ทำไมผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องยอมอดทนกับปัญหาที่ตัวเองไม่ได้ก่ออย่างข้างบ้านเสียงดัง คนมาอยู่ก่อนก็ต้องทนกับเสียงรบกวน ว่าอะไรก็ไม่ได้ ต้องมาหาวิธีป้องกันเสียงเอง เสียตังอีก เสียงเวลาอีก นอนไม่หลับ ตื่นสายเสียการเสียงานอีก แจ้งความก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เผลอๆ ยังต้องมาคอยระแวงชีวิตอีก สุดท้ายต้องย้ายหนีมันหรอทั้งที่มาอยู่ก่อน
ไปเที่ยวอุทยาน 3 ที่ เจอ 2 ที่ กฏเกณฑ์ก็มีชัดเจน มันก็ยังจะมีพวกนี้อีก มันถูกอบรมสั่งสอนมายังไงเนี้ย ตัวปัญหาตัวเดียว เดือดร้อนกันหมดแล้วก็ต้องนอนทดฟัง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้จะตักเตือนอะไรเลย รัฐบาลไม่มีวิธีจัดการที่มีประสิทธิภาพเลยหรอครับ จัดระเบียบสังคมบ้างได้ไหมครับ สังคมเริ่มเละเทะแล้วนะครับ ตำรวจทำได้เเค่นี้หรอครับ ติดตามผลบ้างไหมครับกับเคสแบบนี้ ต้องให้เป็นฝ่ายถอยหลังหนีปัญหาหรอครับ
ผมไม่ดื่มนะครับ ไม่ชอบเสียงดัง รักสงบ ปกติไม่มีคนข้างบ้านก็สงบดี ที่ผมอยู่เป็นชุมชนบ้านนอก 20:00 เงียบหมด(หมายังไม่เห่าเลยครับ)
หรือเป็นที่ผมที่ไม่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
ข้างบ้านเสียงดัง
ไปเที่ยวอุทยาน 3 ที่ เจอ 2 ที่ กฏเกณฑ์ก็มีชัดเจน มันก็ยังจะมีพวกนี้อีก มันถูกอบรมสั่งสอนมายังไงเนี้ย ตัวปัญหาตัวเดียว เดือดร้อนกันหมดแล้วก็ต้องนอนทดฟัง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้จะตักเตือนอะไรเลย รัฐบาลไม่มีวิธีจัดการที่มีประสิทธิภาพเลยหรอครับ จัดระเบียบสังคมบ้างได้ไหมครับ สังคมเริ่มเละเทะแล้วนะครับ ตำรวจทำได้เเค่นี้หรอครับ ติดตามผลบ้างไหมครับกับเคสแบบนี้ ต้องให้เป็นฝ่ายถอยหลังหนีปัญหาหรอครับ
ผมไม่ดื่มนะครับ ไม่ชอบเสียงดัง รักสงบ ปกติไม่มีคนข้างบ้านก็สงบดี ที่ผมอยู่เป็นชุมชนบ้านนอก 20:00 เงียบหมด(หมายังไม่เห่าเลยครับ)
หรือเป็นที่ผมที่ไม่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม