ตอนที่ 4
อ่านตอนที่ 1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38844278
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38848195
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38855047
ครึ่งปีแรกไปมา 8 ประเทศใช้เวลา 3 เดือนครึ่ง ครึ่งปีหลังนี้ไปมา 9 ประเทศใช้เวลา 3 เดือนเต็ม เริ่มจาก กย - พย 18 ค่ะ เมื่อมาถึงออสเตรเลียต้นเดือน พค.ก็รักษาตัวกันไปเรื่อย ๆ จนถึงกลางเดือน มิย. หมออนุญาติให้บินได้ แต่เรามาคิดว่าถ้าออกเดินทางช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วง Summer Holiday ของยุโรป ราคาทัวร์พร้อมที่พักน่าจะทำให้กระเป๋าเราฉีกอย่างแน่นอนพร้อมทั้งคิดว่าเที่ยวยุโรปต้องเดิน เดิน และก็เดิน เรายังห่วงว่าหลังของเรายังไม่แข็งแรงพอที่จะสะพายเป้ ลากกระเป๋าอย่างเป็นแน่ เราเลยตัดสินใจบินมาพักฟื้นต่อที่เมืองไทยและเริ่มออกเดินทางเข้ายุโรปในต้นเดือนกันยา
ช่วงมาเมืองไทยเราก็พาสามีขับรถเที่ยวเหนือ - อีสาน ไปเรื่อยเปื่อยพอครบกำหนดการเดินทางเรามาเริ่มประเดิมประเทศยุโรปด้วยที่กรุงลอนดอน
กรุง London
London เป็นเมืองเริ่มต้นของการเดินทาง ตอนที่เรา search หาตั๋วจาก Bkk-London นั้นราคาค่อนข้างสูงมาก เราเลยเปลี่ยนแผนว่าถ้าเราจะบินไปลง Paris และบินต่อมาที่ London ราคาจะเป็นอย่างไร แล้วก็ Bingo สายการบิน Royal Jordanian Airlines โชว์ราคาที่ดีที่สุดในช่วงนั้น เราเลยเปลี่ยนแผนเส้นทางเดินโดยบุ๊คด้วยสารการบินนี้แล้วบินต่อไปยัง London ใช้เวลาบินเพิ่มอีกเพียง 1 ชั่วโมงจากปารีสแต่ประหยัดเงินเราได้หลายหมื่นทีเดียว เราบุ๊คชั้น Business Class จากกรุงเทพ-กรุง Amman-ปารีส ไป-กลับ เนื่องจากระยะทาง 13-14 ชั่วโมงนั้นยาวนานพอสมควร เราคิดว่าเราเพิ่งจะเริ่มต้นการเดินทางถึง 3 เดือนไม่อยากให้หลังของเรามีปัญหา (ตอนบินจากออสเตรเลียมาเมืองไทยเราบินขึ้นมาลงเมือง Darwin ซึ่งอยู่ตอนเหนือของออสเตรเลีย แล้วบินต่อโดยเครื่องแวะพักที่สิงค์โปร์และสิ้นสุดที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นระยะประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อ leg)
ในเมื่อสายการบินนี้ราคาถูกกว่าสายการบินไทยและสายการบินอื่น ๆ อีกหลายหมื่นบาทเราเลยเลือกที่จะลองใช้ดู และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราแวะเที่ยวประเทศจอร์แดนตอนขากลับ กับทัวร์ National Geographic เข้าดูเมือง Petra ซึ่งเป็น one of 7 new wonders of the world, Waldi Rum เมืองทะเลทรายที่ถ่ายทำหนัง Hollywood movies มากมายเช่น The Martien, Star Wars ที่จะออกฉายในปีนี้ รวมทั้งลงไปแช่ใน Dead Sea อีกด้วย เส้นทางจาก Bkk-Amman leg ใช้เวลาเกือบ 9 ชม. ที่นั่งปรับนอน 180 องศา แต่จาก Amman-Paris ใช้เวลา 5 ชม. เป็นที่นั่ง Business Class ทั่ว ๆ ไป
เราอยู่ที่ London 8 วัน พักที่ Union Jack Accommodation ซึ่งเป็นที่พักที่บริการเหล่าทหารที่ขึ้นกับ British Commonwealth โรงแรมนี้ติดกับสถานีรถไฟ Waterloo สะดวกสบาย เราซื้อ 6 days London Pass เป็นตั๋วที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมแหล่งสำคัญได้หลายที่มากและบางสถานที่ไม่ต้องเข้าคิวยาว สามารถเช็คได้ที่
https://www.londonpass.com/
