จากคำถาม “ระหว่างเลี้ยงลูกเอง กับให้คนอื่นเลี้ยง คนเป็นแม่จะเลือกอันไหน?”
ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่กดดันเรามาก
เรื่องมันมีอยู่ว่า
1.เราวางแผนว่า จะมีลูกต่อๆกัน เราจะหยุดทำงานยาวเลย เพื่อเลี้ยงลูก
และมีลูกคนต่อไป สามีก็เห็นด้วย เราคิดวางแผนแบบนี้เพราะ เราอยากเลี้ยงลูกเองให้เต็มที่
เขาจะได้อบอุ่น และมีความทรงจำกับเราเยอะๆ และเมื่อเขาเข้าโรงเรียนแล้ว เราก็จะได้ลุยงานให้เต็มที่
2.เราคุยกันกับสามีแล้วว่า ไม่จ้างพี่เลี้ยงไม่ให้ปู่ย่าตายายเลี้ยง ให้เราเป็นแม่ full time เลย
เพราะ ย่าเลี้ยงเด็กไม่เป็น ย่าแกไม่เคยเลี้ยงลูก สมัยก่อนแกทำแต่งาน เพราะช่วงนั้นค้าขายดี เลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูก
ให้ยายเลี้ยง เราก็ไว้ใจแม่เราน่ะ เพราะแม่ก็เลี้ยงเรามาจนเรา 3-4 ขวบ ก็เอามาไว้ กะตายาย
แต่เราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีสต็อกเต็ม ตอนที่อยู่ไฟ ไปอยู่ไฟที่บ้านเราเอง 2 เดือน แม่ก็เอานมสต็อกมาใช้ไม่เป็น
แกบอกว่า นมสต็อกมันบูด เหม็นมากเลย (นมสต็อกมันจะมีกลิ่นเหม็นหืดเล็กน้อย แล้วเราฝึกลูกให้ดื่นนมจากขวดวันละมื้อ)
เเล้วแกก็จะให้ลูกกินข้าว ตั้งแต่ 2-3 เดือน เอาง่ายๆ คือแกจะเลี้ยงลูกแบบวิธีโบราณ เราเลยคิดว่าเราเลี้ยงเองดีกว่า
3.แม่สามีกับแม่เราเอง อยากให้เราทำงาน แม่เราแกก็อยากเลี้ยงหลาน แต่เราก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ ถ้าแกเลี้ยงแบบวิธีของแก
แล้วก็จะเลี้ยงอยู่บ้าน ซึ่งบ้านเรา คืออยู่บ้านนอกๆเลย ถ้าลูกเราเป็นอะไรมา เราก็อยู่ไกลลูก บ้านก็อยู่ไกล รพ. มีแต่มอไซต์
เราเลยบอกให้แกมาอยู่เลี้ยงที่บ้านสามี บ้านสามีอยู่ในตัวเมือง อยู่ใกล้ รพ. แต่แกบอกว่าอยู่ไม่ได้ อึดอัด (บ้านสามีอยู่กันครอบครัวใหญ่
เราเข้าใจเเม่เราที่แกอึดอัด เรายังเป็นเลย555) เราก็ตัดบทกับแม่เลยว่า เราจะเลี้ยงเอง แล้วแม่สามีก็บอกว่าไม่มีคนช่วยงาน
(ครอบครัวสามีทำงานค้าขายแบบกงสี) เราก็ได้แต่คิดในใจว่าลูกน้องไม่พอ ก็รับมาใหม่สิ แกบอกว่าไม่ไว้ใจใคร แกจะรอแต่เรา
เราเลี้ยงลูก เราไม่ได้อยู่เฉยๆ เราไม่ได้ขี้เกียจน่ะ แค่เวลาจะกินข้าว เข้าห้องน้ำแทบจะไม่มี จะนอนยังแทบจะไม่ค่อยได้นอนเลย
แล้วถ้าแกรอแต่เราแบบนี้ ลูกคนที่ 2 คงไม่ต้องมีหรอก
นี้แหละคือประเด็นที่เราอยากตั้งคำถามนี้ถามแม่ๆกัน
ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร (เราก็อยากระบายความในใจด้วย มันเครียด555)
