KINGDOM - นับตั้งแต่ไตรภาค Rurouni Kenshin เป็นต้นมา นี่คือหนัง J-action จากการ์ตูนญี่ปุ่นที่เยี่ยมที่สุด


นับตั้งแต่ Rurouni Kenshin ฉบับไตรภาค จบลง  ในปี 2014 นั้น
ผมก็คาดหวังเป็นอย่างมากว่า ทางค่ายหนังญี่ปุ่นทั้งหลายนั้น จะมีหนัง Action ดัดแปลงจากการ์ตูนที่ทำออกมายอดเยี่ยมอย่างนี้ได้อีกเรื่อยๆ

แต่ก็น่าเสียดายที่ หนัง Action ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนญี่ปุ่นหลังจากนั้น กลับไม่ค่อยโดนใจผมสักเท่าไร
บางเรื่องเข้าขั้นห่วย  (Terra Forma, Attack on Titan, Lupin the Third)  บางเรื่อง จัดว่าเฉยๆ (Bleach)  หลายเรื่องจัดว่าโอเค แต่ก็ยังประทับใจเท่าเคนชินเท่าไรนัก (Inuyashiki, Ajin, Blades of Immortal)  

เมื่อมีข่าวว่า จะมีการฉายหนังเรื่อง Kingdom ฉบับคนแสดง ที่ญี่ปุ่นนั้น ผมเองก็เผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งว่า หนังอาจจะออกมาไม่ดีก็ได้ 
เพราะเนื้อเรื่องถือว่ามีสเกลใหญ่มาก  แถมยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับจีนอีก  
คนที่เป็นแฟนๆหนังสือการ์ตูนหลายคนก็ได้เปรยๆไว้ตั้งแต่ก่อนหนังเรื่มฉายว่า 'การ์ตูนเรื่องนี้ไม่น่าทำเป็นหนังคนแสดงได้'
สิ่งที่น่าหวั่นใจ (แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไร)อีกอย่างก็คือ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ มีหนังซอมบี้เกาหลีชื่อ Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังค์เดือด) ออกมาฉายทาง Netflix  ซึ่งผมดูแล้วก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมอย่างที่นักวิจารณ์หลายสำนักชมกัน
หาก Kingdom ญี่ปุ่น ทำออกมาได้ไม่ดี ก็คงต้องตกเป็นที่เย้ยหยันไยไพแน่ๆ 

อย่างไรก็ตาม พอได้เห็นตัวอย่างของหนังแล้ว  ทุกอย่างก็ดูมีความหวังขึ้นมาเยอะ
แถมพอเริ่มฉายโรงแล้ว กระแสตอบรับถือว่าดีมาก ขนาดคนที่เป็นแฟนๆการ์ตูนก็ยังออกปากชม

พอได้เข้าไปดูแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า หนังทำออกมาได้ดีและกลมกล่อมจริง ดูได้ลื่นไหลตั้งแต่จนจบ
ภาพสวย เพลงประกอบใส่เข้ามาได้จังหวะฮึกเหิมมาก ฉาก Action ก็ทำออกมาได้ดุเดือด มันสะใจ 
นักแสดงทุกคนแสดงออกมาได้ดี บทสนทนาทำออกมาชวนให้คิดตาม
โดยเฉพาะคนที่เล่นเป็นอิ๋งเจิ้ง เล่นได้ดีมาก มีบารมีองอาจสมเป็นอ๋อง แต่พอถึงฉากที่แสดงเป็นเพื่อนของพระเอก ก็ดูขี้เล่น อบอุ่น
นากาซาว่า มาซามิ ที่เล่นเป็นราชินีคนเถื่อน ก็ทำออกมาได้สวยและเท่ 
เฮียพงพัฒน์ (จริงๆเป็นนักแสดงญี่ปุ่นชื่อ  โอซาวะ ทาคาโอะ ที่เล่นเป็น ซูซูกิออโต้ ใน Always)  ซึ่งรับบทเป็น ขุนพลใต้หล้าหวังฉี ก็ออกมาดูอันตราย คาดเดายาก แม้จะดูแนว 'นะฮ้า'เล็กๆ แต่ก็เป็น 'ผู้ชายนะฮ้า'ที่องอาจ อหังการ์

ในการทำหนังจากการ์ตูน Action ญี่ปุ่นนั้น ปัญหาใหญ่ๆของหนังญี่ปุ่นที่ผ่านมาจะมีอยู่ 2 เรื่องก็คือ
1. เนื้อเรื่องจากต้นฉบับยาวเกินไป ไม่สามารถนำมาอัดให้จบในหนังเรื่องเดียวได้ ทำให้หนังที่ออกมาถูกตัดทอนและดัดแปลงไปเยอะจนเสียไปหมด
2. ครั้นจะทำหนังแยกออกมาเป็นส่วนๆ ให้เนื้อหาครอบคลุมครบถ้วนมากขึ้น ก็จะเจอปัญหาตรงที่ว่า ศัตรูในช่วงแรกๆ มักจะออกมาไม่เท่ ไม่หวือหวานัก
หนังเลยออกมาไม่สนใจเท่าที่ควร และไม่ถูกนำไปทำภาคต่อ

อย่างไรก็ตาม หนังเรื่อง Kingdom สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้แบบเอาอยู่ ในขณะที่เนื้อหาในหนังเรื่องนี้จะตัดออกมาเฉพาะตอนต้นเรื่อง (ภาคยึดเมืองหลวง) เท่านั้น แต่ฉากสู้กับศัตรูที่ออกมาแต่ละตัวนี่ ลุ้นเหมือนกับสู้บอส และตัวละครที่เป็น Last Boss นี่ก็โหดไปอีกขั้นทีเดียว

ถ้าจะให้พูดถึงข้อเสียของหนังเรื่องนี้ ผมคิดว่า
-คนที่ไม่ค่อยถูกกับการแสดงสไตล์ญี่ปุ่น และหาว่าคนญี่ปุ่นเล่นเวอร์ ก็อาจจะไม่ค่อยชอบการแสดงของตัวพระเอก และตัวน้องชายของอิ๋งเจิ้งเท่าไรนัก
- บางที พระเอกก็เก่งแบบไม่มีที่มาที่ไปรองรับมากนัก 
- หนังจะพูดถึงชื่อตัวละครจีนต่างๆในสำเนียงญี่ปุ่น จึงอาจทำให้งงได้  อย่างอิ๋งเจิ้ง จะเป็นเอเซย์ หลี่ปู้เหว่ย เป็นริวฟุอิ เป็นต้น

หากทางญี่ปุ่นทำหนังภาค 2 ออกมาเมื่อไร ผมเป็นคนหนึ่งล่ะที่จะเข้าไปดูในโรงอีกแน่ๆ 

ป.ล. ท่านใดที่เป็นคนของโรงภาพยนตร์ในไทย แล้วแวะมาอ่านเจอกระทู้นี้ ผมขอแนะนำให้ซื้อเรื่องนี้ไปฉายที่ไทยครับ หนังเยี่ยมจริง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่