ตอนตัวเองเป็นนักเตะ โค้ชเตี้ยเป็นโค้ชที่เก่ง
- น้าเบิร์ดคิดว่า ตกลงฟุตบอลไทยพัฒนาจริงหรือเปล่า เพราะมีส่วนที่พัฒนาและไม่พัฒนา ส่วนคือพัฒนาแล้วคือนักเตะที่มีเก่งขึ้น เข้าใจการเล่นมากขึ้น
- ส่วนที่ไม่พัฒนาคือ สโมสรไม่ได้ใช้เงินตัวเองในการลงทุน เอาเงินที่อื่นมาลง และการลงทุนนักเตะระดับหลักล้าน แต่แฟนบอลไม่มาก ถ้าไม่มีสปอนเซอร์เข้ามา ทีมอยู่ไม่ได้แน่นอน
- บอกว่า กรรมการห่วยแตกมากๆไม่ต่างจากยุคก่อน เพราะกรรมการไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเป่า เช่น ประชุมก่อนการแข่งขัน ดูวิดีโอ วิเคราะห์การเป่าย้อนหลัง พอมาเป่าเกมส์ระดับสูงก็ไม่มีมาตรฐาน ขนาดเป่าบอลนักเรียนก็ยังไม่กล้าควักใบเหลืองออกมาเลย
- น้าเบิร์ดเพิ่งรู้ข่าวตอนที่แคมป์ สรรวัชญ์ต่อยท้องกรรมการจากเพื่อนโทรมา บอกว่าเป็นเรื่องปกติของสรรวัชญ์ เพราะเคยเล่นด้วยกันตอนที่สิงคโปร์
- สรรวัชญ์เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูง เป็นนักเตะที่ฉลาดมาก แต่ปัญหาคือ เจ้าตัวมีปัญหาเรื่องทัศนคติและการควบคุมอารมณ์ที่ไม่ค่อยอยู่ การที่โดนแบน 8 นัดเป็นเรื่องที่สมควร เป็นบทเรียนราคาแพง และบอกนักฟุตบอลทั่วไปว่า อารมณ์เกิดขึ้นได้ และต้องควบคุมให้อยู่
- มองว่า สรรวัญช์ไม่สมควรถูกเรียกติดทีมชาติตอนนี้ เพราะการติดทีมชาตินั้นต้องมาจากการเล่นในลีกที่ดี ถ้าในลีกสร้างชื่อเสียก็ไม่สมควรติด
- ฝากถึงกรรมการไทยให้เรียนรู้จังหวะการปล่อยเกมส์ไหลต่อเนื่อง และฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินให้เรียงลำดับกรรมการ ใครเป่าห่วยก็ดันตก ใครเป่าดีก็ดันขึ้นมา
- กรรมการเป่าห่วยไม่เว้นแม้กระทั่งบอลเยาวชน บอลยู13 ยู15 ทำให้เกมส์เดือดและมีเรื่องประจำ เพราะกรรมการไม่ค่อยห้ามการเข้าหนัก การเตะบอลเด็กนั้นค่อนข้างแรงมาก เพราะเด็กยังไม่รู้จังหวะเข้าบอล แต่กรรมการก็ไม่ค่อยแจกใบเหลืองหรือใบแดง เพราะมองว่ายังเด็กอยู่
- แต่ทีมพีพีที ระยองที่น้าเบิร์ดเป็นผ.อ.อำนวยการอเคเดมี่อยู่ ห้ามไม่ให้เด็กมีเรื่องชกต่อยกัน ใครฝ่าฝืนโดนยกเลิกสัญญาทันที
- พูดถึงการติดทีมชาติของธีรศิลป์ บอกว่ามุ้ยยังสมควรติดอยู่ แม้เมืองทองจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่กองหน้าไทยที่มีตอนนี้ก็ยังไม่มีใครไปกว่ามุ้ย
- น้าเบิร์ดพูดถึงศุภณัฏฐ์ ที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ บอกว่าเป็นคนที่มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง เทคนิค ฝีเท้า รวมถึงสปีดต้นที่ถึง เหลือแค่ความแข็งแรงของร่างกาย และความเข้าใจเกมส์มากๆ ถ้าทำตรงนี้ได้ อนาคตไปได้ยาวๆแน่นอน
