วันที่ฉันป่วยด้วยอาการมีประจำเดือนนานผิดปกติ ตอนที่ 4 : มดลูกเพื่อนรัก

กระทู้สนทนา
ทุกพายุจะผ่านพ้น....ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ (^_____^)  
ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ สำหรับตอนที่ 4 มาแล้วค่ะ  

หลังจากออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับมาพักฟื้นที่บ้าน เราก็ยังไม่ได้บอกครอบครัวหรือเพื่อน พี่ น้อง คนอื่นๆ จนกระทั่งวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2562 เพื่อนสนิทที่เป็นรูมเมทกับสามี และน้องสาวมาเยี่ยม แล้วก็มานอนค้างเป็นเพื่อน 1 คืน ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติแต่เรากลับนอนไม่ค่อยหลับ อาจจะเครียดสะสมและกังวลหลายๆอย่างอยู่ลึกๆในใจเรื่องการรักษาพยาบาล แถมอาการเบื่อข้าว เบื่อน้ำก็ยังมีอยู่ซึ่งเป็น side-effect ของยา เราเริ่มรู้สึกว่าการปวดท้องน้อยที่ผ่านมามันเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับช่วงที่นอนแอดมิทที่ รพ น้องที่แผนกเดียวกันกับเราที่เคยมาเฝ้าเราตอนป่วยครั้งแรก ส่งเพจของคุณหมอท่านนึง “อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน” ว่าให้เราลองอ่านดู เราก็ได้อ่านเคสหลายๆเคสของหมออรัณ ซึ่งแต่ละเคสนี่ก็ไม่เบาเลย ขนาดถุงน้ำเอย มดลูกเอยเคสใหญ่ๆหนักๆทั้งนั้น ระหว่างที่ทานมื้อเช้ากัน 4 คน เราก็หารือกับเพื่อนว่าอยากไปตรวจกับหมออรัณ เพื่อนเราก็คงเห็นความกังวลลึกๆอยู่ในใจ ก็เลยสนับสนุน จากนั้นเราก็เปิดเพจของ รพ ตำรวจ เพื่อหาเบอร์โทรติดต่อสอบถาม ได้ข้อมูลว่าหมออรัณจะออกตรวจวันจันทร์ในส่วนของสูตินรีเวชกรรม และเราก็ส่งข้อความอินบ็อคซ์ไปในเพจของหมออรัณด้วย โดยเล่าเรื่องอาการที่เกิดทั้งหมด ก็ไม่ได้หวังว่าหมอจะอ่านเจอหรือตอบมาแต่ขอส่งไปก่อน ประมาณสายๆวันอาทิตย์หมออรัณตอบข้อความมาพร้อมตารางออกตรวจ เราเลยตัดสินใจเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อไปตรวจในวันจันทร์ซึ่งยังอยู่ในช่วงหยุดพักของเราที่หมอท่านที่ 5 เขียนไว้ โดยไม่ลืมเอาผลการตรวจที่มีทั้งหมดไปด้วย

