เงินเดือน 25,000 บาท
ทำงานเกือบ 3 ปี
เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 2 ครั้ง และเปลี่ยนนามสกุล 1 ครั้ง
แต่งงานแบบไม่จดทะเบียน
อายุ 30 กว่าๆ
Profile ความจริงที่กรอกใน DS160
(กรอกตามจริง แต่ก็กลัวไม่ผ่านจริงๆ เพราะคิดมาก เปลี่ยน ชื่อ-สกุลบ่อย กลัวเค้าจะสงสัยเรา, เงินเดือนก็น้อยอีก)
ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกับสามีและครอบครัวสามีจริงๆ
Visa เราผ่าน ได้ 10 ปีค่ะ
1. แจ้งใน DS160 ว่าสามีการันตีค่าใช้จ่ายทั้งหมด (สามีออกให้จริง)
2. ไปกัน 4 คน (ทุกคนมีวีซ่าอเมริกาหมด ยกเว้นเรา)
3. เราทำงานในธุรกิจของครอบครัวสามี (โรงแรม)
เราเตรียมตัวสัมภาษณ์ หาคำถามเยอะมาก หาข้อมูลในพันทิปนี่แหละว่าใครเจอคำถามอะไรบ้าง
และหาจุดน่าสงสัยของตัวเอง เผื่อเค้าถาม สรุป คือ ที่เตรียมไว้ แทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ
ตู้ให้สัมภาษณ์มี 4 ตู้
เป็นฝรั่ง 3 ตู้ และ เอเชีย 1 ตู้
ตู้ของ จนท.ฝรั่งสัมภาษณ์ ทั้ง 3 ตู้นั้น เจอแบบเป็นกรุ๊ป, เจอนักมวยจะไปต่อยมวยที่ Texas, เจอพระสงฆ์
จนท.ฝรั่ง ขอดูเอกสารเยอะ และมีล่ามคนไทยมาช่วยแปลในตู้ด้วย (บางตู้)
ดูแล้ว จนท พยายามที่จะเข้าใจ พยายามดูเอกสารมากๆค่ะ
ทำให้แถวรันคิวไปที่ตู้คนเอเชียไวมากๆเลย (ตู้อื่นสัมภาษณ์นาน ดูเอกสาร ดูพยายามอธิบาย และสอบถามเยอะ)
ใช่ค่ะ .. เราเจอตู้คนเอเชียสัมภาษณ์ (น่าจะเป็นเกาหลี เพราะแอบทำการบ้านมาว่ามีเกาหลี 1 คน)
อยากบอกว่าคนเอเชียคนนี้สัมภาษณ์เร็วมาก แป๊ปๆ Next , Next หน้านิ่งๆ ออกไปทางดุๆ แบบไม่ยิ้มเหมือนตู้ฝรั่งเลย
คนก่อนหน้าเรา 2 คนโดนรีเจก และเด็กไป AFS ก่อนหน้าเราผ่าน (ดูจากสีหน้า และได้ยินเค้าพูดตอนสัมภาษณ์เลย)
คิวต่อมาคือเรา ...
เราทัก จนท.ก่อนเลย " สวัสดีค่ะ, Good Morning " เรายิ้มสวยๆให้ก่อนเลย (ตอนสัมภาษณ์พูดอังกฤษนะคะ)
เจ้าหน้าที่: ไปอเมริกาทำไม?
เรา: ไปเที่ยวซานฟรานซิสโก และ แอลเอ
เจ้าหน้าที่: ไปกับใคร?
เรา: ไปกับสามี และครอบครัวสามี (พูดตามที่กรอกใน DS160)
เจ้าหน้าที่: ทำงานโรงแรมหรอ? (ระหว่างที่ถาม มือ จนท.ก็พิมพ์ดูคอมไปตลอดนะคะ แสดงว่าเค้าอ่านจากข้อมูลด้วย)
เรา: ใช่ค่ะ (ตอบทันที) ยิ้มอ่อนๆ
เจ้าหน้าที่: เป็นธุรกิจครอบครัวหรอ?
เรา: ใช่ เป็นของครอบครัวสามี (ตอบทันที) (แสดงว่าเค้าทำการบ้านมา)
เจ้าหน้าที่: โรงแรมมีกี่ห้อง?
เรา: xxx ห้อง (ตอบทันที) ยิ้มสวยๆ
เจ้าหน้าที่: สร้างมากี่ปี?
