คุณยายที่นอนป่วยติดเตียงมาเป็นเวลาถึง 2ปี
ตอนนี้แกอายุ 96ปีแล้ว วันนี้เป็นอีกวันที่ทำให้จขกท.ลำบากใจที่จะพูดเพื่อบอกให้แกได้ทราบว่าน้องสาวแกเข้าโรงพยาบาล

ซึ่งปีก่อนจขกท.ได้แจ้งข่าวร้ายเกี่ยวกับอาการป่วยของลุงและน้าที่มาป่วยและเสียชีวิตลงในปีเดียวกัน
ยายมีลูกทั้งหมด 7คน คนที่ 3เสียชีวิตในวัยเด็ก

ลุงใหญ่ป่วยเป็นเบาหวานถึงขั้นต้องตัดขาเสียชีวิตในห้องผ่าตัดเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด  การบอกข่าวการเสียชีวิตของลุงลูกชายคนโตของคุณยายทำให้แกถึงกับฟูมฟาย แกพร่ำบ่นว่าแกอยู่นานเกินไปแล้ว คุณตาของจขกท.เสียไปตอนแกอายุ 79ปี  

คุณลุงเสียไปได้ไม่ถึง 6เดือน น้าสาวคนที่6ก็เส้นเลือดในสมองแตก โคม่าเข้ารักษาทำการผ่าตัดถึง 3ครั้งต้องรักษาอยู่ในห้องไอซียูด้วยความทรมานถึง 2เดือน น้าก็จากไป

ในครอบครัวไม่มีใครกล้าบอกคุณยาย เป็นหน้าที่ของจขกท.ที่ต้องเข้าไปบอกแก มันเป็นความยากกับการที่จะเข้าไปบอกแก จขกท.บอกข่าวการเสียชีวิตของน้าสาว แกฟังจบ แกนิ่ง เงียบ ไม่ร้องไห้ ไม่ฟูมฟาย ทั้งที่น้าสาวคนนี้คือเป็นคนที่ดูแลคุณยายและอยู่ใกล้ชิดกับคุณยายมากที่สุดก่อนที่คุณยายจะป่วยและนอนติดเตียง

เมื่อแกป่วยติดเตียงถึงได้ย้ายมาอยู่กับแม่ของจขกท. ซึ่งน้าสาวมีโรคประจำตัวไม่สามารถดูแลคุณยายได้เต็มที่. แต่บ้านน้าก็อยู่ไม่ห่างสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ ช่วงเย็นของทุกวันน้าสาวจะมานั่งเล่นพูดคุยกับคุณยายทุกวัน. จนแกเริ่มป่วยเป็นเกาต์เดินไม่ได้ แกก็ไม่ได้มาเยี่ยมคุณยายอย่างเคย. คุณยายถามหาแกทุกวัน จขกท.บอกว่าน้าสาวป่วยเดินไม่ถนัด แกถามทุกวันจนเลิกถาม

การบอกข่าวของน้าสาวในครั้งนั้น จขกท.รับรู้ได้ว่าแกเจ็บปวด เสียใจ แม้แกจะไม่ร้องไห้แต่นั่นคือ อาการที่แกช็อค แกไม่กินข้าว ไม่พูด ไม่คุย นอน นิ่งเงียบอย่างเดียว จนเช้าแกถึงถามเรื่องงานศพว่าไปตั้งที่วัดไหน อย่างไร แกให้เราจุดธูป 1ดอกและแกก็บอกกล่าวถึงน้าสาว

มาวันนี้จขกท.ได้บอกข่าวน้องสาวของแกว่าป่วยเข้ารพ. แกถามว่าเป็นอะไร ก็บอกแกไปว่า ไอมาก

ทั้งที่หมอได้บอกอาการของน้องสาวยายแล้วว่า น้องสาวคุณยายเส้นเลือดตีบ เป็นอัมพาตครึ่งซีกขวายังไม่รู้สึกตัว จขกท.กะว่าจะค่อยๆบอกให้แกรับรู้ทีละน้อย

พอแกได้ฟังแกก็พูดขึ้นว่า ใครว่าอายุยืนแล้วดี มันทรมานที่ต้องมารับรู้ว่าใครจากไปบ้าง แล้วแกก็เงียบ นอนหลับตา

จขกท.นั่งมองคุณยายอย่างเงียบๆ มันเป็นความทรมานจริงๆกับการที่ต้องมาพลัดพรากจากคนที่เรารักไปทีละคนๆ

#การมีชีวิตยืนยาวมันดีจริงหรือ???#

#ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน การเสียชีวิตของลุงกับน้าทำให้รู้ว่าความตายไม่เลือกอายุ
ถึงเวลาของใครคนนั้นก็ไปก่อน#

ที่สำคัญเราได้เตรียมความพร้อมหรือจัดการเรื่องราวต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง

ลุงของจขกท.ไม่ได้จัดการเรื่องเอกสารมรดกทำให้เป็นปัญหากับภรรยาและลูกๆจนถึงทุกวันนี้

น้าสาวได้จัดการโอนมรดกทุกอย่างรวมทั้งมอบเอกสารที่จำเป็นไว้ให้ลูกชายก่อนแกจะมาป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองแตก

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จขกท.เห็นว่าควรเตรียมความพร้อมในเรื่องของเอกสารและการจัดการเรื่องราวต่างๆที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินมรดกหรือภาระหนี้สินต่างๆมอบหมายให้มีผู้ดูแลเผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเราจะได้ไม่ต้องห่วงและไม่สร้างปัญหาหรือภาระไว้ให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง