สวัสดีค่ะ เราเพิ่งไปสัมภาษณ์มา ล่าสุดวันที่ 21 เมย 2016
ขอแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ค่ะ
เราขอวีซ่าท่องเที่ยว B1/B2 เป็นครั้งแรกที่จะไปค่ะ ไม่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่เคยไปเวิรค
ขั้นตอนกรอก DS160 และการจองสัมภาษณ์ ขอข้ามนะคะ เพราะมีหลายกระทู้แนะนำแล้ว
แนะนำว่ากรอกเองดีที่สุด อย่าผ่าน agent เลย มีขั้นตอนละเอียดยิบพร้อมแปล หาได้ในเน็ตค่ะ ที่สำคัญต้องเป็นข้อมูลจริง
ถ้าเราแต่งเรื่องอะไรขึ้นมา ตอนสัมภาษณ์เผลอตอบไม่ตรงกับที่กรอก จะแย่เอาได้
มาที่ตอนสัมภาษณ์เลยนะคะ เรานัด 9.00 ไปถึง 8.10
ยืนยันว่ากระเป๋าถือผู้หญิงเอาไปได้ แต่ต้องใบเล็กๆ ค่ะ ใบใหญ่ จนท ไม่รับฝาก
เอกสารที่เตรียม
- ใบคอนเฟิร์ม DS และ ใบคอนเฟิร์มวันเวลาสัมภาษณ์
- พาสปอร์ต (ของเราขาวจั๊ว เล่มใหม่ แต่หอบเล่มเก่าๆ ไปด้วยค่ะ)
เอกสารข้างล่างนี้ เราเอาไป แต่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้หยิบออกมาเลย
- รูปถ่าย
- หนังสือรับรองการทำงาน
- สมุดบัญชี สเตทเมนต์
- ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส
เอกสารทุกอย่างเราเตรียมของสามีไปเพิ่มด้วย เผื่อโดนขอดู
พอผ่านขั้นตอน สแกนนิ้ว พรีแอพพรูฟเอกสาร ก็มาถึงสัมภาษณ์จริง มีทั้งหมด 4 ช่อง ผู้ชายต่างชาติทุกคน
แอบเห็นเจ้าหน้าที่ชายหนุ่มเอเชีย หน้าตาดี ที่เป็นที่เลื่องลือในเน็ตว่าโหด นึกในใจเราจะได้ใครน้า มองๆใครหน้าตาใจดี
ถึงคิวเรา เป็น จนท ท้วมๆ ผมบาง ฮี่ๆ ใส่แว่น ค่ะ
เรารีบ กู้ดมอร์นิ่ง เลย เพื่อให้รู้ว่าเราใช้ภาษาได้ เนื่องจากในฟอร์ม เรากรอกว่า เราทำงานด้านต่างประเทศค่ะ
พยายามยิ้มแย้มแจ่มใส สบตา มั่นใจ
เรากรอกวันที่ไปตามจริงค่ะ ไป 9 วัน ตอนนี้รอไปรษณีย์อยู่ ต้องมาลุ้นอีกทีว่าได้เท่าไหร่ จะหกเดือน สามเดือน สิบปี ก็ดีใจ
(แต่แอบหวังสิบปี) ดีกว่าไม่ได้เลยเนอะ
ตามความเห็นเรา หลักเกณฑ์ของสถานทูต เราว่าเค้าพิจารณาไป 70% แล้ว จากที่เรากรอกว่าได้หรือไม่ได้
แต่การสัมภาษณ์เนี่ย คือต้องการอยากรู้เพื่อความชัวร์ว่าที่ตัดสินไปนั้น ถูกหรือไม่
ลักษณะท่าทางเราเป็นไง มีพิรุธมั้ย ตอบตรงตามที่กรอกรึเปล่า
ช่องบรรยายหน้าที่การงาน เรากรอกละเอียดมากเลย ตำแหน่ง ลักษณะงาน ทำอะไรบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปประชุม ตปท ที่ไหนบ้าง
ให้ที่อยู่โรงแรมที่พัก (ซึ่งเราไปจองไว้จริงๆ) เราติ๊กเลือก ไม่รู้จักใคร
