อยากไปกอดหิมาลัย เลือกเทรคเส้นไหนดี?

ต้องยอมรับว่า  ระยะหลังมานี้  กระแสเดินป่าปีนเขาที่เนปาลมาแรงจริงๆ  มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ‘เป๋าก็แบน แฟนก็ทิ้ง ภาษาอิงกิตก็ไม่คล่อง หาวันหยุดออกไปท่องโลกก็ยาก  มีก็แต่ความดันทุรังนี่แหละ  ที่พอจะเข็นเราขึ้นเขาสูงได้  เมื่อตั้งใจจริงจังซะขนาดนี้ มันต้องหาหนทางได้สิน่า

ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา  เงินในกระเป๋า  และที่สำคัญ.. เราไม่ใช่คนบ้าพลัง

งานจึงมาจบลงที่นี่ ‘มาร์ดิ ฮิลมาร์ เซอร์กิต’ (Mardi Himal Circuit) เส้นทางเปิดใหม่ของหิมาลัย

‘มาร์ดิ ฮิลมาร์ เซอร์กิต’ เป็นเส้นทางเปิดใหม่ ระยะสั้นเพียง 5 วัน ใช้งบประมาณต่ำกว่าเทรคกิ้งเส้นอื่นๆ

วิวหิมาลัยก็สวยเว่อร์วังไม่แพ้เส้นอื่น แถมยังมีโอกาสรอดตายสูงกว่าด้วย!!!

 

“.. ใช่_เลย คือเธอแน่นอน”  ปักหมุดได้แล้ว ก็แอบฮัมเพลงพี่ไท ธนาวุฒิ เบาๆ

“ว่ะฮาฮ่า... ได้ไปกอดหิมาลัยแล้วเฟ้ยยย ‘’’’

.....

ชื่อของมาร์ดิ ฮิมาล เพิ่งจะปรากฏให้เห็น ในช่วงปี 2011 มานี้เอง  สมัยก่อน. เส้นทางนี้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะมีโรงเตี๊ยม(เกสต์เฮาส์) ตามจุดพักรายทางน้อยมาก  ไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากนัก  จึงรู้จักกันเฉพาะกลุ่มที่รักการไต่เขาในฝั่งอันนาปุรณะเบสแคมป์ (Annapurana Base Camp) เท่านั้น  แต่ด้วยความสวยงามของภูมิทัศน์โดยรอบ และความสมบูรณ์ของป่าโบราณ  จึงเริ่มมีการโปรโมทจริงจัง  จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเส้นเทรคกิ้งในฝั่ง ABC  และที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ  นักเดินทางหลายๆคน เทคะแนนความน่าประทับใจให้เส้นนี้มากกว่า ABC ซะอีก

......

'มาร์ดิ ฮิมาล' ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอันนาปุรณะเบสแคมป์  อยู่ในแนวสันเขาเดียวกับยอดมัจฉาปูชเร (Machhapuchhre / 6,993เมตร) หรือที่รู้จักกันในนามยอดหางปลา (Fish Tail)  และตั้งอยูในอ้อมกอดของเทือกเขาอันนาปุรนะฝั่งทิศใต้ (Annapurana South / 7,219เมตร )  สามารถมองเห็นยอดมัจฉาปูชเรตลอดเส้นเทรคได้อย่างเต็มอิ่ม  จุดสูงสุดของเทรคเส้นนี้ คือ ‘มาร์ดิ ฮิมาล เบสแคมป์’ มีความสูงที่ระดับ 4,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล  เส้นทางนี้มีระยะทางยาวประมาณ 64 กิโลเมตร  มีความสดใหม่  ยังไม่โดนสปอยจากนักท่องเที่ยวมากนัก  จากจุดสต๊าร์ท.. ต้องเดินตัดป่าโบราณเขียวชอุ่ม ผ่านดงกุหลาบพันปีที่ออกดอกปกคลุมไปทั้งเทือกเขา (Rhododendron forest)  ดอกกุหลาบหลากสีแข่งกันบานประชันโฉมในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี (เดือนเมษายน-พฤษาคม)  เมื่อหลุดจากแนวป่า ไต่ขึ้นสันเขา  เราจะได้สัมผัสกับความสวยงามของแลนด์สเคปหิมาลัยในอีกอารมณ์หนึ่ง  เส้นทางบางช่วงมีความสูงชัน  ท้าทายแรงขาของมือใหม่หัดเทรคได้ไม่น้อยทีเดียว  เรียกว่าเป็นประสบการณ์เทรคกิ้งระยะสั้น ที่น่าเพลิดเพลิน และน่าทึ่งมากเช่นกัน

.....