สถานที่ไปเที่ยวชมก็คงไม่พ้นที่ที่คนไทยรวมทั้งคนต่างชาติไปกัน เราไปดูพระราชวังต่าง ๆ อีกหลายแห่งด้วย เราถ่ายรูปภายในพระราชวังไว้เยอะ เวลาเอารูปออกมาดูก็สับสนเสียเองจำแทบไม่ได้ว่าภาพนั้นเป็นของพระราชวังไหน
Big Ben ป่วย
Kensington Palace
Hampton Court Palace พระราชวังของ King Henry ที่ 8
พิพิทภัณท์ Princess Diana ที่ Kensington Palace
พื้นกระเบื้องปูตั้งแต่ คศ 75 โดยชาวโรมันอยู่ที่ Fishbourne Roman Palace
เมื่อครบกำหนด 8 วัน พี่สาวของสามีมารับเราขึ้นไปยัง North of Wales ใช้เวลาขับรถประมาณเกือบ 5 ชม. เราอยู่ที่นี่ 4 วันก่อนที่จะบินต่อไปยังประเทศฮอลแลนด์ จริง ๆ แล้วเราตั้งใจที่จะขึ้นไปยัง Scotland จากที่นี่ โดยต้องบินออกจากสนามบิน Manchester แต่เมื่อเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วราคาเป็นดังนี้:-
ถ้าบิน Manchester - Scotland โดยตรงเที่ยวเดียวราคาคนละ 160 ปอนด์
แต่ถ้าบิน Manchester - Amsterdam - Edinburgh - Amsterdam ราคาคนละ 180 ปอนด์
นี่เลยเป็นสาเหตุทำให้เราบินไปเที่ยวที่ Amsterdam ประเทศฮอลแลนด์ก่อนที่จะวกลงมาเที่ยว Scotland ค่ะ (แข่งขันในเรื่องราคากันสูงมาก)
North Wales
เราพักอยู่ที่เมือง Snowdonia เมืองนี้สวยงามแต่ดูเงียบเหงาถ้าเทียบกับ London ผู้คนท้องถิ่นมีภาษาเป็นของตัวเองเรียกว่าภาษา Welsh ซึ่งว่ากันว่าเป็นภาษาที่เก่าแก่ถึง 4000 ปีและยังใช้พูดกันจนถึงทุกวันนี้ ทิวทัศน์ 2 ฟากถนนที่ขับกันมาสวยงาม ที่เมืองนี้มีปราสาทเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีให้ชมอีกด้วย
3 บรรทัดบนเป็นภาษา Welsh 2 บรรทัดล่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ
Beaumaris Castle
Caernafron Castle
ภายใน Caernafron Castle
ภาพทิวทัศน์ North of Wales
North of Wales สวยงาม เงียบ สงบ
Amsterdam ประเทศ Netherlands
เมื่อถึงกำหนดเราก็เดินทางด้วยสายการบิน KLM ไปยัง Amsterdam เราพักกันที่นี่ 3 คืน ประเทศนี้ค่าใช้จ่ายสูงมาก ค่าโรงแรมตกคืนละ 190 ยูโร เราบุ๊ค Night walking tour เพื่อเดินดู Red light distric ที่มีชื่อเสียงทางด้าน Prostitue ไกด์อธิบายความเป็นมาของผู้หญิงเหล่านี้รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดและเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในประเทศนี้อีกด้วย
ประเทศนี้สะอาดผู้คนที่นี่ใช้จักรยานและรถไฟเป็นส่วนใหญ่ มาประเทศนี้ก็ต้องไม่พลาดดูหมู่บ้านกังหันลมและเลยไปเที่ยวเมือง Giethroon ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "เวนิสที่ 2" การไปที่นั่นง่ายและสะดวก เรานั่งรถไฟไปกันใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งและจะมีรถบัสพาต่อไปยังสถานที่นี้ สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทั่วไป รวมทั้งเที่ยวชมพิพิธภัณท์อีกด้วย
โรงแรมที่เราพักย่าน Zaandam
เมื่อครบกำหนดก็บินวกกลับมายัง Edinburgh ประเทศ Scotland เราเช่ารถขับเที่ยวเป็นเวลา 10 วัน ข้าม ferry ไปยัง Orkney Island และขับเข้าไปยังแถบ Highlands เลาะขอบมหาสมุทรไปยัง Isle of Arranซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของ Edinburgh อากาศหนาวเย็นมากเพราะเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วง ประเทศนี้สวยงามมาก ธรรมชาติล้วน ๆ ตลอดทางที่ขับกันมาแทบจะหาช่วงจราจรติดขัดไม่ได้เลย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ
