สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อนุช เป็นสมาชิกใหม่ ตอนนี้ใช้ชีวิตที่สวีเดนได้ 2 ปีแล้ว มีหลายประสบการณ์ที่อยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่สนใจ เผื่อจะเป็นประโยชน์หรือแนวทางประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆค่ะ เพื่อนสามารถติดตามได้หลายช่องทางทั้ง 
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCwgPK5G7LTXVTFYkxgwCqKw?view_as=subscriber
IG : Zahaykuo 
FB : https://www.facebook.com/ZaHayKuO

ตามหัวข้อกระทุ้ที่ตั้งขั้น งาน และรายได้ที่สวีเดน นุชอยากจะมาแชร์เรื่องนี้ เพราะหลายๆคน สนใจและสอบถามมาเรื่องงาน และรายได้ที่สวีเดน เลยอยากจะมาแชร์ข้อมูลตรงนี้ ข้อมูลที่นุชเขียนเป็นข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์นุชเอง รวมถึงสอบถามจากคนสวีเดนโอยตรงค่ะ

ก่อนอื่นเลยนุชอยากจะบอกว่าการหางานที่สวีเดนเป็นอะไรที่ยากมากๆ ถึงแม้ว่าเรานั้นจะจบสูงมาจากไทย แต่การหางานที่สวีเดนก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ เมืองที่เราอยู่ โอกาส บวกกับความรู้ความสารถของเรา แต่นั้นก็ไม่เพียงพอสำหรับการที่เราจะหางานดี รายได้ดี ปัจจัยสำคัญ คือ ภาษา ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่ใช้ภาษาสวีดิช หรือภาษาเค้าเป็นภาษาหลัก ถึงแม้ว่าคนสวีเดนจะพูกภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แต่สุดท้ายภาษาสวีดิชก็เป็นภาษาหลักและสำคัญที่สุด ช่วงที่นุชย้ายมาสวีเดนช่วงแยกเป็นอะไรที่เครียดพอสมควร เพราะเราต้องมาเรียนรู้การใช้ชีวิตที่สวีเดน คือเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยก็ว่าได้ จากคนที่เคยทำงานประจำ มีรายได้ทุกเดือน กลับต้องมาอยู่เฉยมันเป็ยอะไรที่น่าเบื่อมาก นุชเลยเริ่มเรียนภาษาสวีเดนเพื่อเป็นใบเบิกทางในการหางานทำ จะบอกว่าภาษาสวีเดนเป็นภาษาที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่ถ้าใครมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาในระดับนึงก็เรียนรู้ภาษาสวีเดนได้ค่อนข้างเร็ว

พอนุชเรียนจบหลักสูตรแรกก็เริ่มหางาน โดยการติดต่อกรมแรงงาน เค้าจะกรอกข้อมูลทุกอย่างที่เราได้แจ้งเค้าไป ท้งเรื่องการศึกษา ความสามารถ ตำแหน่งงานที่สนใจ หลังจากนั้นถ้ามีงานที่ตรงกับเราทางกรมแรงานก็จะส่งข้อมูลหาเราผ่าน E mail ถ้าเราสนใจก็สมัครงานนั้นไป แต่ทว่าการที่เราจะรองานจากรมแรงงานอย่างเดียวก็คงล่าช้า เลยไม่ได้คาดหวังมาก จากนั้นก็เริ่มหางานเอง ระหว่างหางานก็เรียนภาษาไปด้วย
ที่สวีเดนจะไม่ค่อยมี Walk in ส่วนใหญ่จะสมัครงานผ่านเว็บไซต์ งานแรกที่นุชทำเป็นงานดูแลคนแก่ แต่เป็นกาฝึกงาน ตอนนั้นคิดว่าฝึกงานอะไรก็ได้ให้เรามีประสบการณ์เพื่อที่จะไปสมัครงานอื่นต่อ จริงๆงานนี้เป็นงานที่รายได้ดีพอสมควรถ้าเราทำในบริษัทเอกชน จะได้เยอะกว่ารัฐบาล รายได้จะอยู่ที่ 50หมื่นต่อเดือนขึนไป ขึ้นอยู่กับจำนวนวันหรือชั่วโมงที่เราทำ ทำมากได้มาก ทำน้อยก็ได้น้อย ถ้าขยันและรับได้กับงงานนี้ก็โอเค พอนุชฝึกงงานเสร็จก็ไปสมัครงานใหม่ เป็นงานของเทศบาลซึ่งมรความมั่นคง และรายได้ดี รวมไปถึงเค้าให้โอกาสกับคนที่กำลังเรียนอยู่ สามารถทำงานเป็นพนักงงานพาร์ทไทม์ได้ แต่งานของเทศบาลก็เป็นอะไรที่ยากพอสมควรกว่าเราจะได้มา เพราะมีคนสมัครเยอะมาก งานที่นุชได้ คือเป็นผู้ช่วยในห้องครัว แต่เป็นห้องครัวที่โรงเรียน