รูทติ้งของ ‘มาร์ดิ ฮิมาล เทรคกิ้ง’  เริ่มที่เมืองโพคาราและสิ้นสุดที่จุดเดียวกัน  จากกาฐมาณฑุเข้าโพคารา  สามารถเลือกเดินทางโดยรถ (7-8 ชั่วโมง)  หรือทางเครื่องบิน (30นาที) ก็ได้  หากคุณเดินทางในฤดูมรสุมหรือฤดูหนาว  เราแนะนำให้เดินทางโดยรถจะดีกว่า  ไม่ต้องเสี่ยงกับสภาพอากาศและการถูกยกเลิกเที่ยวบิน  จากโพคารา..ต้องนั่งรถมาลงที่จุดเริ่มเดิน  ซึ่งมีหลายจุดให้เลือกเดิน  ขึ้นอยู่กับสภาพถนนในช่วงนั้นๆ  ว่ารถจี๊บจะไต่ขึ้นไปไกลสุดได้ถึงไหน

การผจญภัยของพวกเราเริ่มต้นที่ Dhampus  ระยะเดินวันแรกไม่หนักมากแค่อยากปล่อยโฮ เพราะระยะทางวันนี้ทั้งไกลทั้งชัน  เราเดินไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ  พักทางมื้อเที่ยงกันที่ Duerali (2,232เมตร)  และมุ่งหน้าสู่ Forest Camp (2,600ม) ในช่วงบ่ายคล้อย  เส้นทางเป็นป่าโบราณซะส่วนใหญ่  มีความดิบชัน  เย็นชุ่มชื้น  ต้นไม้ทุกต้นห่มผ้าคลุมสีเขียวสดเหมือนกันหมด  ถือเป็นเส้นทางเดินป่าที่แท้จริง  แม้ทางจะชันและเดินเหนื่อยอยู่บ้าง  แต่ก็รู้สึกสดชื่น เพราะได้อากาศบริสุทธิ์ฟอกปอดไปตลอดทาง  นอกจากจะเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยกุหลาบพันปีแล้ว  ยังมีดอกไม้ กล้วยไม้ให้ชมตลอดทาง  และยังเป็นเส้นทางที่ชุมไปด้วยนกนาๆชนิด  ส่งเสียงเจื้อยแจ้วเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ตลอดทางอีกด้วย 

***

....

จาก Forest Camp เราค่อยๆ ไต่เขาขึ้น Low Camp (2,990ม) ในเช้าวันต่อมา  พักค้างแรมที่ Low Camp หนึ่งคืน  ก่อนเดินทางต่อไปยังฐานบัญชาการสุดท้ายของทริปนี้  นั่นคือ High Camp (3,580ม)  เราเบนหัวจากแนวป่าดิบ  เข้าหาสายหมอกและแสงแดดกันอีกครั้ง  เดินพ้นโซนป่าเข้าสู่สันเขาทุ่งหญ้าสีทอง  มีหิมะปกคลุมปะปราย  ได้กลับมาชื่นชมวิวสวยๆ ของยอดหางปลากันอีกรอบ  ทางเดินสันเขามีความอันตรายเล็กน้อย  บางช่วงแคบและลื่น  สภาพอากาศบนเขาสูงมักเปลี่ยนแปลงเร็ว  เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นฟ้ายิ้มใสๆในช่วงเช้า  เศร้าซึมในตอนบ่าย  ร้องไห้ฟูมฟายเป็นฝนลูกเห็บเทใส่หัวตอนเย็นๆ   เกลียวเมฆบนฟ้าเคลื่อนตัวเร็วพอๆ กับสายหมอกรอบตัวพวกเรา  ทุกๆระยะสิบเมตรที่เดิน  หมอกจะเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ  จนสีขาวปกคลุมทุกอย่างเบื้องหน้า เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง  แม้บรรยากาศจะดูลึกลับ  แต่ก็สวยมีเสน่ห์มาก  เส้นทางโขดหินดินชัน  ทำให้เราเดินทิ้งระยะห่างกันพอควร  แต่ทุกคนต่างก็มีจุดหมายเดียวกัน  ต่างเดินมุ่งหน้าไปยังเมฆใหญ่ก้อนเดียวกัน  มันคือเมฆก้อนที่ลอยเอื่อยเหนือหุบเขาตรงหน้า  มันคือพิกัดของ High Camp ที่ซุกหัวนอนของเราในคืนนี้ 

***

 

-