ฉันบังเอิญได้เจอกับผู้ชายคนนึง นามสมมุติว่า พี่ ก.แล้วกันนะคะ ซึ่งตอนแรกที่เจอก็เฉยๆ จนมีโอกาสได้เจอกันอีกหลังจากนั้น 4-5 รอบด้วยสถานการณ์และสังคม หลังจากนั้น พี่ ก. คนนี้ทักมาหาฉันในเฟสทำนองหยอดๆ จีบๆ แซวๆ แต่ฉันก็เฉยๆ ตอบเขาบ้างตามมารยาท จนมาวันหนึ่ง พี่ก.บอกว่าเขากำลังมีปัญหา เขาไม่มีเงินติดตัว โทรศัพท์พัง และตอนนี้เขาอยู่ข้างนอกโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน เขาขอให้ฉันช่วยเขาโดยการช่วยขับรถพาเขาไปทำธุระเกี่ยวกับงานเกี่ยวกับเอกสารสำคัญ ตอนแรกฉันจะไม่พาไป เพราะกลัวมีปัญหา แต่อีกใจนึงก็คือ สงสาร เห็นใจ และตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่า การที่ช่วยคนรู้จัก ฉันตอบตกลง และขับรถพาเขาไปทำธุระ
หลังจากนั้น พี่ ก.ก็เล่าเรื่องอะไรมากมายให้ฉันฟังเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว และเรื่องต่างๆมากมาย ฉันเองก็ไม่ได้สนิทกับใครไม่ว่าจะเป็น พี่ ก. หรือ ภรรยาเขา
พอพี่ ก. ยิ่งเล่าเยอะ ฉันเองก็เป็นคนขี้สงสาร ก็คุยด้วย รับฟัง แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลย ไม่ได้ไปไหนกับเขา ทั้งๆที่เขาพยายามชวนฉันให้ไปหา หลายครั้ง แต่ฉันไม่ไปเลย
หลังๆ พี่ ก. ก็เริ่มเล่าเรื่องปัญหาของเขามากมายให้ฉันฟัง
เขาบอกเขาเลิกกับภรรยา ภรรยาไล่เขาออกจากบ้าน ซึ่งฉันไม่รุ้รายละเอียด และ พี่ ก.ก็ไม่ได้เข้าบ้านเลยหลังจากนั้น มาทราบทีหลังว่าบ้านที่พี่ ก.โดนไล่ออกมา คือ บ้านพี่สาวของทางภรรยาเขา จนผ่านมาพักนึงเกือบๆเดือน ภรรยาพี่ ก. ทักเรามาทางเฟสบุ้ค ขอร้องเราว่าเราอย่าใจอ่อนได้ไหม เพราะ พี่ ก.ชอบและชื่นชมเรามาก เราอย่าหลงชอบพี่ ก. จะได้ไหม ตอนนั้นเราตอบไปว่า เราไม่ได้คิดอะไร และเราเพิ่งเลิกกับแฟน เรายังกลัวความสัมพันธ์ใหม่ๆ ผ่านไปสักพัก ภรรยาพี่ ก. ทักมาหาเราอีก บอกกับเราว่า
เขาเลิกกันแล้ว ฝากให้เราดูแลพี่ ก. ด้วยนะ บลาๆๆ อะไรทำนองนี้ เราก็อะไรวะ (ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าทั้ง 2 คน เขาจดทะเบีบนสมรสกัน ) ทุกๆวัน พี่ ก.จะคุยกับเรา คิดว่าตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ จนผ่านมาเดือนนึง ความสัมพันธ์ของเรากับพี่ ก. กลายเป็นสนิทกันมากขึ้น ซึ่งทุกๆวันที่คุยกัน ก็คุยเรื่องทั้วๆไป เราก็ไม่ได้ถึงกับชอบเขา เพราะเรารู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ ปากหวาน น่ากลัว แต่เราก็ไม่ใช่ ผญ ที่รุ้ไม่ทันคน จนเข้าเดือนที่ 2 ที่เรากับพี่ ก. คุยกัน ตอนนั้น เราเข้าใจว่า เขาเลิกกันจริงๆ เพราะทางภรรยาพี่ ก.ก็โพสต์เฟสทำนองว่า เลิกกันเด็ดขาด พี่ ก.เองก็ไม่ได้เข้าบ้านที่โดนไล่ออกมาเลย และก็ไม่เข้าบ้านตัวเอง แต่ตอนนั้นเขาโกหกเราว่าเขาอยู่บ้าน (แต่จริงๆ แล้วเปล่าค่ะ เรามารู้ทีหลังว่าก่อนเขาจีบเรา เขาจีบน้องอีกคนนึงที่เราเองและภรรยาพี่ ก.เองก้รุ้จัก สรุปคือ พี่ ก.คบซ้อน และมีพฤติกรรม