- เช้าวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2562 เวลาหกโมงเช้า เราเดินทางไป รพ ตำรวจ โดยมีเพื่อนในกลุ่มวิ่งไปเป็นเพื่อน การเดินทางเราตัดสินใจเดินทางด้วย BTS ลงที่สถานีชิดลม แล้วเดินย้อนมาที่ รพ ตำรวจ โดยเดินเข้าไปที่ตึก ER เพราะเป็นครั้งแรกของการที่ รพ ตำรวจ (มารู้ทีหลังคือนั่นคือตึกเก่า) เราก็เดินงงๆกันสองคนในตึกเก่า บรรยากาศวังเวงมาก ไม่มีใครในตึกให้ถาม จนเราลหงลิฟท์มาเจอ จนท คนนึงบอกว่าให้เดินไปตึกใหม่ เราก็หาทางเพื่อเดินไปตึกใหม่ บรรยากาศตึกใหม่นี่คนละเรื่องกับตึก ER ด้านหน้าเลย เราไปถึงกดบัตรคิวตอนนั้นก็คิวที่ 20 ละ จากนั้นก็วัดความดันด้วยเครื่อง auto ที่เราต้องทำเอง ไปต่อคิวยื่นเอกสารกรอกข้อมูลที่เวชระเบียน เพราะเป็นคนไข้ใหม่ ตอนนั้นก็มีการซักประวัติที่จุดคัดกรองคนไข้ เราก็บอกเลยว่าเราต้องการมาพบหมออรัณ ที่แผนกสูตินรีเวช ซึ่ง จนท ให้ความอำนวยความสะดวกดีมาก เวลาประมาณ 7.30 น. เราก็ขึ้นลิฟท์ไปที่แผนกสูตินรีเวช ยื่นเอกสาร ตอนนั้นได้คิวที่ 36 เวลาผ่านไปเนิ่นนานมากในความรู้สึก เพราะตอนที่เข้ามาในแผนกสูติ พบว่าจำนวนคนไข้คือเยอะมาก ไหนจะคนท้องหรือคนป่วยเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงๆ ดูแล้วจำนวนคนไข้ไม่ยุบลงเลย มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรานั่งรอหลับๆตื่นๆ ไม่โดนเรียกซักที จน 9 โมงเราเลยเดินไปถามที่เคาท์เตอร์ว่าตอนนี้ถึงคิวที่เท่าไหร่แล้วคะ พี่พยาบาลก็มีแฟ้มล้นมือ แต่ก็ช่วยตรวจสอบให้บอกว่า ตอนนี้ถึงคิวที่ 26 แล้วค่ะ เราก็เลยกลับไปนั่งรอจนถึงเวลาเรียกคิว พี่พยาบาลก็ซักประวัติ และเราก็บอกว่าเราขอพบนายแพทย์อรัณ พี่พยาบาลก็เขียนระบุลงในแฟ้ม และให้เราไปเปลี่ยนชุด ใส่ผ้านุ่งซึ่งที่ รพ ตำรวจ ผ้าถุงจะเป็นแบบกระโปรงเอวจั๊ม มันก็จะลมเย็นๆนิดนึงค่ะ ^^” เราก็เลยไลน์ไปบอกเพื่อนเมทเราว่า ที่ รพ ตำรวจผ้าถุงเป็นแบบเอวจั๊ม แต่ รพ อื่นๆที่เราเคยไปมาจะเป็นผ้าถุงแบบป้าย เพื่อนเมทเราบอกว่าที่นนทเวชเป็นแบบกางเกงแล้วมีรูตรงกลาง แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน =) หลังจากเปลี่ยนผ้าถุงเราก็ไปนั่งรอเรียกคิวพบหมออรัณ เกือบๆ 11 โมงเราได้คิวพบหมออรัณ เราก็แนะนำตัวพร้อมบอกว่าเราติดตามเพจหมออยู่และเราตั้งใจที่จะมาพบหมอวันนี้ เราก็เล่าถึงอาการเจ็บป่วยตั้งแต่เมษา ปี 2561 การพูดคุยกับหมออรัณทำให้เรารู้สึกว่าอาการป่วยของเรามันดูมีแนวทางในการรักษา หมออรัณดูอารมณ์ดีและเป็นคนตลกเหมือนที่เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆในเพจเลยค่ะ เรารู้สึกเหมือนมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

หมออรัณ : ฟังจากอาการเจ็บป่วยแล้ว หมอขอตรวจภายในได้ไหม๊ครับ

เรา : ได้ค่ะ (จากนั้นพี่พยาบาลพาเราไปที่ขาหยั่ง - -“)

หมออรัณ : จากกล้องก็พบถุงน้ำรังไข่ด้านขวาขนาดประมาณ 5-6 cms ถือว่าค่อนข้างโตนะครับ โดยปกติถุงน้ำที่อยู่บนรังไข่มักจะไม่ค่อยยุบลง มีแต่จะโตขึ้นเรื่อยๆ แม้จะทานฮอร์โมนแล้วก็ตาม หมอว่าไม่ควรจะเก็บไว้ ควรจะต้องผ่าตัด ในส่วนของเลือดหรือประจำเดือนที่คั่งค้างน่าจะต้องดูดออก จากผลอัลตราซาวด์หมอไม่คิดว่าคุณจะมีอาการ asherman syndrome หรือ พังผืดในโพรงมดลูก แต่หมอคิดว่าน่าจะเป็นอาการของโพรงมดลูกตีบมากกว่านะครับ ที่ทำให้คุณไม่มีประจำเดือนและทำให้พวกเลือดที่ค้างๆอยู่ออกมาได้