เรา: xx ปี (ตอบทันที) ยิ้มแย้ม
เจ้าหน้าที่: ขอดูพาสปอร์ตเล่มเก่าหน่อย?
เรา: ได้ค่ะ (ยิ้มแย้ม) เรายื่นเล่มเก่าให้ 2 เล่ม (คิดว่าคงดูว่าเราเที่ยวเยอะมั้ย)
เมื่อ มีค.เราไปญี่ปุ่น และก่อนหน้านี้ไปมาเลย์ (ขับรถผ่านชายแดน)
เล่มเก่ามีได้เชงเก้นเมื่อ 7 ปีก่อน และไปมาเลย์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน
เจ้าหน้าที่: (เปิดเล่มพาสปอร์ตเก่าดู พรึ่บๆๆๆ) วีซ่าผ่านนะ
เรา: ขอบคุณมากค่ะ (แอบถามต่อว่า ไม่เอารูปถ่ายหรอ เห็นเค้าบอกให้พกมา)
เจ้าหน้าที่: ไม่เอา
และเราก็เดินออกมาแบบนิ่งๆ ..
หลังสัมภาษณ์จบ เราคิดว่า .. เจ้าหน้าที่เค้าวิเคราะห์จาก DS160 ที่กรอกไปประมาณ 80% แล้วนะ
ที่เหลือ คือ ตอนสัมภาษณ์เลย รวมถึงบุคคลิก การแต่งตัวด้วยนะ
เราทำงานโรงแรม ใส่สูทสีดำ กางเกงดำไปสัมภาณ์ (แต่งหน้าโทนอ่อนแบบสุภาพ)
ตอนเจอ จนท.สัมภาษณ์ เรายกมือไหว้สวัสดีก่อนเลย และพูด Good Morning ทักทาย (เหมือนที่เราทักทายแขกก่อน)
คิดว่าเค้าดูภาพรวมการแต่งตัว แต่งหน้า บุคคลิก การพูดจา ตอบคำถามชัดเจน ไม่อึกอัก ดูสบายๆ
พูดไปยิ้มไป เพราะสีหน้าเค้าดูนิ่งๆ แต่แววตาเค้ามองเราแบบวิเคราะห์ เรารู้สึกได้แบบนั้น
คิวนัดสัมภาษณ์เราจอง 7 โมงเช้า (เราก็แต่งหน้าแบบไปทำงานเลย)
แต่บางคน เราเห็นไม่แต่งหน้าเลย แบบสดๆไป ใส่ชุดแซกยาว แต่หน้าโล้นๆ
เราไม่รู้ว่าเค้าทำงานอะไร แต่บุคคลิกภาพวันที่สัมภาษณ์ เราว่าควรสอดคล้องกับประวัติที่กรอก
เด็กผู้ชายก่อนหน้าเรา ถูกถามว่าไปทำอะไรที่ USA
เด็กตอบว่า Mc donald น้องใส่เชิ๊ตแขนยาว มีไทด์ ตัดผมหน้าม้าแบบ the rich man toy เราก็ลุ้นว่าน้องจะผ่านมั้ย? สรุปก็ผ่านนะ
อาจจะเอกสารครบ แน่น ก็ได้
ผู้หญิงก่อนหน้าเราอีกคน พูดว่าทำงานธุรกิจส่วนตัว เค้าใส่ชุดแซกกระโปรง แต่งหน้าอ่อนๆ แต่เวลาตอบคำถาม คือ น้ำเสียงประหม่ามากๆเลย
เสียงดูกลัวๆ ไม่มั่นใจ อาจจะเพราะตื่นเต้นมั้ง .. เห็นว่าเคยไป AFS มาแล้วด้วยในอดีต
ได้ยินเค้าสัมภาษณ์อังกฤษ ใจความ ประมาณนี้
จนท.ถามว่า จะไปทำไร / เค้าตอบว่า ไปเที่ยว
ครั้งก่อนไม่ได้เที่ยวหรอ / เค้าตอบว่า ได้ทำงาน และเที่ยว
ครั้งนี้จะไปทำอะไร/ เค้าตอบว่า ไปเที่ยวและฝึกภาษา
เจ้าหน้าที่คืนพาสปอร์ตเลย .. เราแอบตกใจ ทำไมถามสั้นจัง วนกลับมาที่คำถามเดิมอีก
และน้องเค้าบอกว่า ทำไมปฏิเสธวีซ่าชั้น / เจ้าหน้าที่ตอบว่า Sorry , Next ...
