ได้อ่านข่าวที่สื่อต่างชาตินำเสนอว่า บริษัทเอกชนเป็นช่องทางในการดึงกลุ่มทุนจีนให้เข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะอีอีซี เกิดคำถามว่า โดยภาพรวมแล้ว ผลดีน่าจะมากกว่าผลเสียไม่ใช่หรือ ในเมื่อจุดประสงค์หลักของการทำโครงการขนาดใหญ่ระดับเมกะโปรเจกท์อย่างอีอีซี ก็เพื่อต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ของประเทศ ให้สามารถเดินหน้าต่อได้ดีขึ้น เพราะลำพังเม็ดเงินลงทุนในประเทศอย่างเดียว ไม่สามารถทำได้ในระดับที่เพียงพอ และอาจทำให้เสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศสั่นคลอนได้ ซึ่งหลักการนี้ ก็เป็นหลักการสากลที่ประเทศต่าง ๆ ทำกันไม่ใช่หรือ

นอกจากนี้ การที่ทุนต่างชาติเข้ามา ก็จะมีผลดีในหลายด้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ตำแหน่งงานที่หลากหลายขึ้น เทคโนโลยีชั้นสูงสมัยใหม่ เกิดอุตสาหกรรมใหม่ ๆ หรือทำให้ประเทศไทย/สินค้า/ผลผลิตของไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายกว้างขวางขึ้น ซึ่งมีผลไปถึงการท่องเที่ยวด้วย ส่วนในด้านของสิ่งแวดล้อมที่ห่วงใยกัน ก่อนการลงทุนก็จะมีการประเมินผล EIA/EHIA อะไรประมาณนั้นอยู่

ในส่วนของการลงทุนในอีอีซี ไม่ได้มีเพียงจีนชาติเดียวที่เข้ามา แต่มีทั้งญี่ปุ่น ยุโรป เอเชีย เรียกได้ว่ามากันทั่วโลกา เม็ดเงินที่เกิดขึ้นจึงมีหลากหลายสกุลเงิน

ส่วนข้อกังวลที่บอกว่าต่างชาติจะมาเอาเปรียบ เพื่อเอากลับไป ในจุดนี้ ทรัพยากรทุกอย่างก็ยังอยู่ในประเทศ ขนออกไปไม่ได้ สิ่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานก็ไม่สามารถรื้อถอนขนย้ายกลับไปได้ ส่วนเม็ดเงินลงทุน เขาก็เอาออกไปในส่วนที่เขาควรได้ แต่ยังมีส่วนที่ตอบแทนให้กับประเทศเราในรูปแบบของภาษี ค่าเช่า ค่าลงทุนต่าง ๆ ก็ยังอยู่

ปัญหาจึงไม่น่าจะมาจากการที่ทุนต่างชาติเข้ามา แต่น่าจะมองไปที่ ทำยังไงให้ประเทศเราเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากกว่า