คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ขอแทนตัวเองว่าพี่ค่ะ เพราะอายุน่าจะมากกว่าน้องประมาณ 10 ปี
- การอยู่ก่อนแต่ง ไม่ผิด เพราะถือว่าอายุเกิน 18 ปีแล้ว จึงไม่ผิดกฎหมาย แต่อยู่ที่เราพร้อมทางกายและใจมากกว่าว่าอยากจะมีเมื่อไหร่ และ กับใคร
- ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ ลูกมักจะเกรงใจพ่อแม่อยู่แล้วเรื่องจะไปมีอะไรกับใคร เลยมักรู้สึกผิด เป็นเรื่องปกติ (แต่อารมณ์ทางเพศก็เป็นเรื่อปกติเหมือนกัน) ส่วนพ่อแม่ก็มักจะไม่อยากให้ลูกไปมีอะไร เพราะเค้าห่วง และ หวง ก็เป็นเรื่องปกติ
- ในฐานะนักศึกษา หรือ คนที่ยังไม่ได้แต่งงาน แนะนำว่า ถ้าจะมีอะไรกัน ให้ป้องกันทุกครั้ง (โดยที่การใส่ถุงยางอนามัยสำคัญมากกว่าทางอื่น เพราะว่าป้องกันได้มากที่สุด และ ป้องกันโรคติดต่อส่วนมากได้) ป้องกันคือป้องกันการตั้งครรภ์ และ โรคติดต่อทางเพศ
- เรื่องย้ายไปอยู่ด้วยกัน แนะนำว่า ถ้ามีอะไรกันแล้ว จะมีต่อหรือไม่มีต่อ พี่ว่าไม่ใช่สาระสำคัญ (เพราะมีการป้องกัน) แต่การย้ายไปอยู่ด้วยกัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่พี่นึกออกคือ
ถ้าอยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะดึงเวลาการเรียน การทำกิจกรรมที่มหาลัย การเข้าสังคมกับเพื่อนไป ทำให้ชีวิตมหาลัยเสียโอกาสเรียนรู้ไปเยอะ และ ถ้าเจอผู้ชายไม่ดี เค้าอาจจะมองเราเป็นของตาย หรือ อาจจะเบื่อหน่ายกันเร็ว หรือ ถ้าเราก้าวก่ายกันมากเกินไป มันจะขาดความเป็นส่วนตัว
ถ้าอยู่ด้วยกันบ้าง เช่น อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เดือนละไม่กี่ครั้ง อารมณ์ไปนอนค้างบ้านเพื่อนบางครั้งบางคราว หรือ ไปเที่ยวต่างจังหวัด พี่ว่า โอเคนะ ก็บาลานซ์ดี ทั้งการเรียน สังคม เพื่อน และ แฟน
- ถ้าเลิกกับแฟนที่เคยมีอะไรกันไปแล้ว ไม่ต้องห่วง เพราะเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะไม่ได้แต่งงานกับแฟนคนแรก คนที่สอง หรือ คนต่อๆมาก เพราะ เรากำหนดคนที่ใช่ไม่ได้ ซึ่งเราอาจจะมีอะไรกับเค้าไปแล้ว สุดท้าย คุณค่าของคนไม่ได้วัดที่ เคยมีอะไรกับใคร หรือ เคยเลิกกับใคร ถ้าต้องเลิกกับแฟนที่เคยมีอะไรกัน ก็ทำใจเหมือนการเลิกกับแฟนปกติ