เราตกใจแทนน้องเค้ามากจริงๆ..
แรกๆ ไม่กลัวนะ เพราะคิดว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่างมัน เราตั้งใจไปเที่ยวเฉยๆ จะกลัวทำไม
แต่พอได้ยินเคสนี้ก่อนตัวเอง คือ ใจแว๊ปลงตาตุ่มไปเลย ภาวนาขอให้ได้ตู้อื่นๆๆๆตลอด แต่แล้วก็ได้ตู้นี้ เพราะตู้อื่นสัมภาษณ์นานมากกกกก
เราว่า ถามเรานานๆ ดีกว่าคุยแป๊ปๆ และตัดสินเลย เหมือนให้ชั้นได้อธิบายบ้าง ค่าขอวีซ่าตั้งครึ่งหมื่นอยู่นะ
แต่พอสัมภาษณ์เสร็จ รู้สึกว่า DS160 นี่ต้องกรอกให้ถูก และพูดให้ตรงกันนะ อย่าตื่นเต้น (ความหมายของการกรอก DS160 ดีๆ น่าจะแบบนี้)
ก่อนไปสัมภาษณ์เราหาข้อมูลในพันทิปเยอะมาก อ่านเยอะจริงๆ เพราะไม่รู้เค้าจะถามอะไร กลัวตื่นเต้น
พยายามหาคำถามเยอะๆ และหาคำตอบไว้
ถ้าเจอคำถามแบบนี้ จะตอบยังไงให้กระชับ และได้ใจความ
แต่สรุปเก็งคำถามไป แทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ
มีคำถามเดียวที่เตรียม และได้ใช้ คือ Why USA? เป็นคำถามเปิดเลยค่ะ
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้เราจะช่วยเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวไปขอวีซ่าอเมริกาได้บ้างนะคะ
ตั้งใจว่าจะต้องรีวิว เพราะเรายังหาข้อมูลในพันทิปเพื่อเตรียมตัว เมื่อเรามีประสบการณ์แล้วก็ควรมาแชร์ให้เพื่อนๆบ้างค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ
[CR] ผ่านแล้ว ได้10 ปี!! ขอวีซ่าอเมริกา 8 May 2019
ทำงานเกือบ 3 ปี
เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 2 ครั้ง และเปลี่ยนนามสกุล 1 ครั้ง
แต่งงานแบบไม่จดทะเบียน
อายุ 30 กว่าๆ
Profile ความจริงที่กรอกใน DS160
(กรอกตามจริง แต่ก็กลัวไม่ผ่านจริงๆ เพราะคิดมาก เปลี่ยน ชื่อ-สกุลบ่อย กลัวเค้าจะสงสัยเรา, เงินเดือนก็น้อยอีก)
ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกับสามีและครอบครัวสามีจริงๆ
Visa เราผ่าน ได้ 10 ปีค่ะ
1. แจ้งใน DS160 ว่าสามีการันตีค่าใช้จ่ายทั้งหมด (สามีออกให้จริง)
2. ไปกัน 4 คน (ทุกคนมีวีซ่าอเมริกาหมด ยกเว้นเรา)
3. เราทำงานในธุรกิจของครอบครัวสามี (โรงแรม)
เราเตรียมตัวสัมภาษณ์ หาคำถามเยอะมาก หาข้อมูลในพันทิปนี่แหละว่าใครเจอคำถามอะไรบ้าง
และหาจุดน่าสงสัยของตัวเอง เผื่อเค้าถาม สรุป คือ ที่เตรียมไว้ แทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ
ตู้ให้สัมภาษณ์มี 4 ตู้
เป็นฝรั่ง 3 ตู้ และ เอเชีย 1 ตู้
ตู้ของ จนท.ฝรั่งสัมภาษณ์ ทั้ง 3 ตู้นั้น เจอแบบเป็นกรุ๊ป, เจอนักมวยจะไปต่อยมวยที่ Texas, เจอพระสงฆ์
จนท.ฝรั่ง ขอดูเอกสารเยอะ และมีล่ามคนไทยมาช่วยแปลในตู้ด้วย (บางตู้)
ดูแล้ว จนท พยายามที่จะเข้าใจ พยายามดูเอกสารมากๆค่ะ
ทำให้แถวรันคิวไปที่ตู้คนเอเชียไวมากๆเลย (ตู้อื่นสัมภาษณ์นาน ดูเอกสาร ดูพยายามอธิบาย และสอบถามเยอะ)
ใช่ค่ะ .. เราเจอตู้คนเอเชียสัมภาษณ์ (น่าจะเป็นเกาหลี เพราะแอบทำการบ้านมาว่ามีเกาหลี 1 คน)
อยากบอกว่าคนเอเชียคนนี้สัมภาษณ์เร็วมาก แป๊ปๆ Next , Next หน้านิ่งๆ ออกไปทางดุๆ แบบไม่ยิ้มเหมือนตู้ฝรั่งเลย
คนก่อนหน้าเรา 2 คนโดนรีเจก และเด็กไป AFS ก่อนหน้าเราผ่าน (ดูจากสีหน้า และได้ยินเค้าพูดตอนสัมภาษณ์เลย)
คิวต่อมาคือเรา ...