เรา : ค่อนข้างตกใจ o.O ที่ได้ข้อมูลใหม่จากหมออรัณว่าที่ผ่านมา หมอท่านที่ 3-4-5 ต่างลงความเห็นว่าเราเป็น asherman syndrome แต่หมออรัณเป็นคนแรกที่บอกเราไม่ได้เป็น asherman syndrome แต่เป็นโพรงมดลูกตีบแทน (ซึ่งน่าจะเป็น side-effect มาจากการขูดมดลูกเมื่อเมษายน ปีที่แล้ว)

หมออรัณ : ในส่วนของถุงน้ำดูมีตะกอนอยู่ด้านล่างด้วยนะครับ และเหมือนเจ้าเลือดที่คั่งค้างค่อนข้างข้นและเหมือนจะมีผนังความหนาอยู่ด้วย แล้วยังมีเจ้าพวกเล็กๆน้อยๆ อยู่บ้าง ขอหมอ consult กับคุณหมออีกท่านได้ไหม๊ครับ

เรา : ได้ค่ะ

จากนั้นพี่พยาบาลก็เชิญ co-doctor ที่เป็นผู้หญิงเข้ามาในห้องและช่วยกันวิเคราะห์ผลจากภาพที่อัลตราซาวด์ได้ คุณหมอผู้หญิงที่เป็น co-doctor ก็เห็นด้วยกับการวินิจฉัยของคุณหมออรัณว่า ก้อนเลือดที่คั่งค้างค่อนข้างข้นและเหมือนจะมีผนังความหนาอยู่ด้วย และเราไม่ได้เป็น asherman syndrome แน่ๆ

หมออรัณ : สำหรับแนวทางการรักษา หมอคิดว่าควรจะต้องผ่าตัด ซึ่งเป้าหมายในการผ่าตัดจะเป็นการผ่าตัดเพื่อปิดปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยหมอจะเคลียร์เอาถุงน้ำรังไข่กับพวกเลือดที่ขัง เคลียร์ออกให้หมด เป้าหมายในการรักษาครั้งนี้ คือ การผ่าตัดเพื่อให้คุณกลับมาเป็นประจำเดือนตามปกติ

เรา : ขอบคุณค่ะหมอ ตั้งแต่หนูป่วยจนถึงรักษามา 1 ปี ยังไม่เคยมีหมอท่านไหนที่พูดถึงแนวทางการรักษาที่ค่อนข้างเคลียร์และชัดเจน

หมออรัณ : อีกเรื่องที่หมออยากจะแจ้งให้ทราบ เคสของคุณถือเป็นเคสยาก ไม่ได้เป็นเคสที่ง่ายเลย

เรา : ค่อนข้างตกใจ (เพราะชีวิตเราขอมีอะไรง่ายๆบ้างเถอะ ไม่ต้องพิเศษไปทุกเรื่องก็ได้มั้ง) ╥﹏╥

หมออรัณ : ดังนั้นในส่วนของการรักษาอาจจะต้องใช้อาจารย์หมอ หรือหมอ 2 ท่านช่วยกันในการผ่าตัด และควรทำในโรงเรียนแพทย์ เช่น ศิริราช รามา จุฬา หรือพระมงกุฏ เอาเป็นว่ายังไม่ต้องให้คำตอบหมอตอนนี้ เดี๋ยวขอหมอเคลียร์เคสที่เหลือ แล้วให้คุณไปดมยาดมสัก 3 ปื้ด แล้วเรามาคุยรายละเอียดกันอีกครั้งนะครับ