- พูดถึงทีมชาติเวียดนาม บอกว่าทีมชาติเวียดนามไม่ได้เก่งไปกว่าไทยในเรื่องฝีเท้าหรือความฟิต แต่เรื่องสภาพจิตใจเวลาลงสนาม เวียดนามทำได้ดีกว่าในตอนนี้ รวมถึงวิธีการซ้อมด้วย ดูได้จากเอเชียนคัพที่ผ่านมา เวียดนามเพรสซิ่งใส่คู่แข่งได้ครบ 90 นาทีทุกเกมส์
- คิดว่า ไทยเจอเวียดนามที่คิงส์คัพ วัดกันที่ฟิตเนส สภาพความฟิต ถ้าวันนั้นมีไม่ถึงคงเสร็จเวียดนาม และคิดว่าน่าจะจบลงด้วยผลเสมอ
- ตอนนี้ น้าเบิร์ดเรียนจบ A ไลเซนต์แล้ว ทำงานเป็นผ.อ.อำนวยการอเคเดมี่ โดยเป้าหมายคือ พัฒนาให้อเคเดมี่ของพีทีที ระยอง มีชื่อเสียงอยู่ในระดับเดียวกับเมืองทองหรือบุรีรัมย์ และคิดว่าน่าจะทำได้ เพราะพีพีทีมีงบประมาณตรงนี้อยู่พอสมควร
- ปัญหาในการดูแลนักเตะอเคเดมี่คือ นักเตะส่วนใหญ่ไม่อยากเดินตามแนวทางที่สโมสรกำหนด หรือ แผนที่ของชีวิตการเป็นนักฟุตบอล นั้นก็คือ การฝึกซ้อมในทุกๆวันที่จะต้องยกระดับความเข้มข้นเรื่อยๆ ทั้งเทคนิค เบสิคพื้นฐาน ความแข็งแกร่งทางร่ายการและสภาพจิตใจ ถ้าเยาวชนคนไหนเก่งจริงไม่ต้องเล่นระดับเยาวชนต่อแล้ว จะให้ขึ้นชุดใหญ่ของทีมแบบเดียวกับศุภณัฏฐ์ของบุรีรัมย์เลย
- น้าเบิร์ดมีความฝันคือ อยากปั้นนักเตะเยาวชนของพีพีที ระยอง ติดทีมชาติชุดใหญ่ โดยตอนนี้มีนักเตะพีพีที ระยองติดทีมชาติเยาวชนแล้ว 2 คน
- สุดท้ายฝากถึงแฟนบอลไทยทุกทีม อยากให้ไปดูที่สนามให้เยอะๆ รวมถึงนักฟุตบอลไทย อยากให้ปรับในเรื่องของทัศนคติการเล่นฟุตบอล รวมไปถึงเด็กรุ่นใหม่ๆ เจเนอเรชั่นใหม่พยายามให้ทุกคนไปถึงฝันที่ตั้งไว้ ไปให้สุดทางและไปให้ได้ ตั้งความหวังให้สูงๆ ไม่เอาให้เล่นแค่ในไทยลีกแล้วพอใจ แต่ให้ทะเยอทะยาน ให้ได้ไปเล่นลีกต่างประเทศ เจลีกแบบเดียวที่มีนักเตะไทยทุกวันนี้ หรือแหวกแนวไปเล่นที่ยุโรปไปเลย ให้ไปเล่นที่ไกลๆ แล้วจะเป็นฮีโร่เอง
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องในอดีตของแกที่มาเล่าในรายการ บอกได้เลยครับว่าแกพูดคุยสนุกพอสมควร
แต่ผมคัดมาช่วงของเวลาฟุตบอลในปัจจุบัน ในมุมมองที่น้าเบิร์ดอยู่ ก็ได้รู้อะไรหลากหลายเหมือนกัน
ใครที่คิดถึงอดีตนักเตะทีมชาติคนนี้ ก็ไปดูย้อนหลังตามที่บอกข้างต้นได้ครับ
ฟัง น้าเบิร์ด สุธี สุขสมกิจ คุยเรื่องบอลไทยแล้วได้รู้อะไรหลายๆเรื่องเหมือนกัน
- น้าเบิร์ดทำงานกับกาม่าเมื่อปีที่แล้วที่เชียงราย ยูไนเต็ด โดยเป็นผู้ช่วยโค้ช และมีช่วยให้เชียงราย คว้า 3 แชมป์
- ก่อนหน้านั้น น้าเบิร์ดแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับการฝึกซ้อมกับทีมเลย เพราะส่วนหนึ่งคือ กาม่ามักจะปรึกษากับผู้ช่วยโค้ชที่เป็นบราซิลด้วยกันซะมากกว่า โดยไม่ให้น้าเบิร์ดยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ในสนาม หน้าที่มีอย่างเดียวคือ วางกรวยฝึกซ้อมให้กับนักเตะอย่างเดียว
- แต่สุดท้าย กาม่าก็ยอมรับน้าเบิร์ด และให้มีส่วนร่วมในการประชุมการฝึกซ้อมและวางแท็คติกต่างๆ จนกระทั่งกาม่าจากเชียงราย
