สวัสดีครับ เรื่องนี้เกิดมาได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง และจบไปแล้ว คือผมก็ได้เท่าตามที่นายจ้างจ่าย เค้ายืนยันแบบนั้น และจะมาหาผมถึงที่พักเพื่อเจรจา (เจรจาที่จะไม่จ่าย) ดูแล้วผมอาจจะไม่ปลอดภัยและไม่คุ้มกับเงิน เลยจบปัญหาไว้ทั้งอย่างนั้น แต่ผมอยากทราบเผื่อเป็นแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตครับ
เริ่มเรื่องคือ เมื่อประมาณปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้ ผมไปสมัครงานที่หนึ่ง คุยกันลักษณะว่าผมไม่ต้องเข้า office ให้ส่งงานผ่าน internet เป็นงานประจำ มีการเซ็นสัญญากันเรียบร้อย ตกลงกันเรียบร้อย คือผมสะดวกเริ่มงานต้นเดือนมี.ค. (เซ็นสัญญาเสร็จ สัปดาห์ถัดไปเริ่มงานได้เลย) ผมก็ระบุลงไปในสัญญาด้วยว่าเริ่มทำงานวันที่ 1 มี.ค. ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เงินเดือน 15,000 บาท (ซึ่งจริงๆแล้วผมมีงานประจำอยู่แล้ว ประสบการณ์ทำงานผม 5+ปีได้ต่อเดือน 60k ที่เงินนี้ไม่ได้เรียกเยอะ เพราะว่าเราไม่ได้เข้า office และมีเวลาทำงานให้ต่อสัปดาห์ค่อนข้างน้อย เพราะจะต้องไม่กระทบกับงานประจำ ซึ่งก็นายจ้างก็เข้าใจกันดี และตกลงกันเรียบร้อยก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งก่อนเซ็นสัญญา ผมก็แจ้งไปแล้วว่าเราคุยกันเป็น project ดีไหม จ่ายเป็นงานๆไป ไม่ต้องเป็นรายเดือน เพราะบางครั้งก็ไม่มีงาน หรือผมจะมีเวลาให้น้อย เดี๋ยวจะมีปัญหากัน นายจ้างก็บอกว่าไม่เป็นไร อยากจ้างเป็นรายเดือน เพราะจริงๆเค้าก็จ้างพนักงานลักษณะแบบนี้ไว้หลายคน เดือนไหนไม่มีงาน ก็จ่ายเงินเดือนตามปกติ ไม่ได้อะไร ผมเห็นนายจ้างว่าอย่างนั้นก็สบายใจ ตกลงเซ็นสัญญากันไป)
หลังจากที่ผมเข้ามาเซ็นสัญญาเสร็จ ก่อนที่จะกลับ นายจ้างได้มอบหมายงานมาให้ 1 ชิ้น บอกว่าด่วนมาก อยากให้ทำให้ ในใจที่คิดตอนนั้นคือ จริงๆแล้วผมจะเริ่มงานสัปดาห์หน้า ไม่ใช่วันนี้ ทำไมจ่ายงานมาเร็วจัง แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร ทำๆให้ไปก็ได้ ผมก็กลับมาทำที่บ้าน ไม่กี่วันก็ส่งไปให้ นายจ้างแจ้งว่างานไม่ได้ใช้ละ จริงๆคือรีบมาก ต้องการตั้งแต่วันก่อน ไม่ใช่วันนี้ ผมก็ ok ไม่เป็นไร ก็ขอโทษขอโพยกันไป
จากนั้นนายจ้างก็เงียบไปซักพักใหญ่ ผมก็เข้าใจว่าคงไม่มีงาน (เหมือนที่เค้าเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าบางช่วงก็อาจจะไม่มีงานก็ได้ แต่ก็จ่ายตามปกติ) จนล่วงเลยมาถึงปลายๆเดือนมี.ค. เค้าก็ทักมาให้ทำงานให้ ผมก็ ok รอทำให้อยู่แล้ว ก็มีงานจ่ายมาเรื่อยๆจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. วันเงินเดือนออก ปรากฏว่าเงินเดือนออกแค่ 2,500 บาท ไม่ใช่ 15,000 บาทตามที่ตกลง ผมก็ทักท้วงไป นายจ้างก็แจ้งว่า เงินเดือนนี้ คำนวณจากวันที่ผมเริ่มทำงานวันแรก คึอปลายเดือนมี.ค. ผมก็ตกใจ แล้วแจ้งไปว่าแต่ในสัญญาเซ็นไว้ชัดเจนว่าผมเริ่มทำงาน 1 มี.ค. นายจ้างก็แจ้งว่า อันนั้นเป็นแค่วันที่ผมบอกว่าสะดวกจะเริ่มงาน ไม่ใช่วันที่เค้าจะให้ผมเริ่มงานจริง เค้าจะให้ผมเริ่มงานจริงเมื่อไหร่ก็ได้ และบอกอีกว่า ผมไม่ยอมตามงานกับเค้าเอง เค้ามานึกขึ้นได้ก็ปลายเดือนแล้ว เค้าก็ถึงจ่ายงานมา ส่วนงานที่ทำให้ตอนปลายก.พ.อันนั้นไม่นับว่าเป็นการเริ่มงาน เป็นการทดลองงานเฉยๆ และงานนั้นก็ไม่ได้ใช้แล้วด้วย (?)