ระหว่างเลี้ยงลูกเอง กับให้คนอื่นเลี้ยง คนเป็นแม่จะเลือกอันไหน
ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่กดดันเรามาก
เรื่องมันมีอยู่ว่า
1.เราวางแผนว่า จะมีลูกต่อๆกัน เราจะหยุดทำงานยาวเลย เพื่อเลี้ยงลูก
และมีลูกคนต่อไป สามีก็เห็นด้วย เราคิดวางแผนแบบนี้เพราะ เราอยากเลี้ยงลูกเองให้เต็มที่
เขาจะได้อบอุ่น และมีความทรงจำกับเราเยอะๆ และเมื่อเขาเข้าโรงเรียนแล้ว เราก็จะได้ลุยงานให้เต็มที่
2.เราคุยกันกับสามีแล้วว่า ไม่จ้างพี่เลี้ยงไม่ให้ปู่ย่าตายายเลี้ยง ให้เราเป็นแม่ full time เลย
เพราะ ย่าเลี้ยงเด็กไม่เป็น ย่าแกไม่เคยเลี้ยงลูก สมัยก่อนแกทำแต่งาน เพราะช่วงนั้นค้าขายดี เลยไม่มีเวลาเลี้ยงลูก
ให้ยายเลี้ยง เราก็ไว้ใจแม่เราน่ะ เพราะแม่ก็เลี้ยงเรามาจนเรา 3-4 ขวบ ก็เอามาไว้ กะตายาย
แต่เราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีสต็อกเต็ม ตอนที่อยู่ไฟ ไปอยู่ไฟที่บ้านเราเอง 2 เดือน แม่ก็เอานมสต็อกมาใช้ไม่เป็น
แกบอกว่า นมสต็อกมันบูด เหม็นมากเลย (นมสต็อกมันจะมีกลิ่นเหม็นหืดเล็กน้อย แล้วเราฝึกลูกให้ดื่นนมจากขวดวันละมื้อ)
เเล้วแกก็จะให้ลูกกินข้าว ตั้งแต่ 2-3 เดือน เอาง่ายๆ คือแกจะเลี้ยงลูกแบบวิธีโบราณ เราเลยคิดว่าเราเลี้ยงเองดีกว่า
3.แม่สามีกับแม่เราเอง อยากให้เราทำงาน แม่เราแกก็อยากเลี้ยงหลาน แต่เราก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ ถ้าแกเลี้ยงแบบวิธีของแก
แล้วก็จะเลี้ยงอยู่บ้าน ซึ่งบ้านเรา คืออยู่บ้านนอกๆเลย ถ้าลูกเราเป็นอะไรมา เราก็อยู่ไกลลูก บ้านก็อยู่ไกล รพ. มีแต่มอไซต์
เราเลยบอกให้แกมาอยู่เลี้ยงที่บ้านสามี บ้านสามีอยู่ในตัวเมือง อยู่ใกล้ รพ. แต่แกบอกว่าอยู่ไม่ได้ อึดอัด (บ้านสามีอยู่กันครอบครัวใหญ่
เราเข้าใจเเม่เราที่แกอึดอัด เรายังเป็นเลย555) เราก็ตัดบทกับแม่เลยว่า เราจะเลี้ยงเอง แล้วแม่สามีก็บอกว่าไม่มีคนช่วยงาน
(ครอบครัวสามีทำงานค้าขายแบบกงสี) เราก็ได้แต่คิดในใจว่าลูกน้องไม่พอ ก็รับมาใหม่สิ แกบอกว่าไม่ไว้ใจใคร แกจะรอแต่เรา
เราเลี้ยงลูก เราไม่ได้อยู่เฉยๆ เราไม่ได้ขี้เกียจน่ะ แค่เวลาจะกินข้าว เข้าห้องน้ำแทบจะไม่มี จะนอนยังแทบจะไม่ค่อยได้นอนเลย
แล้วถ้าแกรอแต่เราแบบนี้ ลูกคนที่ 2 คงไม่ต้องมีหรอก
นี้แหละคือประเด็นที่เราอยากตั้งคำถามนี้ถามแม่ๆกัน
ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร (เราก็อยากระบายความในใจด้วย มันเครียด555)