- จากการทำงานด้วยกัน น้าเบิร์ดมองว่า กาม่าอยากทำฟุตบอลระดับสโมสรมากกว่า แต่ด้วยจังหวะของทีมชาติที่มีการติดต่อกับเจ้าตัวหลังจากหมดสัญญากับเชียงรายแล้ว กาม่าจึงตอบตกลงรับงานคุมชุด 23 ปีไปก่อนนั่นเอง
- น้าเบิร์ดตั้งข้อสงสัยว่า สมาคมได้มอบสัญญาให้กับกาม่าแบบชัดเจนหรือเปล่า เพราะกาม่าเป็นคนที่ชัดเจนและมือความเป็นมืออาชีพในเรื่องนี้ ถ้าเขามีสัญญาอยู่กี่ปีก็จะทำงานให้ครบสัญญา ไม่มียกเลิกกลางคัน
- มองว่า เมืองทองไม่น่ารอดจากบุรีรัมย์ในการเจอวันอาทิตย์นี้ และดูแล้วโค้ชเมืองทองไม่น่าอยู่ต่อได้
- ถ้าโค้ชยู 23 ว่างลง น้าเบิร์ดบอกว่าอยากให้โค้ชเตี้ยมาทำต่อ เพราะเห็นมาแล้วด้วยประสบการณ์ตอนตัวเองเป็นนักเตะ โค้ชเตี้ยเป็นโค้ชที่เก่ง
- น้าเบิร์ดคิดว่า ตกลงฟุตบอลไทยพัฒนาจริงหรือเปล่า เพราะมีส่วนที่พัฒนาและไม่พัฒนา ส่วนคือพัฒนาแล้วคือนักเตะที่มีเก่งขึ้น เข้าใจการเล่นมากขึ้น
- ส่วนที่ไม่พัฒนาคือ สโมสรไม่ได้ใช้เงินตัวเองในการลงทุน เอาเงินที่อื่นมาลง และการลงทุนนักเตะระดับหลักล้าน แต่แฟนบอลไม่มาก ถ้าไม่มีสปอนเซอร์เข้ามา ทีมอยู่ไม่ได้แน่นอน
- บอกว่า กรรมการห่วยแตกมากๆไม่ต่างจากยุคก่อน เพราะกรรมการไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเป่า เช่น ประชุมก่อนการแข่งขัน ดูวิดีโอ วิเคราะห์การเป่าย้อนหลัง พอมาเป่าเกมส์ระดับสูงก็ไม่มีมาตรฐาน ขนาดเป่าบอลนักเรียนก็ยังไม่กล้าควักใบเหลืองออกมาเลย
- น้าเบิร์ดเพิ่งรู้ข่าวตอนที่แคมป์ สรรวัชญ์ต่อยท้องกรรมการจากเพื่อนโทรมา บอกว่าเป็นเรื่องปกติของสรรวัชญ์ เพราะเคยเล่นด้วยกันตอนที่สิงคโปร์
- สรรวัชญ์เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูง เป็นนักเตะที่ฉลาดมาก แต่ปัญหาคือ เจ้าตัวมีปัญหาเรื่องทัศนคติและการควบคุมอารมณ์ที่ไม่ค่อยอยู่ การที่โดนแบน 8 นัดเป็นเรื่องที่สมควร เป็นบทเรียนราคาแพง และบอกนักฟุตบอลทั่วไปว่า อารมณ์เกิดขึ้นได้ และต้องควบคุมให้อยู่
- มองว่า สรรวัญช์ไม่สมควรถูกเรียกติดทีมชาติตอนนี้ เพราะการติดทีมชาตินั้นต้องมาจากการเล่นในลีกที่ดี ถ้าในลีกสร้างชื่อเสียก็ไม่สมควรติด
- ฝากถึงกรรมการไทยให้เรียนรู้จังหวะการปล่อยเกมส์ไหลต่อเนื่อง และฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินให้เรียงลำดับกรรมการ ใครเป่าห่วยก็ดันตก ใครเป่าดีก็ดันขึ้นมา
- กรรมการเป่าห่วยไม่เว้นแม้กระทั่งบอลเยาวชน บอลยู13 ยู15 ทำให้เกมส์เดือดและมีเรื่องประจำ เพราะกรรมการไม่ค่อยห้ามการเข้าหนัก การเตะบอลเด็กนั้นค่อนข้างแรงมาก เพราะเด็กยังไม่รู้จังหวะเข้าบอล แต่กรรมการก็ไม่ค่อยแจกใบเหลืองหรือใบแดง เพราะมองว่ายังเด็กอยู่
