ป้าก็อายุมากแล้ว กว่าจะสมัครพันทิปได้ เหนื่อยเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะพึ่งใครก็ต้องทำจนสำเร็จมาตั้งกระทู้ได้
รบกวนเวลาอ่าน และช่วยป้าด้วยนะค่ะ
ป้าอยู่กับลุง(ไม้ใกล้ฝั่ง)อย่างสงบในชุมชนกลางเมืองสุราษฯ อย่างสงบมาตลอด
จน..ความสงบหายไป..เมื่อมีธุรกิจคาร์แคร์ มาเปิดใกล้บ้าน
แล้วเปิดเพลงเสียงดังสนั่นทุกวัน
(ลำพังเสียฉีดน้ำ นี่รับได้ค่ะ เพราะเข้าใจค่ะว่าทุกคนต้องทำมาหากิน)
ชาวบ้านแถวนั้นต่างเอือมระอาค่ะ แจ้งตำรวจ ก็น่ารักมาก มาดูและตักเตือนให้ทุกครั้งที่มีคนแจ้ง แต่ทำอะไรไม่ได้
ชาวบ้านไปคุยด้วยดีๆ ก็มีปากเสียง ถึงขนาดโดนรุมทำร้ายกัน แล้วบอกว่าตำรวจสุราษฯทำอะไรเขาไม่ได้
ป้ากับลุงที่คงอยู่ได้อีกไม่นาน อยากขอมีชีวิตช่วงสุดท้ายกับมะเร็งอย่างสงบเหมือนเดิมค่ะ
ก็หวังมาพึ่งสังคม และชาวสุราษฯ
ช่วยพิจารณาสิ่งที่ป้าขอฝากข้อคิดแบบคนที่ผ่านโลกมาจนเกือบถึงวาระสุดท้ายดังนี้นะค่ะ
1.ชาวสุราษฯ ที่มาใช้บริการแค่1ชม ก็คงเสร็จ ได้คิดบ้างไหมค่ะว่า
ชาวบ้านแถวนั้นที่อยู่กับคาร์แคร์นี้ทั้งวันทุกวันจะได้รับผลอะไร
ผู้ประกอบการที่เปิดเพลงรบกวนชุมชนสังคมขนาดนี้ เราสมควรให้การสนับสนุนหรือไม่ค่ะ
2.ท่านเจ้าของคาร์แคร์ คิดบ้างไหมค่ะว่า
สิ่งที่ท่านทำไปแม้จะเอาชนะคนแถวนั้นได้ตามที่ท่านประกาศและแสดงให้เห็นว่าตำรวจสุราษฯทำอะไรท่านไม่ได้ ท่านชนะในเกมส์ประลองกำลังกับสังคม
แต่ท่านหมางใจกับสังคม ชาวบ้าน10คน แต่ละคนมีญาติและเพื่อนอีก10คน
บอกต่อถึงสิ่งที่ท่านกระทำ ท่านคิดว่าจะกระทบภาพลักษณ์กับธุรกิจของท่านหรือไม่ การบอกต่ออาจขยายวงไปเรื่อยๆ
ลองทบทวนดูนะค่ะ
3.เทศบาลนครสุราษฯ
สิ่งที่เทศบาลอยากได้คือภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย ป้าเคยเห็นท่านส่งคนมาสำรวจถ่ายรูปทุกจุด
แต่สิ่งที่ชาวบ้านอยากได้ คือความสุขสงบ
ท่านได้เคยส่งคนมาสำรวจบ้างไหมค่ะ จะให้ไปร้องเรียนโดยทำเรื่อง ใครจะกล้าค่ะ
หลังจากคนแถวนั้นโดนรุมทำร้ายมาแล้ว
ต้องขอความเมตตา จากท่าน ธีระกิจ หวังมุทิตากุล ด้วยค่ะ
...สุดท้าย
ต้องขอขอบคุณตำรวจทุกท่านที่ช่วยเป็นธุระตักเตือน แม้จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่นิ่งนอนใจ