หน้าที่ที่ต้องทำ คือ

-ทำสลัด ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย สลัดที่ทำต้องอย่างน้อย 5 อย่างแตกต่างกันไป แต่ไม่ต้องกังวลเพราะจะมีคนสอนงานเราเอง
-เก็บกวาดห้องทำสลัด จัดเตรียมสลัดที่ทำตกแต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
-ช่วยพ่อครัวแม่ครัวเตรียมผัก และเครื่องปรุงเมื่อเค้าต้องการ (ส่วนใหญ่แล้วเค้าจะทำเองเตรียมเอง)
-ล้างจาน ในการล้างจานจะมีเครื่องล้างานขนาดใหญ่ ไม่ต้องล้างมือ ทุกคนที่ทำงานรวมกันจะหมุนตำแหน่งกัน เราไม่จำเป็นต้องล้างจานทุกครั้ง บางครั้งอยู่โรงอาหารคอยเติมอาหาร บางครั้งอยู่ห้องล้างจาน

นุชทำงานเป็นพนักงงานพาร์ทไทม์ สามารถเลือกเวลาทำงานและจัดตารางการทำงานเองได้หมด ขึ้นอยู่กับว่าเราสะดวกทำวันไหน นุชทำงาน 8 - 13 ต่อเดือน ไม่เกินนี้ รายก็จะอยู่ที่สองหมืนอัพต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมง
สำหรับนุชถือว่าพอใจกับงานที่ทำตอนนี้ รายได้ที่พอใจ เพราะการที่เราทำงานไปเรียนไป มีรายได้เสริม อีกอย่างได้พํฒนาภาษา และเรียนรู้วัฒรธรรมองค์กกอีกด้วย เดี๋ยวนุชเรียนจบหลักสูตรสุดท้ายก็จะหางานประจำทำ จริงสำหรับคนที่ย้ายมาอยู่ใหม่ถ้าไม่เลือกงานหรือ อีโก้สูงก็ทำงานเล็กๆไปก่อนหาประสบการณ์ไป

งานที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ย้ายมาอยู่สวีเดนใหม่

-พนักงานทำความสะอาด
งานนี้ถือเป็นงานที่รายได้ไม่แย่เลย ยิ่งทำมากก็ยิ่งได้เงินมาก เพราะส่วนใหญ่ทำงานเป็นรายชั่วโมง ได้เงินเป็นรายชั่วโมง แต่รับเป็นเงินเดือน แต่งานนี้ไม่ค่อยได้สทนาซักเท่าไหร่ อาจจะพัฒนาเรื่องภาษาช้ากว่างานอื่น

-พนักงานเสริฟร้านอาหาร
งานนี้ก็รายได้เป็นชั่วโมง รับเป็นเงินเดือน เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่หารายได้เสริมระหว่างเรียน เพราะส่วนใหญ่สามารถทำเป็นพาร์ทไทม์ได้ และงานนี้เรียนรู้ภาษาได้ค่อนข้างดีเลย

-พนักงานนวด
งานนี้เป็นงานที่รายได้ค่อนข้างดีเลย เพราะค่าบริการค่อนข้างสูง ถือเป็นงานเฉพาะทางที่ต้องใช้ความสามารถค่อนข้างสูง 

จริงๆแล้วงานเหล่านี้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นล่าง รายได้น้อย แต่เมื่อเทียบกับการทำงานที่สวีเดนแล้ว งานเหล่านี้ถือเป็นงานที่รายได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูแหล่งที่มาของงานนั้นๆด้วยกว่าน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน ที่อยู่ที่ติดต่อได้ชัดเจนและที่สำคัญคือ บริษัทถูกต้องตามกฎหมายภายใต้กระทรวงแรงงาน เรื่องนี้ค่อยข้างสำคัญ อย่ายึดหรือมองี่ตัวเงินเป็นหลัก