ผมก็เลยแจ้งลาออกและยกเลิกสัญญาตอนที่ได้รับเงินเดือนแรกทันที
คำถามถือ การที่ผมระบุไปในสัญญาว่าเริ่มงาน 1 มี.ค. ก็แสดงว่าเราต้องจัดสรรเวลามาแล้วว่าพร้อมจะเริ่มงานและทำงานกับเค้าวันที่เราระบุลงไป แต่นายจ้างอ้างว่าอันนั้นเป็นแค่วันที่ผมระบุลงไปเท่านั้น เค้าจะเริ่มนับวันจ่ายเงินหรือให้ผมเริ่มงานเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งตัวเค้าจ่ายงานมาปลายเดือน เค้าก็เริ่มนับการจ่ายเงินที่ปลายเดือน คำนวณเงินมา เลยได้แค่ 2,500 บาท ซึ่งถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว นายจ้างได้จ่ายงานมาให้ทำก่อน 1มี.ค.ด้วยซ้ำ (ก่อนวันเริ่มงาน) แต่เค้าอ้างในภายหลังว่าเป็นแค่การทดลองงาน และเค้าก็ไม่ได้ใช้งานนั้นแล้ว (แต่ผมลงมือทำไปแล้ว) เค้าเลยไม่นับว่าเป็นการเริ่มงานจริงๆ ซึ่งนายจ้างมีสิทธิบ่ายเบี่ยงที่จะไม่จ่ายเงินผมเต็มจำนวนด้วยเหตุผลแบบนี้จริงๆเหรอครับ อยากทราบเป็นความรู้ครับ
สอบถามเรื่องการจ่ายเงินเดือนไม่ครบครับ
เริ่มเรื่องคือ เมื่อประมาณปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้ ผมไปสมัครงานที่หนึ่ง คุยกันลักษณะว่าผมไม่ต้องเข้า office ให้ส่งงานผ่าน internet เป็นงานประจำ มีการเซ็นสัญญากันเรียบร้อย ตกลงกันเรียบร้อย คือผมสะดวกเริ่มงานต้นเดือนมี.ค. (เซ็นสัญญาเสร็จ สัปดาห์ถัดไปเริ่มงานได้เลย) ผมก็ระบุลงไปในสัญญาด้วยว่าเริ่มทำงานวันที่ 1 มี.ค. ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เงินเดือน 15,000 บาท (ซึ่งจริงๆแล้วผมมีงานประจำอยู่แล้ว ประสบการณ์ทำงานผม 5+ปีได้ต่อเดือน 60k ที่เงินนี้ไม่ได้เรียกเยอะ เพราะว่าเราไม่ได้เข้า office และมีเวลาทำงานให้ต่อสัปดาห์ค่อนข้างน้อย เพราะจะต้องไม่กระทบกับงานประจำ ซึ่งก็นายจ้างก็เข้าใจกันดี และตกลงกันเรียบร้อยก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งก่อนเซ็นสัญญา ผมก็แจ้งไปแล้วว่าเราคุยกันเป็น project ดีไหม จ่ายเป็นงานๆไป ไม่ต้องเป็นรายเดือน เพราะบางครั้งก็ไม่มีงาน หรือผมจะมีเวลาให้น้อย เดี๋ยวจะมีปัญหากัน นายจ้างก็บอกว่าไม่เป็นไร อยากจ้างเป็นรายเดือน เพราะจริงๆเค้าก็จ้างพนักงานลักษณะแบบนี้ไว้หลายคน เดือนไหนไม่มีงาน ก็จ่ายเงินเดือนตามปกติ ไม่ได้อะไร ผมเห็นนายจ้างว่าอย่างนั้นก็สบายใจ ตกลงเซ็นสัญญากันไป)