- สุดท้าย ถ้าจะให้แนะนำน้องบางอย่าง ก็คงจะเป็นว่า การอยู่กับแฟนตลอดเวลา เช่น ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย พี่ว่าอาจมีข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่การอยู่ด้วยกันบ้างบางวัน เป็นสิ่งที่โอเคนะคะ ส่วนจะมีอะไรกันไหม พี่คิดว่า ขึ้นอยู่กับเราเลย แต่ขอให้ป้องกันทุกครั้งนะคะ และที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ว่าจะมีอะไรหรืออยู่ด้วยกันไหม ขอให้เลือกแฟนที่ดีก่อนที่จะมีอะไรกันหรือเข้ามาอยู่ด้วยกัน คือ รักน้องจริง นิสัยดี จิตใจดี ทัศนคติดี ไลฟสไตล์เข้ากันได้ ส่งเสริมกันในทางที่ดี ช่วยกันเรียน จริงใจ เป็นคนมีน้ำใจ ไม่เอาเปรียบเรา ไม่ทำร้ายเราทั้งร่างกายและจิตใจ ดูแลเราดี ไว้ใจได้ ไม่ใช่มาหลอกฟันแล้วทิ้ง เพราะ ถ้าเราได้คนไม่ดีมาอยู่ด้วยกัน อาจมีอันตรายทางร่างกาย และ ส่งผลร้ายต่อจิตใจค่ะ แต่ถ้าแฟนดี การใช้เวลาด้วยกันก็จะมีความสุขค่ะ
- การอยู่ก่อนแต่ง ไม่ผิด เพราะถือว่าอายุเกิน 18 ปีแล้ว จึงไม่ผิดกฎหมาย แต่อยู่ที่เราพร้อมทางกายและใจมากกว่าว่าอยากจะมีเมื่อไหร่ และ กับใคร
- ไม่ว่าลูกจะอายุเท่าไหร่ ลูกมักจะเกรงใจพ่อแม่อยู่แล้วเรื่องจะไปมีอะไรกับใคร เลยมักรู้สึกผิด เป็นเรื่องปกติ (แต่อารมณ์ทางเพศก็เป็นเรื่อปกติเหมือนกัน) ส่วนพ่อแม่ก็มักจะไม่อยากให้ลูกไปมีอะไร เพราะเค้าห่วง และ หวง ก็เป็นเรื่องปกติ
- ในฐานะนักศึกษา หรือ คนที่ยังไม่ได้แต่งงาน แนะนำว่า ถ้าจะมีอะไรกัน ให้ป้องกันทุกครั้ง (โดยที่การใส่ถุงยางอนามัยสำคัญมากกว่าทางอื่น เพราะว่าป้องกันได้มากที่สุด และ ป้องกันโรคติดต่อส่วนมากได้) ป้องกันคือป้องกันการตั้งครรภ์ และ โรคติดต่อทางเพศ
- เรื่องย้ายไปอยู่ด้วยกัน แนะนำว่า ถ้ามีอะไรกันแล้ว จะมีต่อหรือไม่มีต่อ พี่ว่าไม่ใช่สาระสำคัญ (เพราะมีการป้องกัน) แต่การย้ายไปอยู่ด้วยกัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่พี่นึกออกคือ
ถ้าอยู่ด้วยกันทุกวัน มันจะดึงเวลาการเรียน การทำกิจกรรมที่มหาลัย การเข้าสังคมกับเพื่อนไป ทำให้ชีวิตมหาลัยเสียโอกาสเรียนรู้ไปเยอะ และ ถ้าเจอผู้ชายไม่ดี เค้าอาจจะมองเราเป็นของตาย หรือ อาจจะเบื่อหน่ายกันเร็ว หรือ ถ้าเราก้าวก่ายกันมากเกินไป มันจะขาดความเป็นส่วนตัว
ถ้าอยู่ด้วยกันบ้าง เช่น อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เดือนละไม่กี่ครั้ง อารมณ์ไปนอนค้างบ้านเพื่อนบางครั้งบางคราว หรือ ไปเที่ยวต่างจังหวัด พี่ว่า โอเคนะ ก็บาลานซ์ดี ทั้งการเรียน สังคม เพื่อน และ แฟน
- ถ้าเลิกกับแฟนที่เคยมีอะไรกันไปแล้ว ไม่ต้องห่วง เพราะเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะไม่ได้แต่งงานกับแฟนคนแรก คนที่สอง หรือ คนต่อๆมาก เพราะ เรากำหนดคนที่ใช่ไม่ได้ ซึ่งเราอาจจะมีอะไรกับเค้าไปแล้ว สุดท้าย คุณค่าของคนไม่ได้วัดที่ เคยมีอะไรกับใคร หรือ เคยเลิกกับใคร ถ้าต้องเลิกกับแฟนที่เคยมีอะไรกัน ก็ทำใจเหมือนการเลิกกับแฟนปกติ