- แต่ทีมพีพีที ระยองที่น้าเบิร์ดเป็นผ.อ.อำนวยการอเคเดมี่อยู่ ห้ามไม่ให้เด็กมีเรื่องชกต่อยกัน ใครฝ่าฝืนโดนยกเลิกสัญญาทันที
- พูดถึงการติดทีมชาติของธีรศิลป์ บอกว่ามุ้ยยังสมควรติดอยู่ แม้เมืองทองจะทำผลงานได้ไม่ดี แต่กองหน้าไทยที่มีตอนนี้ก็ยังไม่มีใครไปกว่ามุ้ย
- น้าเบิร์ดพูดถึงศุภณัฏฐ์ ที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ บอกว่าเป็นคนที่มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง เทคนิค ฝีเท้า รวมถึงสปีดต้นที่ถึง เหลือแค่ความแข็งแรงของร่างกาย และความเข้าใจเกมส์มากๆ ถ้าทำตรงนี้ได้ อนาคตไปได้ยาวๆแน่นอน
- พูดถึงทีมชาติเวียดนาม บอกว่าทีมชาติเวียดนามไม่ได้เก่งไปกว่าไทยในเรื่องฝีเท้าหรือความฟิต แต่เรื่องสภาพจิตใจเวลาลงสนาม เวียดนามทำได้ดีกว่าในตอนนี้ รวมถึงวิธีการซ้อมด้วย ดูได้จากเอเชียนคัพที่ผ่านมา เวียดนามเพรสซิ่งใส่คู่แข่งได้ครบ 90 นาทีทุกเกมส์
- คิดว่า ไทยเจอเวียดนามที่คิงส์คัพ วัดกันที่ฟิตเนส สภาพความฟิต ถ้าวันนั้นมีไม่ถึงคงเสร็จเวียดนาม และคิดว่าน่าจะจบลงด้วยผลเสมอ
- ตอนนี้ น้าเบิร์ดเรียนจบ A ไลเซนต์แล้ว ทำงานเป็นผ.อ.อำนวยการอเคเดมี่ โดยเป้าหมายคือ พัฒนาให้อเคเดมี่ของพีทีที ระยอง มีชื่อเสียงอยู่ในระดับเดียวกับเมืองทองหรือบุรีรัมย์ และคิดว่าน่าจะทำได้ เพราะพีพีทีมีงบประมาณตรงนี้อยู่พอสมควร
- ปัญหาในการดูแลนักเตะอเคเดมี่คือ นักเตะส่วนใหญ่ไม่อยากเดินตามแนวทางที่สโมสรกำหนด หรือ แผนที่ของชีวิตการเป็นนักฟุตบอล นั้นก็คือ การฝึกซ้อมในทุกๆวันที่จะต้องยกระดับความเข้มข้นเรื่อยๆ ทั้งเทคนิค เบสิคพื้นฐาน ความแข็งแกร่งทางร่ายการและสภาพจิตใจ ถ้าเยาวชนคนไหนเก่งจริงไม่ต้องเล่นระดับเยาวชนต่อแล้ว จะให้ขึ้นชุดใหญ่ของทีมแบบเดียวกับศุภณัฏฐ์ของบุรีรัมย์เลย
- น้าเบิร์ดมีความฝันคือ อยากปั้นนักเตะเยาวชนของพีพีที ระยอง ติดทีมชาติชุดใหญ่ โดยตอนนี้มีนักเตะพีพีที ระยองติดทีมชาติเยาวชนแล้ว 2 คน
- สุดท้ายฝากถึงแฟนบอลไทยทุกทีม อยากให้ไปดูที่สนามให้เยอะๆ รวมถึงนักฟุตบอลไทย อยากให้ปรับในเรื่องของทัศนคติการเล่นฟุตบอล รวมไปถึงเด็กรุ่นใหม่ๆ เจเนอเรชั่นใหม่พยายามให้ทุกคนไปถึงฝันที่ตั้งไว้ ไปให้สุดทางและไปให้ได้ ตั้งความหวังให้สูงๆ ไม่เอาให้เล่นแค่ในไทยลีกแล้วพอใจ แต่ให้ทะเยอทะยาน ให้ได้ไปเล่นลีกต่างประเทศ เจลีกแบบเดียวที่มีนักเตะไทยทุกวันนี้ หรือแหวกแนวไปเล่นที่ยุโรปไปเลย ให้ไปเล่นที่ไกลๆ แล้วจะเป็นฮีโร่เอง
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องในอดีตของแกที่มาเล่าในรายการ บอกได้เลยครับว่าแกพูดคุยสนุกพอสมควร
แต่ผมคัดมาช่วงของเวลาฟุตบอลในปัจจุบัน ในมุมมองที่น้าเบิร์ดอยู่ ก็ได้รู้อะไรหลากหลายเหมือนกัน
ใครที่คิดถึงอดีตนักเตะทีมชาติคนนี้ ก็ไปดูย้อนหลังตามที่บอกข้างต้นได้ครับ