เราเดินออกจากห้องตรวจมาหาเพื่อนที่นั่งรอ เราเล่าคร่าวๆ เพื่อนบอกว่านี่คุยเรื่องมดลูกกะหมอจริงๆหรอ แอบได้ยินเสียงคุยมีแบบหัวเราะคิกคักด้วย เหมือนคุยเรื่องสนุกๆเลย ^^” จากนั้นเราก็ออกไปโทรถามบริษัทประกันกลุ่มของบริษัทเรื่องสิทธิค่ารักษาพยาบาลที่ยังเหลืออยู่ จากนั้นก็โทรหาป๊า (ที่เรานับถือ เพราะตอนเรียนโทท่านดูแลเราเหมือนสมาชิกในครอบครัวคนนึง) พร้อมเล่าที่คุยกะหมอให้ป๊าฟัง เพราะก่อนมาตรวจที่ รพ ตำรวจ ป๊าบอกว่าถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจอะไรในเรื่องการผ่าตัด ให้โทรมาบอกก่อน ป๊าบอกว่าให้ลองถามหมออรัณว่ามีอาจารย์หมอแนะนำไหม๊ เดี๋ยวป๊าจะช่วยถามเพื่อนฝูงให้

ซึ่งเรามีความตั้งใจมาตั้งแต่ต้นจากบ้านว่าถ้าคำวินิจฉัยของหมอและคำแนะนำในการรักษาครั้งนี้ ถ้าหมออรัณบอกว่าจำเป็นต้องตัดมดลูก เราก็จะตัดแบบไม่ลังเลและจะไม่ยื้อเรื่องการรักษามดลูกไว้อีกแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่อยากจิตตกไปมากกว่านี้อีกแล้ว ความรู้สึกของเราก่อนมาตรวจเรารู้สึกว่ามันเหมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุและระเบิดออกมา เราไม่ได้เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่เรามองด้วยเหตุและผล รวมถึงเวลา 1 ปีก็มากพอแล้วสำหรับการที่พยายามจะรักษามดลูกเอาไว้ เพราะอวัยวะของเราควรจะอยู่ด้วยกันแบบสันติสุขไม่ใช่อยู่ด้วยกันแบบเป็นศัตรูต่อกันแบบนี้

หลังจากหมออรัณเคลียร์เคสรอบเช้าหมด เราได้มีโอกาสเข้าไปคุยรายละเอียดรอบสองถึงเรื่องการรักษาพยาบาล

เรา : ในส่วนของการรักษาหนูต้องทำยังไงบ้างคะ

หมออรัณ : อย่างที่บอกเคสคุณเป็นเคสยาก ต้องผ่าตัดสองครั้งในคราวเดียว หมายถึง เราจะผ่าตัดเพื่อดูดเอาของเสียและเลือดออกก่อนจากนั้นจะเอาถุงน้ำที่รังไข่ออก และหมอไม่ได้เป็นสไตล์การแนะนำให้คนไข้ตัดมดลูกทิ้ง แต่หมอเป็นสไตล์ชอบเลาะมากกว่าและเก็บอวัยวะของคนไข้ไว้ครบหมด แล้วเลือกหรือยังว่าอยากรักษาที่ไหน หมอสามารถส่งรายละเอียดของผลการตรวจไปยัง รพ ที่คุณอยากรักษาได้นะ ไม่จำเป็นต้องรักษากับหมอก็ได้ไม่ว่ากัน ไม่โกรธกัน

เรา : ถ้าเป็น รามา หนูต้องรอคิวนานไหม๊คะ

หมออรัณ : เท่าที่ทราบก็รอคิวอย่างน้อยประมาณ 3 เดือนครับ

เรา : หนูจะรักษากับหมอที่ รพ ตำรวจนี่แหละค่ะ (เราตัดสินใจแบบไม่ลังเลว่าเรายังยืนยันที่อยากจะรักษากับหมออรัณ)

หมออรัณ : หมอไม่ได้กดดันหรือ force ให้คุณรักษากับหมอนะ อย่างจังหวัดที่คุณอยู่ก็มีหมอเก่งเป็นเพื่อนหมอเอง หมอสามารถฝากเคสให้ได้ แล้วจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้เพื่อคนไข้จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลๆ

เรา : ไม่เป็นไรค่ะหมอ หนูตัดสินใจแล้ว ค่าใช้จ่ายหรือสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลใช้อะไรได้บ้างคะ