ตอนที่ 4 ประสพการณ์เมื่อเดินทาง 3 ทวีป 17 ประเทศ 65 เมือง ในเวลา 6 เดือนครึ่งในวัย 51 และ 54
อ่านตอนที่ 1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38844278
อ่านตอนที่ 2 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38848195
อ่านตอนที่ 3 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/38855047
ครึ่งปีแรกไปมา 8 ประเทศใช้เวลา 3 เดือนครึ่ง ครึ่งปีหลังนี้ไปมา 9 ประเทศใช้เวลา 3 เดือนเต็ม เริ่มจาก กย - พย 18 ค่ะ เมื่อมาถึงออสเตรเลียต้นเดือน พค.ก็รักษาตัวกันไปเรื่อย ๆ จนถึงกลางเดือน มิย. หมออนุญาติให้บินได้ แต่เรามาคิดว่าถ้าออกเดินทางช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วง Summer Holiday ของยุโรป ราคาทัวร์พร้อมที่พักน่าจะทำให้กระเป๋าเราฉีกอย่างแน่นอนพร้อมทั้งคิดว่าเที่ยวยุโรปต้องเดิน เดิน และก็เดิน เรายังห่วงว่าหลังของเรายังไม่แข็งแรงพอที่จะสะพายเป้ ลากกระเป๋าอย่างเป็นแน่ เราเลยตัดสินใจบินมาพักฟื้นต่อที่เมืองไทยและเริ่มออกเดินทางเข้ายุโรปในต้นเดือนกันยา
ช่วงมาเมืองไทยเราก็พาสามีขับรถเที่ยวเหนือ - อีสาน ไปเรื่อยเปื่อยพอครบกำหนดการเดินทางเรามาเริ่มประเดิมประเทศยุโรปด้วยที่กรุงลอนดอน
กรุง London
London เป็นเมืองเริ่มต้นของการเดินทาง ตอนที่เรา search หาตั๋วจาก Bkk-London นั้นราคาค่อนข้างสูงมาก เราเลยเปลี่ยนแผนว่าถ้าเราจะบินไปลง Paris และบินต่อมาที่ London ราคาจะเป็นอย่างไร แล้วก็ Bingo สายการบิน Royal Jordanian Airlines โชว์ราคาที่ดีที่สุดในช่วงนั้น เราเลยเปลี่ยนแผนเส้นทางเดินโดยบุ๊คด้วยสารการบินนี้แล้วบินต่อไปยัง London ใช้เวลาบินเพิ่มอีกเพียง 1 ชั่วโมงจากปารีสแต่ประหยัดเงินเราได้หลายหมื่นทีเดียว เราบุ๊คชั้น Business Class จากกรุงเทพ-กรุง Amman-ปารีส ไป-กลับ เนื่องจากระยะทาง 13-14 ชั่วโมงนั้นยาวนานพอสมควร เราคิดว่าเราเพิ่งจะเริ่มต้นการเดินทางถึง 3 เดือนไม่อยากให้หลังของเรามีปัญหา (ตอนบินจากออสเตรเลียมาเมืองไทยเราบินขึ้นมาลงเมือง Darwin ซึ่งอยู่ตอนเหนือของออสเตรเลีย แล้วบินต่อโดยเครื่องแวะพักที่สิงค์โปร์และสิ้นสุดที่กรุงเทพ ซึ่งเป็นระยะประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อ leg)
ในเมื่อสายการบินนี้ราคาถูกกว่าสายการบินไทยและสายการบินอื่น ๆ อีกหลายหมื่นบาทเราเลยเลือกที่จะลองใช้ดู และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราแวะเที่ยวประเทศจอร์แดนตอนขากลับ กับทัวร์ National Geographic เข้าดูเมือง Petra ซึ่งเป็น one of 7 new wonders of the world, Waldi Rum เมืองทะเลทรายที่ถ่ายทำหนัง Hollywood movies มากมายเช่น The Martien, Star Wars ที่จะออกฉายในปีนี้ รวมทั้งลงไปแช่ใน Dead Sea อีกด้วย เส้นทางจาก Bkk-Amman leg ใช้เวลาเกือบ 9 ชม. ที่นั่งปรับนอน 180 องศา แต่จาก Amman-Paris ใช้เวลา 5 ชม. เป็นที่นั่ง Business Class ทั่ว ๆ ไป
เราอยู่ที่ London 8 วัน พักที่ Union Jack Accommodation ซึ่งเป็นที่พักที่บริการเหล่าทหารที่ขึ้นกับ British Commonwealth โรงแรมนี้ติดกับสถานีรถไฟ Waterloo สะดวกสบาย เราซื้อ 6 days London Pass เป็นตั๋วที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมแหล่งสำคัญได้หลายที่มากและบางสถานที่ไม่ต้องเข้าคิวยาว สามารถเช็คได้ที่
https://www.londonpass.com/
