จะดูเป็นคนเลวมั้ย ถ้าขอเลิกกับแฟนเพราะเค้าฐานะไม่มั่นคง

เรากับแฟนคบกันมาเข้าปีที่ 4 แล้ว อายุเท่าๆกัน 26-27 เราช่วยกิจการที่บ้าน ส่วนแฟนลาออกจากงานประจำมาทำฟรีแลนซ์

ขอปูเรื่องก่อนละกันนะคะ(ยาวหน่อยนะคะ ใครไม่ชอบอ่านปิดเลยก็ได้น้า)  คบกับแฟนตั้งแต่เรียนมหาลัย ปี 3 ครอบครัวเราฐานะปานกลาง คือซัพพอร์ทเรื่องเงินเราได้เต็มที่ ไม่ได้ขาดเหลืออะไร แต่ก็ไม่ถึงขั้นรวยแบบใช้ของแบรนด์เนม ส่วนแฟนตอนแรกเราไม่รู้ฐานะทางบ้านเค้า แต่ก็คิดว่าก็คงฐานะกลางๆเหมือนๆเรา แต่แฟนเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน หัวดี ก็คบกันปกติไปกินข้าว ดูหนัง ในห้าง เที่ยวตจว นอนโรงแรมดีๆ ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็คือบางครั้งเค้าจ่ายทั้งหมด บางครั้งเราจ่ายทั้งหมดเอง ก็เหมือนๅหารกันแค่ไม่มานั่งคิดเลข เพราะเราก็แค่ว่าเออครั้งที่เค้าจ่ายแล้ว ครั้งนี้เราจ่ายละกัน

จนนานวันเข้าเราเริ่มสังเกตุว่าแฟนจะเลี่ยงไปกินร้านอาหารในห้าง ดูหนังก็จะรอมีโปรโมชั่นต่างๆ จะไปเที่ยวตจวก็ดูโรงแรมแบบบ้านๆ เราอยากได้ของอะไรทำเป็นแกล้งๆขอเค้ท เค้าก็จะบอกว่าไม่มีตังค์หรอก(เชิงหัวเราะ) แล้วเค้าก็ไม่มีของให้เราจริงๆค่ะ 555555 แล้วพอยิ่งนานเข้าไปอีกก็เรียกได้ว่าใช้ชีวิตแบบประหยัดสุดๆแบบไม่ใช่นิสัยเราเลยค่ะ นัดเจอกันแต่ไปกินข้าวโรงอาหารมหาลัย (เรียนคนละที่) ระยะทางแบบใกล้ๆ แต่ไกลสำหรับเรา เช่น จากมาบุญครอง ไปประตูน้ำ/ จากbtsนานาไปbtsอโศก คือถ้าเป็นเราปกติจะนั่งวิน เพราะเดินไม่ไหวค่ะทั้งร้อนทั้งไกล แต่ก็ยังคบกับเค้าแต่มีความรุ้สึกเหนื่อยๆเหมือนกันที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ แต่อีกแง่ก็คิดว่าดีเหมือนกันเค้าก้สอนิสัยประหยัดแล้วก็อดทนให้กับเรา แล้วก็เค้าจะชอบซื้อพวกของที่ใช้ได้มาให้มากกว่า เช่น เมาส์ สมุด เครื่องเขียน อะไรพวกนี้ ดอกไม้อะไรไม่เคยได้หรอกค่ะ 5555 เวลาเค้ามีเงินเค้าก็จะชวนเราไปเดินห้างให้ช่วยเลือกของที่เค้าเล็งไว้อ่ะค่ะ แบบราคาแพงๆที่ตั้งใจเก้บเงินมาซื้อ เราก็แอบน้อยใจนะ ไม่ค่อยซื้ออะไรเซอร์ไพรซ์เราเลย แต่เรานี่เตรียมของขวัญให้ตลอดเวลาโอกาสพิเศษอะไร