- สุดท้าย ถ้าจะให้แนะนำน้องบางอย่าง ก็คงจะเป็นว่า การอยู่กับแฟนตลอดเวลา เช่น ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย พี่ว่าอาจมีข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่การอยู่ด้วยกันบ้างบางวัน เป็นสิ่งที่โอเคนะคะ ส่วนจะมีอะไรกันไหม พี่คิดว่า ขึ้นอยู่กับเราเลย แต่ขอให้ป้องกันทุกครั้งนะคะ และที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ว่าจะมีอะไรหรืออยู่ด้วยกันไหม ขอให้เลือกแฟนที่ดีก่อนที่จะมีอะไรกันหรือเข้ามาอยู่ด้วยกัน คือ รักน้องจริง นิสัยดี จิตใจดี ทัศนคติดี ไลฟสไตล์เข้ากันได้ ส่งเสริมกันในทางที่ดี ช่วยกันเรียน จริงใจ เป็นคนมีน้ำใจ ไม่เอาเปรียบเรา ไม่ทำร้ายเราทั้งร่างกายและจิตใจ ดูแลเราดี ไว้ใจได้ ไม่ใช่มาหลอกฟันแล้วทิ้ง เพราะ ถ้าเราได้คนไม่ดีมาอยู่ด้วยกัน อาจมีอันตรายทางร่างกาย และ ส่งผลร้ายต่อจิตใจค่ะ แต่ถ้าแฟนดี การใช้เวลาด้วยกันก็จะมีความสุขค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อยู่กับแฟน แล้วมีอะไรกัน กับปัญหาที่ตามมา(18+)
เรียนมหาลัยแล้วเพิ่งเคยมีแฟนค่ะ อยู่หอกับแฟนโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ มีเพื่อนแค่บางคนที่รู้ ช่วงแรกๆมีความสุขดีค่ะ มีเวลาอยู่ด้วยกันมาก คิดว่าตัวเองห้ามใจได้ แต่วันนึงมีอะไรกันค่ะ แล้วก็มีมาเรื่อยๆ(ป้องกันทุกครั้งนะคะ) เหมือนจะพยายามเลิกทำแบบนี้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ปล่อยตามอารมณ์ ถึงตอนนี้มีเหตุการณ์นึงเลยทำให้รู้สึกแย่มาก รู้สึกผิดมากๆทั้งต่อพ่อแม่ เพื่อน แล้วก็ต่อตัวเอง รู้สึกว่าตอนนี้มันแก้ไม่ทันแล้ว จะกลับใจทันมั๊ย กลัวสังคมตราหน้าว่าเป็นเด็กใจแตก เครียดมาก กลัวว่าวันนึงถ้าเกิดเลิกกับแฟนคนนี้จะทำใจไม่ได้ เหมือนเริ่มๆซึมเศร้า คิดมาก เลยตัดสินใจว่าจะเลิกอยู่หอกับแฟนแล้ว จะกลับไปเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรกันอีก ไม่มีปัญหาอะไรกับแฟนนะคะ แฟนเข้าใจและเห็นด้วยค่ะ แต่ก็ยังกังวลกับเสียใจในเรื่องที่ผ่านมาอยู่ เลยอยากถามว่า
1. กลับตัวตอนนี้ถือว่าทันมั๊ยคะ ผิดมากมั๊ยคะที่ทำอะไรแบบนี้
2. อยากจะขอกำลังใจ หรือคำแนะนำหน่อยนะคะ ยังคงรุ้สึกผิดอยู่มากๆ
3. ถ้าเลิกกับแฟนที่เคยมีอะไรกันแล้ว จะทำใจยังไงดีคะ
ปล.ไม่ได้ท้องนะคะ