เราทัก จนท.ก่อนเลย " สวัสดีค่ะ, Good Morning " เรายิ้มสวยๆให้ก่อนเลย (ตอนสัมภาษณ์พูดอังกฤษนะคะ)
เจ้าหน้าที่: ไปอเมริกาทำไม?
เรา: ไปเที่ยวซานฟรานซิสโก และ แอลเอ
เจ้าหน้าที่: ไปกับใคร?
เรา: ไปกับสามี และครอบครัวสามี (พูดตามที่กรอกใน DS160)
เจ้าหน้าที่: ทำงานโรงแรมหรอ? (ระหว่างที่ถาม มือ จนท.ก็พิมพ์ดูคอมไปตลอดนะคะ แสดงว่าเค้าอ่านจากข้อมูลด้วย)
เรา: ใช่ค่ะ (ตอบทันที) ยิ้มอ่อนๆ
เจ้าหน้าที่: เป็นธุรกิจครอบครัวหรอ?
เรา: ใช่ เป็นของครอบครัวสามี (ตอบทันที) (แสดงว่าเค้าทำการบ้านมา)
เจ้าหน้าที่: โรงแรมมีกี่ห้อง?
เรา: xxx ห้อง (ตอบทันที) ยิ้มสวยๆ
เจ้าหน้าที่: สร้างมากี่ปี?
เรา: xx ปี (ตอบทันที) ยิ้มแย้ม
เจ้าหน้าที่: ขอดูพาสปอร์ตเล่มเก่าหน่อย?
เรา: ได้ค่ะ (ยิ้มแย้ม) เรายื่นเล่มเก่าให้ 2 เล่ม (คิดว่าคงดูว่าเราเที่ยวเยอะมั้ย)
เมื่อ มีค.เราไปญี่ปุ่น และก่อนหน้านี้ไปมาเลย์ (ขับรถผ่านชายแดน)
เล่มเก่ามีได้เชงเก้นเมื่อ 7 ปีก่อน และไปมาเลย์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน
เจ้าหน้าที่: (เปิดเล่มพาสปอร์ตเก่าดู พรึ่บๆๆๆ) วีซ่าผ่านนะ
เรา: ขอบคุณมากค่ะ (แอบถามต่อว่า ไม่เอารูปถ่ายหรอ เห็นเค้าบอกให้พกมา)
เจ้าหน้าที่: ไม่เอา
และเราก็เดินออกมาแบบนิ่งๆ ..