ทำให้สังคมมั่นใจว่าตำรวจดีๆยังอยู่กับประชาชนค่ะ
ป้าอ้อนวอนสังคมออนไลน์และชาวสุราษฯช่วยแก้ปัญหาหน่อยค่ะ..เพื่อนบ้านส่งเสียงดัง
รบกวนเวลาอ่าน และช่วยป้าด้วยนะค่ะ
ป้าอยู่กับลุง(ไม้ใกล้ฝั่ง)อย่างสงบในชุมชนกลางเมืองสุราษฯ อย่างสงบมาตลอด
จน..ความสงบหายไป..เมื่อมีธุรกิจคาร์แคร์ มาเปิดใกล้บ้าน
แล้วเปิดเพลงเสียงดังสนั่นทุกวัน
(ลำพังเสียฉีดน้ำ นี่รับได้ค่ะ เพราะเข้าใจค่ะว่าทุกคนต้องทำมาหากิน)
ชาวบ้านแถวนั้นต่างเอือมระอาค่ะ แจ้งตำรวจ ก็น่ารักมาก มาดูและตักเตือนให้ทุกครั้งที่มีคนแจ้ง แต่ทำอะไรไม่ได้
ชาวบ้านไปคุยด้วยดีๆ ก็มีปากเสียง ถึงขนาดโดนรุมทำร้ายกัน แล้วบอกว่าตำรวจสุราษฯทำอะไรเขาไม่ได้
ป้ากับลุงที่คงอยู่ได้อีกไม่นาน อยากขอมีชีวิตช่วงสุดท้ายกับมะเร็งอย่างสงบเหมือนเดิมค่ะ
ก็หวังมาพึ่งสังคม และชาวสุราษฯ
ช่วยพิจารณาสิ่งที่ป้าขอฝากข้อคิดแบบคนที่ผ่านโลกมาจนเกือบถึงวาระสุดท้ายดังนี้นะค่ะ
1.ชาวสุราษฯ ที่มาใช้บริการแค่1ชม ก็คงเสร็จ ได้คิดบ้างไหมค่ะว่า
ชาวบ้านแถวนั้นที่อยู่กับคาร์แคร์นี้ทั้งวันทุกวันจะได้รับผลอะไร
ผู้ประกอบการที่เปิดเพลงรบกวนชุมชนสังคมขนาดนี้ เราสมควรให้การสนับสนุนหรือไม่ค่ะ
2.ท่านเจ้าของคาร์แคร์ คิดบ้างไหมค่ะว่า
สิ่งที่ท่านทำไปแม้จะเอาชนะคนแถวนั้นได้ตามที่ท่านประกาศและแสดงให้เห็นว่าตำรวจสุราษฯทำอะไรท่านไม่ได้ ท่านชนะในเกมส์ประลองกำลังกับสังคม
แต่ท่านหมางใจกับสังคม ชาวบ้าน10คน แต่ละคนมีญาติและเพื่อนอีก10คน
บอกต่อถึงสิ่งที่ท่านกระทำ ท่านคิดว่าจะกระทบภาพลักษณ์กับธุรกิจของท่านหรือไม่ การบอกต่ออาจขยายวงไปเรื่อยๆ
ลองทบทวนดูนะค่ะ
3.เทศบาลนครสุราษฯ
สิ่งที่เทศบาลอยากได้คือภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย ป้าเคยเห็นท่านส่งคนมาสำรวจถ่ายรูปทุกจุด
แต่สิ่งที่ชาวบ้านอยากได้ คือความสุขสงบ
ท่านได้เคยส่งคนมาสำรวจบ้างไหมค่ะ จะให้ไปร้องเรียนโดยทำเรื่อง ใครจะกล้าค่ะ
หลังจากคนแถวนั้นโดนรุมทำร้ายมาแล้ว
ต้องขอความเมตตา จากท่าน ธีระกิจ หวังมุทิตากุล ด้วยค่ะ
...สุดท้าย
ต้องขอขอบคุณตำรวจทุกท่านที่ช่วยเป็นธุระตักเตือน แม้จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่นิ่งนอนใจ
ทำให้สังคมมั่นใจว่าตำรวจดีๆยังอยู่กับประชาชนค่ะ