(จริงๆ มีคนรู้จักหลายคนที่นู่น แต่ไม่สนิทค่ะ ไม่รู้จะอ้างอิงถึงเค้าทำไม ไม่ได้กะจะเจออยู่แล้ว)
กรณีเราเอง เราคิดว่า การงาน เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ไม่มากเท่ากับการที่เราแต่งงานแล้ว และแฟนไปด้วยกัน
(สังเกตจากการที่ไม่ถามเรื่องงานหรือขอดูหนังสือรับรองการทำงานเลย)
คือเราไม่มีแนวโน้มที่จะไม่กลับแน่นอน เราเห็นหลายคนทำงานราชการ หรืองานที่มั่นคง ก็โดนปฏิเสธ
แต่ด้วยเพราะ โสด หรือ หย่า หรือ เป็น ผญ เดินทางคนเดียว แบบนี้จะมีโอกาสผ่านยากจริงค่ะ (เท่าที่อ่านกระทู้มา มีผ่านนะ แต่น้อย)
และการระบุคนรู้จักก็มีส่วนค่ะ ถ้า...คนรู้จักที่นู่น...ชีวิตดูไม่มั่นคง (ความเห็นส่วนตัว)
เช่น ทำงานร้านอาหาร ว่างงาน เงินเดือนไม่สูง อายุน้อย มีประวัติขอวีซ่าผิดประเภท เป็นต้น
และก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเจ้าหน้าที่ด้วย สรุปคือ วีซ่าอเมริกา น่าจะดูที่ข้อมูล DS160 เป็นสำคัญ สัมภาษณ์เป็นพิธี บวกดวงเล็กน้อย
ถ้าใครสงสัย หรืออยากถามเราเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้
ถ้าตอบได้ ก็ยินดีตอบค่ะ
ขอให้คนที่เตรียมตัวอยู่ โชคดีทุกคนนะคะ
แชร์ประสบการณ์ สัมภาษณ์วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
ขอแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆ ค่ะ
เราขอวีซ่าท่องเที่ยว B1/B2 เป็นครั้งแรกที่จะไปค่ะ ไม่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่เคยไปเวิรค
ขั้นตอนกรอก DS160 และการจองสัมภาษณ์ ขอข้ามนะคะ เพราะมีหลายกระทู้แนะนำแล้ว
แนะนำว่ากรอกเองดีที่สุด อย่าผ่าน agent เลย มีขั้นตอนละเอียดยิบพร้อมแปล หาได้ในเน็ตค่ะ ที่สำคัญต้องเป็นข้อมูลจริง
ถ้าเราแต่งเรื่องอะไรขึ้นมา ตอนสัมภาษณ์เผลอตอบไม่ตรงกับที่กรอก จะแย่เอาได้
มาที่ตอนสัมภาษณ์เลยนะคะ เรานัด 9.00 ไปถึง 8.10
ยืนยันว่ากระเป๋าถือผู้หญิงเอาไปได้ แต่ต้องใบเล็กๆ ค่ะ ใบใหญ่ จนท ไม่รับฝาก
เอกสารที่เตรียม
- ใบคอนเฟิร์ม DS และ ใบคอนเฟิร์มวันเวลาสัมภาษณ์
- พาสปอร์ต (ของเราขาวจั๊ว เล่มใหม่ แต่หอบเล่มเก่าๆ ไปด้วยค่ะ)
เอกสารข้างล่างนี้ เราเอาไป แต่ไม่ได้ใช้ ไม่ได้หยิบออกมาเลย
- รูปถ่าย
- หนังสือรับรองการทำงาน
- สมุดบัญชี สเตทเมนต์
- ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส
เอกสารทุกอย่างเราเตรียมของสามีไปเพิ่มด้วย เผื่อโดนขอดู