งานที่คนสอบถามมากที่สุด คือ การเก็บผลไม้ที่สวีเดน

งานนี้หลายนสนใจและสอบถามมา ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร รวมถึงรายได้ ไม่ใช่ประเทศสวีเดนประเทศเดียวที่มีคนสนใจ หลายประเทศเพือนบ้าน เช่น ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ค งานเก็บผลไม้ส่วนใหญ่จะเริ่มฤดูร้อน ช่วงเดือนมิถุนายน ถึงประมาณ กันยา โดยประมาณ ช่วงนั้นจะมีผลไม้เยอะ เช่น แอปเปิ้ล และผลไมตะกูลเบอรรี่ ผลไม้ประเภทนี้เป็นผลไม่ที่ราคาค่อนข้างสูงถ้าส่งออกนอกประเทศ และการเก็บเกี่ยวค่อนข้างยาก บลูเบอร์รี่เป็นไม้พุ่ม เตี้ยๆ ต้นมีหนาวเล็กๆ ซึ่งการเก็บเกี่ยวไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย โดยเฉพาะประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่ป่าเยอะ และเนินภูเขาเยอะมาก การเก็บเกี่ยวบางพื้นที่ต้องปืนขึ้นเขาไปเก็บ ซึ่งอันตรายพอสมควร สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย และในการเก็บบลูเบอร์รี่ส่วนใหญ่นายจ้างจะจ้างเป็นรายกิโล คือ ถ้าเก็บได้เยอะก็ได้เงินเยอะ การเก็บเกี่ยวจึงขึ้นอยู่กับพื้นที่และปีด้วย เพราะบางพื้นที่บางปี บลูเบอรรี่ไม่ค่อยออกผล ก็รายได้น้อย อีกอย่างคือเป็นผลไม้ระยะสั้นไม่มีกี่ คนที่มาทำงานช่วงนั้นก็จะทำได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นบาทอัพต่อเดือน

สำหรับใครที่สนใจมาทำงานช่วงหน้าร้อนที่สวีเดนให้ทุกคนศึกษาหาข้อมูลให้ดูๆนะคะ อย่าไปหลงเชื่อคำอ้างอิงจากบุคคลภายนอกที่ดูไม่น่าเชื่อถือ เพราประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่กฎหมายเคร่งครัดและจริงจังมาก อย่าเอาอนาคตทุกคนมาเสี่ยงกับงานที่รายได้มากกว่าบ้านเรา ถ้าจะมแนะนำให้ทุกคนติดต่อกรมแรงงานเพื่อที่จะทำงานต่างประเทศ ทำวีซ่าทำงานให้ถูกต้องจะได้ทำงานได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ ประเทศสวีเดนรายได้ดีก็จริง แต่ค่าใช้จ่ายและภาษีก็สูงเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็เปรียบเที่ยบก่อนตัดสินใจมานะคะ

เคยมีกลุ่มแรงงานจากต่างประเทศมาทำงานเก็บผลไม้ที่สวีเดน แต่มาแบบผิดหฏหมายหล้ายที่เกาหลีใต้ ช่วงปีที่แล้วนุชไปบ้านพักร้อนกับครอบครัวแฟน แล้วเข้าไปเก็บบลูเบอร์รี่ในป่า (ป่าสนไม่น่ากลัว) กลับครอบครัว คนสวีเดนถือเป็นกิจกรรมน่าร้อนสนุกๆค่ะ พอเดินไปเจอตู้คอนเทนเนอร์ยาวๆแคบๆ เลยถามพ่อแฟน พ่อแฟนก็บอกว่าเค้ามาเก็บผลไม้ แต่น่าจะผิดกฏหมาย เพราะถ้าถูกกฎหมายจะไม่อยู่ใยตู้คอนเทนเนอร์ อาจจะอยู่อพาร์ทเม้น หรือห้องเช้า ซึ้งพ่อแฟนก็บอกว่าคนกลุมนี้เค้าจะไม่ออกไปไหน มีออกไปซื้อของบ้างเล็กน้อย จะไม่ค่อยไปเจอผู้คน แต่ก็ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าเค้ามาได้ยังไง ก็อยากฝากถึงใครที่กำลังมองหางานที่ต่างประเทศนะคะ อยากให้ทุกคนคิดให้ดีๆ ว่าการที่เรามาลำบากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง มาแบบหลบๆซ่อน เป็นอะไรที่ทุกข์ใจ อย่าไปมองเพียงตังเงินอย่างเดียว เข้าใจว่าทุกคนที่มาทำงานก็มีหนี้สินมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ แต่อยากให้ความสำคัญในเรื่องของความถูกต้อง เพราะมันหมายถึง โอกาศและอนาคตข้างหน้า

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยแต่ก็ตั้งใจมาแบ่งปันค่ะ ใครที่อยากสอบถามอะไร หรือมีข้อคิดเห็นยังไงก็แชร์กันได้ อันนี้เป็นเพียงประสบการณ์นุชเองที่นุชมีโอกาสได้มาใช้ชีวิตที่สวีเดน
  

ฝากเพื่อนๆติดตามนุชได้ในช่องยูทูป ขอบคุณค่ะ
https://www.youtube.com/channel/UCwgPK5G7LTXVTFYkxgwCqKw?view_as=subscriber