เลยค่ะ ) ใช่ค่ะ เราเข้าใจมาตลอดว่าเขาอยุ่บ้านตัวเอง เดี๋ยวมาต่อค่ะ เรื่องยาวมาก
ฉันตกเป็นเมียน้อยของสามีคนอื่นแต่ผู้หญิงเองก็มีชู้
หลังจากนั้น พี่ ก.ก็เล่าเรื่องอะไรมากมายให้ฉันฟังเกี่ยวกับปัญหาครอบครัว และเรื่องต่างๆมากมาย ฉันเองก็ไม่ได้สนิทกับใครไม่ว่าจะเป็น พี่ ก. หรือ ภรรยาเขา
พอพี่ ก. ยิ่งเล่าเยอะ ฉันเองก็เป็นคนขี้สงสาร ก็คุยด้วย รับฟัง แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลย ไม่ได้ไปไหนกับเขา ทั้งๆที่เขาพยายามชวนฉันให้ไปหา หลายครั้ง แต่ฉันไม่ไปเลย
หลังๆ พี่ ก. ก็เริ่มเล่าเรื่องปัญหาของเขามากมายให้ฉันฟัง
เขาบอกเขาเลิกกับภรรยา ภรรยาไล่เขาออกจากบ้าน ซึ่งฉันไม่รุ้รายละเอียด และ พี่ ก.ก็ไม่ได้เข้าบ้านเลยหลังจากนั้น มาทราบทีหลังว่าบ้านที่พี่ ก.โดนไล่ออกมา คือ บ้านพี่สาวของทางภรรยาเขา จนผ่านมาพักนึงเกือบๆเดือน ภรรยาพี่ ก. ทักเรามาทางเฟสบุ้ค ขอร้องเราว่าเราอย่าใจอ่อนได้ไหม เพราะ พี่ ก.ชอบและชื่นชมเรามาก เราอย่าหลงชอบพี่ ก. จะได้ไหม ตอนนั้นเราตอบไปว่า เราไม่ได้คิดอะไร และเราเพิ่งเลิกกับแฟน เรายังกลัวความสัมพันธ์ใหม่ๆ ผ่านไปสักพัก ภรรยาพี่ ก. ทักมาหาเราอีก บอกกับเราว่า
เขาเลิกกันแล้ว ฝากให้เราดูแลพี่ ก. ด้วยนะ บลาๆๆ อะไรทำนองนี้ เราก็อะไรวะ (ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าทั้ง 2 คน เขาจดทะเบีบนสมรสกัน ) ทุกๆวัน พี่ ก.จะคุยกับเรา คิดว่าตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ จนผ่านมาเดือนนึง ความสัมพันธ์ของเรากับพี่ ก. กลายเป็นสนิทกันมากขึ้น ซึ่งทุกๆวันที่คุยกัน ก็คุยเรื่องทั้วๆไป เราก็ไม่ได้ถึงกับชอบเขา เพราะเรารู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ ปากหวาน น่ากลัว แต่เราก็ไม่ใช่ ผญ ที่รุ้ไม่ทันคน จนเข้าเดือนที่ 2 ที่เรากับพี่ ก. คุยกัน ตอนนั้น เราเข้าใจว่า เขาเลิกกันจริงๆ เพราะทางภรรยาพี่ ก.ก็โพสต์เฟสทำนองว่า เลิกกันเด็ดขาด พี่ ก.เองก็ไม่ได้เข้าบ้านที่โดนไล่ออกมาเลย และก็ไม่เข้าบ้านตัวเอง แต่ตอนนั้นเขาโกหกเราว่าเขาอยู่บ้าน (แต่จริงๆ แล้วเปล่าค่ะ เรามารู้ทีหลังว่าก่อนเขาจีบเรา เขาจีบน้องอีกคนนึงที่เราเองและภรรยาพี่ ก.เองก้รุ้จัก สรุปคือ พี่ ก.คบซ้อน และมีพฤติกรรม