หลังสัมภาษณ์จบ เราคิดว่า .. เจ้าหน้าที่เค้าวิเคราะห์จาก DS160 ที่กรอกไปประมาณ 80% แล้วนะ
ที่เหลือ คือ ตอนสัมภาษณ์เลย รวมถึงบุคคลิก การแต่งตัวด้วยนะ
เราทำงานโรงแรม ใส่สูทสีดำ กางเกงดำไปสัมภาณ์ (แต่งหน้าโทนอ่อนแบบสุภาพ)
ตอนเจอ จนท.สัมภาษณ์ เรายกมือไหว้สวัสดีก่อนเลย และพูด Good Morning ทักทาย (เหมือนที่เราทักทายแขกก่อน)
คิดว่าเค้าดูภาพรวมการแต่งตัว แต่งหน้า บุคคลิก การพูดจา ตอบคำถามชัดเจน ไม่อึกอัก ดูสบายๆ
พูดไปยิ้มไป เพราะสีหน้าเค้าดูนิ่งๆ แต่แววตาเค้ามองเราแบบวิเคราะห์ เรารู้สึกได้แบบนั้น
คิวนัดสัมภาษณ์เราจอง 7 โมงเช้า (เราก็แต่งหน้าแบบไปทำงานเลย)
แต่บางคน เราเห็นไม่แต่งหน้าเลย แบบสดๆไป ใส่ชุดแซกยาว แต่หน้าโล้นๆ
เราไม่รู้ว่าเค้าทำงานอะไร แต่บุคคลิกภาพวันที่สัมภาษณ์ เราว่าควรสอดคล้องกับประวัติที่กรอก
เด็กผู้ชายก่อนหน้าเรา ถูกถามว่าไปทำอะไรที่ USA
เด็กตอบว่า Mc donald น้องใส่เชิ๊ตแขนยาว มีไทด์ ตัดผมหน้าม้าแบบ the rich man toy เราก็ลุ้นว่าน้องจะผ่านมั้ย? สรุปก็ผ่านนะ
อาจจะเอกสารครบ แน่น ก็ได้
ผู้หญิงก่อนหน้าเราอีกคน พูดว่าทำงานธุรกิจส่วนตัว เค้าใส่ชุดแซกกระโปรง แต่งหน้าอ่อนๆ แต่เวลาตอบคำถาม คือ น้ำเสียงประหม่ามากๆเลย
เสียงดูกลัวๆ ไม่มั่นใจ อาจจะเพราะตื่นเต้นมั้ง .. เห็นว่าเคยไป AFS มาแล้วด้วยในอดีต
ได้ยินเค้าสัมภาษณ์อังกฤษ ใจความ ประมาณนี้
จนท.ถามว่า จะไปทำไร / เค้าตอบว่า ไปเที่ยว
ครั้งก่อนไม่ได้เที่ยวหรอ / เค้าตอบว่า ได้ทำงาน และเที่ยว
ครั้งนี้จะไปทำอะไร/ เค้าตอบว่า ไปเที่ยวและฝึกภาษา
เจ้าหน้าที่คืนพาสปอร์ตเลย .. เราแอบตกใจ ทำไมถามสั้นจัง วนกลับมาที่คำถามเดิมอีก
และน้องเค้าบอกว่า ทำไมปฏิเสธวีซ่าชั้น / เจ้าหน้าที่ตอบว่า Sorry , Next ...
เราตกใจแทนน้องเค้ามากจริงๆ..
แรกๆ ไม่กลัวนะ เพราะคิดว่าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่างมัน เราตั้งใจไปเที่ยวเฉยๆ จะกลัวทำไม
แต่พอได้ยินเคสนี้ก่อนตัวเอง คือ ใจแว๊ปลงตาตุ่มไปเลย ภาวนาขอให้ได้ตู้อื่นๆๆๆตลอด แต่แล้วก็ได้ตู้นี้ เพราะตู้อื่นสัมภาษณ์นานมากกกกก
เราว่า ถามเรานานๆ ดีกว่าคุยแป๊ปๆ และตัดสินเลย เหมือนให้ชั้นได้อธิบายบ้าง ค่าขอวีซ่าตั้งครึ่งหมื่นอยู่นะ
แต่พอสัมภาษณ์เสร็จ รู้สึกว่า DS160 นี่ต้องกรอกให้ถูก และพูดให้ตรงกันนะ อย่าตื่นเต้น (ความหมายของการกรอก DS160 ดีๆ น่าจะแบบนี้)
ก่อนไปสัมภาษณ์เราหาข้อมูลในพันทิปเยอะมาก อ่านเยอะจริงๆ เพราะไม่รู้เค้าจะถามอะไร กลัวตื่นเต้น
พยายามหาคำถามเยอะๆ และหาคำตอบไว้
ถ้าเจอคำถามแบบนี้ จะตอบยังไงให้กระชับ และได้ใจความ
แต่สรุปเก็งคำถามไป แทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ
มีคำถามเดียวที่เตรียม และได้ใช้ คือ Why USA? เป็นคำถามเปิดเลยค่ะ
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้เราจะช่วยเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวไปขอวีซ่าอเมริกาได้บ้างนะคะ
ตั้งใจว่าจะต้องรีวิว เพราะเรายังหาข้อมูลในพันทิปเพื่อเตรียมตัว เมื่อเรามีประสบการณ์แล้วก็ควรมาแชร์ให้เพื่อนๆบ้างค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้