หลังจากที่ผมเข้ามาเซ็นสัญญาเสร็จ ก่อนที่จะกลับ นายจ้างได้มอบหมายงานมาให้ 1 ชิ้น บอกว่าด่วนมาก อยากให้ทำให้ ในใจที่คิดตอนนั้นคือ จริงๆแล้วผมจะเริ่มงานสัปดาห์หน้า ไม่ใช่วันนี้ ทำไมจ่ายงานมาเร็วจัง แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร ทำๆให้ไปก็ได้ ผมก็กลับมาทำที่บ้าน ไม่กี่วันก็ส่งไปให้ นายจ้างแจ้งว่างานไม่ได้ใช้ละ จริงๆคือรีบมาก ต้องการตั้งแต่วันก่อน ไม่ใช่วันนี้ ผมก็ ok ไม่เป็นไร ก็ขอโทษขอโพยกันไป
จากนั้นนายจ้างก็เงียบไปซักพักใหญ่ ผมก็เข้าใจว่าคงไม่มีงาน (เหมือนที่เค้าเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าบางช่วงก็อาจจะไม่มีงานก็ได้ แต่ก็จ่ายตามปกติ) จนล่วงเลยมาถึงปลายๆเดือนมี.ค. เค้าก็ทักมาให้ทำงานให้ ผมก็ ok รอทำให้อยู่แล้ว ก็มีงานจ่ายมาเรื่อยๆจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. วันเงินเดือนออก ปรากฏว่าเงินเดือนออกแค่ 2,500 บาท ไม่ใช่ 15,000 บาทตามที่ตกลง ผมก็ทักท้วงไป นายจ้างก็แจ้งว่า เงินเดือนนี้ คำนวณจากวันที่ผมเริ่มทำงานวันแรก คึอปลายเดือนมี.ค. ผมก็ตกใจ แล้วแจ้งไปว่าแต่ในสัญญาเซ็นไว้ชัดเจนว่าผมเริ่มทำงาน 1 มี.ค. นายจ้างก็แจ้งว่า อันนั้นเป็นแค่วันที่ผมบอกว่าสะดวกจะเริ่มงาน ไม่ใช่วันที่เค้าจะให้ผมเริ่มงานจริง เค้าจะให้ผมเริ่มงานจริงเมื่อไหร่ก็ได้ และบอกอีกว่า ผมไม่ยอมตามงานกับเค้าเอง เค้ามานึกขึ้นได้ก็ปลายเดือนแล้ว เค้าก็ถึงจ่ายงานมา ส่วนงานที่ทำให้ตอนปลายก.พ.อันนั้นไม่นับว่าเป็นการเริ่มงาน เป็นการทดลองงานเฉยๆ และงานนั้นก็ไม่ได้ใช้แล้วด้วย (?)
ผมก็เลยแจ้งลาออกและยกเลิกสัญญาตอนที่ได้รับเงินเดือนแรกทันที
คำถามถือ การที่ผมระบุไปในสัญญาว่าเริ่มงาน 1 มี.ค. ก็แสดงว่าเราต้องจัดสรรเวลามาแล้วว่าพร้อมจะเริ่มงานและทำงานกับเค้าวันที่เราระบุลงไป แต่นายจ้างอ้างว่าอันนั้นเป็นแค่วันที่ผมระบุลงไปเท่านั้น เค้าจะเริ่มนับวันจ่ายเงินหรือให้ผมเริ่มงานเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งตัวเค้าจ่ายงานมาปลายเดือน เค้าก็เริ่มนับการจ่ายเงินที่ปลายเดือน คำนวณเงินมา เลยได้แค่ 2,500 บาท ซึ่งถ้าจะว่ากันตามจริงแล้ว นายจ้างได้จ่ายงานมาให้ทำก่อน 1มี.ค.ด้วยซ้ำ (ก่อนวันเริ่มงาน) แต่เค้าอ้างในภายหลังว่าเป็นแค่การทดลองงาน และเค้าก็ไม่ได้ใช้งานนั้นแล้ว (แต่ผมลงมือทำไปแล้ว) เค้าเลยไม่นับว่าเป็นการเริ่มงานจริงๆ ซึ่งนายจ้างมีสิทธิบ่ายเบี่ยงที่จะไม่จ่ายเงินผมเต็มจำนวนด้วยเหตุผลแบบนี้จริงๆเหรอครับ อยากทราบเป็นความรู้ครับ