โดนบังคับจากทางบ้าน ไม่สามารถโต้กลับได้

สวัสดีครับ พอดีที่บ้านป้าผมชอบบ่นมากครับสามารถโยงทุกเรื่องมาบ่นได้
วันหนึ่ง ผมมานั่งกินข้าวบนโต๊ะกับป้าพอดี ป้าผมยื่นแตงกวาให้ แต่ผมบอกยังไม่อยากกิน(ปกติเป็นคนไม่ชอบกินผักครับ แต่กำลังฝึก) ผมเลยบอกไปว่ายังไม่อยากกิน ถ้าอยากเดี๋ยวกินเอง ไม่อยากให้ใครบังคับครับ(ปกติถ้าไปกินตามร้านข้าวจานละ30บาทมีผักเคียงมาผมก็กินหมดนะแตงกวาอะไรพวกนี้) แต่ในสถานการณ์แบบนี้คือ ป้าผมสวนขึ้นมาด้วยว่า ถ้าไม่อยากกินตอนนี้จะกินตอนไหน กินแตงแล้วมันจะตายหรอ!! ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นครับ ไม่ได้เรียกว่าเถียง ถึงถ้าผมเถียงอย่างน้อยก็เถียงแบบมีเหตุผล ป้าผมก็ตอบว่า เก่งมาจากไหน! แบบเนี้ยเค้าเรียกว่าเถียง! คอยดูนะถ้าไปทำงานไปเถียงหัวหน้าแบบนี้เดี๋ยวก็โดนไล่ออก แล้วก็ไปเถียงครูในโรงเรียนเดี๋ยวก็โดนว่ากลับมา  ซึ่งในความคิดผม ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันครับ โดยเฉพาะกับครูในโรงเรียน เพราะว่า ปกติผมอยู่โรงเรียนผมเป็นคนเรียบร้อยครับช่วยเหลือทุกคน ตั้งใจเรียนนั่งหน้าสุด พูดแบบมีสติ ครูก็ไม่เคยเถียงครับ มีแต่สอบถามเรื่องเรียนปกติ ครํแกก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็อีกเรื่องคือ ตอนทำงานครับ ว่าถ้าไปเถียงหัวหน้า ผมอยู่ม.4 ยังไม่รู้จะได้ทำงานอายุเท่าไหร่ แต่มันก็มีโอกาสที่ผมจะไม่ได้เป็นลูกจ้างใครหนิครับ ผมอาจจะเป็นหัวหน้าเองก็ได้ ไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต และการทำงานผมไม่คิดจะเถียงหัวหน้าหรอกครับ เพราะเค้ามีอำนาจเกือบสูงสุด เค้าเป็นคนที่มีอำนาจที่สามารถไล่เราออกได้ แต่เรื่องนี้ป้าผมคงโยงมาจากพ่อผมครับ เพราะ พ่อผมโดนไล่ออกจากบริษัทเพราะเถียงหัวหน้าครับ

สรุปนะครับ ผมจะไม่เถียงหรือให้เหตุผลใครถ้าไม่จำเป็น ก่อนพูดผมไตร่ตรองตลอดครับ มีแต่ที่บ้านนี่แหละครับ ที่ผมต้องเถียงและอธิบายเหตุผลทุกวันซึ่งเหมือนจะไม่ได้ผลเลย ผมก็ไม่อยากอยู่ระบอบผู้ปกครองแบบนี้หรอกครับถึงจะกินดีอยู่ดีมีบ้านหลังใหญ่ แต่แลกมาด้วยสภาพจิตใจแบบนี้ ผมขอไม่ดีกว่าครับ เงินซื้อความรู้สึกคนไม่ได้ครับผม

#ถ้ามีเยาวชนคนคนอื่นประสบพบเจอเหตุการณ์แบบผมนะครับ จำไว้ว่าอย่าท้อ คุณจงลุกขึ้นสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าคุณไม่สู้มันก็จะเป็นวัฏจักรอยู่แบบนั้นแหละครับขอบคุณครับ

#เหตุเกิดเพราะแตงกวา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่