สถานที่ไปเที่ยวชมก็คงไม่พ้นที่ที่คนไทยรวมทั้งคนต่างชาติไปกัน เราไปดูพระราชวังต่าง ๆ อีกหลายแห่งด้วย เราถ่ายรูปภายในพระราชวังไว้เยอะ เวลาเอารูปออกมาดูก็สับสนเสียเองจำแทบไม่ได้ว่าภาพนั้นเป็นของพระราชวังไหน
Big Ben ป่วย
Kensington Palace
Hampton Court Palace พระราชวังของ King Henry ที่ 8
พิพิทภัณท์ Princess Diana ที่ Kensington Palace
พื้นกระเบื้องปูตั้งแต่ คศ 75 โดยชาวโรมันอยู่ที่ Fishbourne Roman Palace
เมื่อครบกำหนด 8 วัน พี่สาวของสามีมารับเราขึ้นไปยัง North of Wales ใช้เวลาขับรถประมาณเกือบ 5 ชม. เราอยู่ที่นี่ 4 วันก่อนที่จะบินต่อไปยังประเทศฮอลแลนด์ จริง ๆ แล้วเราตั้งใจที่จะขึ้นไปยัง Scotland จากที่นี่ โดยต้องบินออกจากสนามบิน Manchester แต่เมื่อเช็คราคาตั๋วเครื่องบินแล้วราคาเป็นดังนี้:-
ถ้าบิน Manchester - Scotland โดยตรงเที่ยวเดียวราคาคนละ 160 ปอนด์
แต่ถ้าบิน Manchester - Amsterdam - Edinburgh - Amsterdam ราคาคนละ 180 ปอนด์
นี่เลยเป็นสาเหตุทำให้เราบินไปเที่ยวที่ Amsterdam ประเทศฮอลแลนด์ก่อนที่จะวกลงมาเที่ยว Scotland ค่ะ (แข่งขันในเรื่องราคากันสูงมาก)
North Wales
เราพักอยู่ที่เมือง Snowdonia เมืองนี้สวยงามแต่ดูเงียบเหงาถ้าเทียบกับ London ผู้คนท้องถิ่นมีภาษาเป็นของตัวเองเรียกว่าภาษา Welsh ซึ่งว่ากันว่าเป็นภาษาที่เก่าแก่ถึง 4000 ปีและยังใช้พูดกันจนถึงทุกวันนี้ ทิวทัศน์ 2 ฟากถนนที่ขับกันมาสวยงาม ที่เมืองนี้มีปราสาทเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีให้ชมอีกด้วย
3 บรรทัดบนเป็นภาษา Welsh 2 บรรทัดล่างแปลเป็นภาษาอังกฤษ
Beaumaris Castle
Caernafron Castle
ภายใน Caernafron Castle
ภาพทิวทัศน์ North of Wales
North of Wales สวยงาม เงียบ สงบ
Amsterdam ประเทศ Netherlands
เมื่อถึงกำหนดเราก็เดินทางด้วยสายการบิน KLM ไปยัง Amsterdam เราพักกันที่นี่ 3 คืน ประเทศนี้ค่าใช้จ่ายสูงมาก ค่าโรงแรมตกคืนละ 190 ยูโร เราบุ๊ค Night walking tour เพื่อเดินดู Red light distric ที่มีชื่อเสียงทางด้าน Prostitue ไกด์อธิบายความเป็นมาของผู้หญิงเหล่านี้รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดและเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นในประเทศนี้อีกด้วย
ประเทศนี้สะอาดผู้คนที่นี่ใช้จักรยานและรถไฟเป็นส่วนใหญ่ มาประเทศนี้ก็ต้องไม่พลาดดูหมู่บ้านกังหันลมและเลยไปเที่ยวเมือง Giethroon ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "เวนิสที่ 2" การไปที่นั่นง่ายและสะดวก เรานั่งรถไฟไปกันใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่งและจะมีรถบัสพาต่อไปยังสถานที่นี้ สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทั่วไป รวมทั้งเที่ยวชมพิพิธภัณท์อีกด้วย
โรงแรมที่เราพักย่าน Zaandam
เมื่อครบกำหนดก็บินวกกลับมายัง Edinburgh ประเทศ Scotland เราเช่ารถขับเที่ยวเป็นเวลา 10 วัน ข้าม ferry ไปยัง Orkney Island และขับเข้าไปยังแถบ Highlands เลาะขอบมหาสมุทรไปยัง Isle of Arranซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของ Edinburgh อากาศหนาวเย็นมากเพราะเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วง ประเทศนี้สวยงามมาก ธรรมชาติล้วน ๆ ตลอดทางที่ขับกันมาแทบจะหาช่วงจราจรติดขัดไม่ได้เลย
เดี๋ยวกลับมาต่อค่ะ