พอผ่านขั้นตอน สแกนนิ้ว พรีแอพพรูฟเอกสาร ก็มาถึงสัมภาษณ์จริง มีทั้งหมด 4 ช่อง ผู้ชายต่างชาติทุกคน
แอบเห็นเจ้าหน้าที่ชายหนุ่มเอเชีย หน้าตาดี ที่เป็นที่เลื่องลือในเน็ตว่าโหด นึกในใจเราจะได้ใครน้า มองๆใครหน้าตาใจดี
ถึงคิวเรา เป็น จนท ท้วมๆ ผมบาง ฮี่ๆ ใส่แว่น ค่ะ
เรารีบ กู้ดมอร์นิ่ง เลย เพื่อให้รู้ว่าเราใช้ภาษาได้ เนื่องจากในฟอร์ม เรากรอกว่า เราทำงานด้านต่างประเทศค่ะ
พยายามยิ้มแย้มแจ่มใส สบตา มั่นใจ
เรากรอกวันที่ไปตามจริงค่ะ ไป 9 วัน ตอนนี้รอไปรษณีย์อยู่ ต้องมาลุ้นอีกทีว่าได้เท่าไหร่ จะหกเดือน สามเดือน สิบปี ก็ดีใจ
(แต่แอบหวังสิบปี) ดีกว่าไม่ได้เลยเนอะ
ตามความเห็นเรา หลักเกณฑ์ของสถานทูต เราว่าเค้าพิจารณาไป 70% แล้ว จากที่เรากรอกว่าได้หรือไม่ได้
แต่การสัมภาษณ์เนี่ย คือต้องการอยากรู้เพื่อความชัวร์ว่าที่ตัดสินไปนั้น ถูกหรือไม่
ลักษณะท่าทางเราเป็นไง มีพิรุธมั้ย ตอบตรงตามที่กรอกรึเปล่า
ช่องบรรยายหน้าที่การงาน เรากรอกละเอียดมากเลย ตำแหน่ง ลักษณะงาน ทำอะไรบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปประชุม ตปท ที่ไหนบ้าง
ให้ที่อยู่โรงแรมที่พัก (ซึ่งเราไปจองไว้จริงๆ) เราติ๊กเลือก ไม่รู้จักใคร
(จริงๆ มีคนรู้จักหลายคนที่นู่น แต่ไม่สนิทค่ะ ไม่รู้จะอ้างอิงถึงเค้าทำไม ไม่ได้กะจะเจออยู่แล้ว)
กรณีเราเอง เราคิดว่า การงาน เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ไม่มากเท่ากับการที่เราแต่งงานแล้ว และแฟนไปด้วยกัน
(สังเกตจากการที่ไม่ถามเรื่องงานหรือขอดูหนังสือรับรองการทำงานเลย)
คือเราไม่มีแนวโน้มที่จะไม่กลับแน่นอน เราเห็นหลายคนทำงานราชการ หรืองานที่มั่นคง ก็โดนปฏิเสธ
แต่ด้วยเพราะ โสด หรือ หย่า หรือ เป็น ผญ เดินทางคนเดียว แบบนี้จะมีโอกาสผ่านยากจริงค่ะ (เท่าที่อ่านกระทู้มา มีผ่านนะ แต่น้อย)
และการระบุคนรู้จักก็มีส่วนค่ะ ถ้า...คนรู้จักที่นู่น...ชีวิตดูไม่มั่นคง (ความเห็นส่วนตัว)
เช่น ทำงานร้านอาหาร ว่างงาน เงินเดือนไม่สูง อายุน้อย มีประวัติขอวีซ่าผิดประเภท เป็นต้น
และก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจเจ้าหน้าที่ด้วย สรุปคือ วีซ่าอเมริกา น่าจะดูที่ข้อมูล DS160 เป็นสำคัญ สัมภาษณ์เป็นพิธี บวกดวงเล็กน้อย
ถ้าใครสงสัย หรืออยากถามเราเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้
ถ้าตอบได้ ก็ยินดีตอบค่ะ
ขอให้คนที่เตรียมตัวอยู่ โชคดีทุกคนนะคะ