แล้วเค้าก็ไม่เคยพาเราไปบ้านนะคะ แต่เค้าไปไหว้พ่อแม่เรา จนเราทนไม่ได้เลยถามว่าทำไมไม่เคยคิดจะพาไปเจอพ่อแม่เค้าบ้าง เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากให้มาเห็นสภาพบ้านหรือครอบครัวเค้าตอนนี้ เค้าอยากพาเรามาตอนที่เค้าพร้อมและภูมิใจมากพอที่จะให้เราเห็น เราก็โอเคไม่เป็นไร บอกตัวเองว่าจะอดทน รอตอนทำงานให้เค้าสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่ปรากฎว่าพอจบปี4 เค้าก็มาบอกว่าเค้าได้ทุนไปเรียนต่อแล้วที่บ้านก็อยากให้ไปเรียนด้วย เราก็ไม่อยากไปขัดขวางอนาคตเค้า ก็ทำใจหนักอยู่เหมือนกันค่ะกับรักทางไกล ระหว่างแฟนไปเรียนเราก้ทำงานออฟฟิศ มีบินไปหาแฟนบ้าง แฟนมาหาบ้าง ก็อดทนมาโดยตลอด หลังจากเราทำงานออฟฟิศมาได้ปีครึ่งก็ตัดสินใจกลับไปช่วยกิจการที่บ้าน จนแฟนเรียนจบป.โท กลับมาหางานที่ไทย เค้าก็พาเราเข้าบ้านไปเจอพ่อแม่เค้า คุณพ่อเค้ากูเเงินมาซื้อบ้านหลังนี้ค่ะ ก็ไปมาหาสู่กันปกติพ่อแม่เอ็นดูทั้งสองฝ่าย ส่วนแฟน เค้าก้ได้งานที่หวังไว้เป็นบริษัทใหญ่และสวัสดิการดีมากค่ะ ก็ส่งเงินค่าบ้านให้พ่อกับแม่ตลอด แต่เค้ามีปัญหาในการทำงานและเพื่อนร่วมงาน จนเค้าเครียดมากๆ มากแบบมากจริงๆค่ะ เราก้คอยให้กำลังใจตลอด จนเข้าเดือนที่6เค้าบอกว่าเค้าไม่ไหวแล้ว ประกอบกับเรื่อปัญหาที่เค้าเจอ เราเลยบอกเค้าว่าถ้าทำไม่ไหวไม่มีความสุขก็ออกดีกว่ามั้ย เค้าก็คิดทบทวนอยู่2เดือนก้ตัดสินใจลาออก แล้วมารับงานฟรีแลนซ์ ได้ประมาณ 20000 ต่อเดือน เค้าก็ขยันทำงานหารายได้เสริมเมื่อมีโอกาส

แต่เนื่องจากเค้ายังต้องส่งเงินให้ที่บ้าน สร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง คิดว่าต้องใช้เวลานานมากๆเลย  เคยคุยกับเค้าแล้วนะคะว่าเราอยากแต่งงานก่อน30 เค้าก็บอกว่าโอเค ถ้าเค้าดูแลที่บ้านได้ ดูแลตัวเองได้ ดูแลเราได้ เค้าก็จะแต่งกับเราค่ะ แต่พอนานมาเรื่อยๆ อีกไม่กี่ปีจะ30แล้วยังไม่มีวี่แววเลยค่ะ เราเข้าใจนะคะว่าเค้าก็ต้องดูแลพ่อแม่เค้าก่อน ซึ่งมันก็ถูกต้องและดีแล้ว แต่ถ้าเรารอแต่งงานกับเค้าก็แทบมองไม่เห็นว่าเค้าจะดูแลที่บ้านและตัวเองได้สมบูรณ์พอจนมีเงินเหลือมาแต่งงานกับเราเมื่อไหร่ ทางบ้านเราก็อยากให้แต่งหรือหมั้นไว้ก่อน เห็นคบกันมานานแล้ว ทางผุ้ใหญ่เค้าก็อยากให้ผู้ชายให้เกียรติทั้งเราและผู้ใหญ่ด้วยการมาสู่ขอ เราก็บอกกับทางผุ้ใหญ่เราว่าเราสองคนอยากมั่นคงกว่านี้ก่อน เพราะคุยกับแฟนเค้าก็ยืนยันคำเดิมค่ะว่าเค้าไม่มีเงินมาขอเรา ส่วนเรื่องจัดงานแต่งก็ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เราลองเสนอเค้าว่าแค่ให้ผู้ใหญ่ผูกข้อไม้ข้อมือ มีแหวนสวยๆสักวง กับทานข้าวที่ร้านอาหารฉลองกับเพื่อนๆที่สนิทก็พอ เค้าก็บอกว่าเค้าไม่มีเงินเยอะขนาดจะไปใช้แบบนั้นหรอก และเค้าบอกว่าเค้าจะรู้สึกแย่ด้วยค่ะถ้าไม่มีเงินของตัวเองไปขอเรา จนถึงจุดนี้เราก็ปลงหน่อยๆแล้วล่ะค่ะว่าคงไม่ได้แต่งงานถ้าคบกับเค้าต่อ แต่ก็นีกถึงว่าถ้าอยุ่กันไป บ้าน รถ กินอยู่ แล้วไหนจะความพร้อมสำหรับมีลูกอีก เราเลยไม่ค่อยมั่นใจที่จะวางอนาคตกับเค้าค่ะ

ปล.เราช่วยกิจการที่บ้านมีเงินเพียงพอ และสร้างครอบครัวไปด้วยกันได้ค่ะ แต่กลัวว่าวันนึงเราจะเหน็ดเหนื่อยแบกรับภาระ(ทางการเงิน)เป็นหลักในครอบครัว แทนที่จะเป็นเค้า จนเราจะเสียใจรึป่าวในอนาคต
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่