หมออรัณ : คนไข้มีสิทธิ์ในการรักษาอะไรบ้าง

เรา : มีประกันสังคม ประกันกลุ่มของบริษัทค่ะ ส่วนประกันสุขภาพส่วนตัวไม่ครอบคลุมเรื่องโรคนี้เพราะโรคนี้เกิดก่อนที่จะทำประกันเลยไม่คุ้มครอง ถ้าให้ รพ ประกันสังคมทำเรื่องส่งตัวจะได้ไหม๊คะ

หมออรัณ : หมอไม่คิดว่า รพ ประกันสังคมของคนไข้จะยอมทำเรื่องส่งตัวมาให้ รพ ตำรวจ เพราะว่าเค้าคงบอกว่าเค้ามีความสามารถในการรักษาและผ่าตัดได้เหมือนกันครับ เป็นไปได้ค่อนข้างยากในเคสการทำเรื่องส่งตัว

เรา : ไม่เป็นไรค่ะหมอ...หนูสามารถสำรองจ่ายเงินในการรักษาผ่าตัดนี้ได้ค่ะ

หมออรัณ : ค่ารักษาในการผ่าตัดจะมีแบบเปิดหน้าท้อง อาจจะต้องมีแผลที่หน้าท้องนิดหน่อย เทียบกับผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งต้องใช้หมอที่มีความชำนาญ แผลจะเล็กและฟื้นตัวได้เร็ว ค่ารักษาในการผ่าตัดประมาณ 5x,xxx คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด และอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายหลัง follow up เพื่อติดตามผลอีกจำนวนหนึ่ง ยังไม่รวม MRI

หมออรัณ : เบื้องต้นขั้นแรกเราต้องทำ MRI เพื่อเช็คดูว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง หมอต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากกว่าที่เราเห็นได้จากกล้อง ultrasound แล้วเราค่อยมารีวิวผล MRI อ่านฟิล์ม x-ray กัน แล้วค่อยวางแผนการในการรักษาและผ่าตัด เดี๋ยวหมอเขียนเอกสารให้นำไปตรวจ MRI แล้วออกใบรับรองแพทย์ให้เพื่อเอาไปใช้ในการเบิก ถ้าเบิกได้เน๊อะ งั้นเราเอาผล MRI กับฟิล์มมาคุยกันอีกทีวันจันทร์ ที่ 13 พ.ค. 2562

เรา : หมอคะ...หนูมีคำถามที่ยังค้างคาใจที่อยากถามค่ะ การที่หนูออกกำลังกายด้วยการวิ่งมีผลต่อการเกิดถุงน้ำรังไข่ จนมีขนาดโตเรื่อยๆแบบนี้ไหม๊คะ แบบจะเป็นการไปกระตุ้นทำให้ถุงน้ำโตขึ้น เพราะหนูใช้ร่างกายหักโหม พักผ่อนน้อย เพราะที่บ้านหนูหรือเพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็เป็นห่วงว่า เพราะหนูวิ่งเยอะเกินไป ใช้ร่างกายหักโหมเกินไป จนทำให้ร่างกายพังแล้วเจ้าถุงน้ำนี่เลยเติบโตขึ้น

หมออรัณ : คนไข้ออกกำลังกายก็ดีแล้วนี่ครับ ร่างกายก็แข็งแรง การวิ่งไม่ได้ทำให้เกิดถุงน้ำหรือทำให้ถุงน้ำโตขึ้น แต่หมอแค่ขอให้คุณงดวิ่งหรือออกกำลังกายหนักๆในช่วงที่เราทำเคสรักษาไปก่อน พอหายดีคนไข้ก็กลับไปวิ่งได้อีกเหมือนเดิม พักอย่างอย่างน้อย 6 เดือน จริงๆที่ เสียใจจนร้องไห้ จนเครียด นี่คือเพราะโดนห้ามไม่ให้วิ่ง แล้วเราอยากวิ่งหรือว่าเพราะอะไร?

เรา : ก็ด้วยส่วนหนึ่งค่ะ แล้วหนูสมัครวิ่งไปตั้งหลายงาน ยังมีอีกหลายๆสนามที่หนูยังอยากไปวิ่งเล่นอยู่เลยค่ะ (ᗒᗣᗕ)՞

อ่านต่อในช่องความเห็นนะคะ =)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่