ปัญหาโรคซึมเศร้า

เราไม่ได้โรคซึมเศร้า แต่เพื่อนเราเป็น ซึ่งเรารับรู้มาตลอดว่าเพื่อนเป็นและเพื่อนก็มีปัญหาที่บ้านที่บ้านแบบยิ่งใหญ่มากซึ่งทำให้เรายื่นมือเข้าไปช่วย ด้วยการรับฟังปัญหามาตลอดแบบลางครั้งโทรมาตี2-3 เราก็รับโทรศัพท์คุยเป็นเพื่อนจนเช้า แต่นั้นมันเป็นสมัยที่เราเรียนด้วยกัน แต่ตอนนี้เราต่างเรียนจบมรงานทำ มีทางเป็นของตัวเองซึ่งทำให้เราเจอกันน้อยลงแต่ก็ยังคุยกันบ่อยอยู่ 
เราขอสรุปตรงนี้สั้นเพื่อใครไม่อยากอ่านยาว
คือเพื่อนเรานิสัยแย่มาก ทุกครั้งที่ทำผิดไม่เคยโทษตัวเอง แต่โทษความป่วยที่บอกว่าเป็นโรคซึมเศร้า
ปัญหามันมีตรงที่เพื่อนเรามีนิสัย ที่ชอบดูถูกคนอื่น เอาแต่ใจ ไม่รับฟังใคร ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิด ถามบางครั้งยังมีอาการโกหก ซึ่งมันก็เป็นมาตั้งแต่เราคบกันสมัยเรียนซึ่งตอนนั้นเราก็ปล่อยผ่านอาจจะเพราะความเด็กและความเป็นเพื่อน แต่พอโตขึ้นมีอะไรต้องรับผิดชอบมากขึ้นมันก็ทำให้ความเป็นเพ่ือนของเราค่อยเปลี่ยนๆเพราะไอ้นิสัยที่บอกมามันยิ่งทวีความรุนแรง
เดี๋ยวจะอธิบายไปทีละปัญหา
1.ปัญหาชอบดูถูกคนอื่น คือนางจะชอบดูถูกพวกพนักงานเสิร์ฟไรงี้แบบบางครั้งพนักงานเสิร์ฟ เสิร์ฟอาหารให้ผิด นางก็จะเพราะไม่มีสมองอย่างงี้ไงถึงเป็นได้แค่พนักงาน หรือดูถูกเด็กที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยดัง ว่าโง่และบ้านจน
2.เอาแต่ใจก็คือ เราติดงานประชุมทั้งวันกับหัวหน้า นางก็ไลน์พร้อมส่งสติเกอร์มารัวๆเกือบ100กว่าข้อความ ด้วยความที่นางซึมเศร้าเราก็กลัวนางจะคิดมาก เลยกดเข่าไปดูกลับมีข้อความที่บอกว่า"กูปวดขี้" เราเลยอ่านแล้วตอบไปแค่ประชุมอยู่ นางก็ยังส่งสติกเกอร์มาอีก พร้อมทั้งเข้ามาในไดเร็กไอจี อินบล็อคเฟสบุ๊คโทรเข้าโทรศัพท์และส่ง SMS มาว่าทำไมตอบไลน์
3.ไม่รับฟังใคร คือเคยไปคาเฟ่ร้านขนมด้วยกันโดยหน้าร้านมีป้ายติดขอโทษว่าห้ามจอดให้ไปจอดที่ๆเตรียมไว้ให้ นางก็ไม้พอใจบอกให้เราไปบอกพนักงานว่าจะจอดตรงนี้เคยมาครั้งที่แล้วเคยจอดได้(เริ่มโวยวายนิดๆ) เราเลยเข้าไปถามพนักงานให้พนักงานก็พูดดีๆว่าจอดไม่ได้ เราเลยมาบอกนาง นางก็ไม่ฟังยืนยันว่าจอดได้เราใช้เวลาคุยกับนางให้ไปจอดที่อื่นนานมาก
4.ไม่เคยยอมรับผิด เราได้คุยกับนางถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะไม่ผิด อธิบายไปเยอะมากว่าอย่าทำพอเราพูดจบ นางก็จะไม่อ่ะสิ่งที่ทำคือถูกแล้ว
5.การโกหก ซึ่งอันนี้เราก็ไม่แน่ใจอยาหเหตุการณ์คือคุยกับเราอีกอย่างแต่ไปบอกกับอีกคนอย่าง ตัวอย่างเช่นบอกเราทะเราะกับแฟน เครียดมากไม่ไหวแล้ว แต่ไปบอกคนอื่นว่าโดนพ่อไล่ออกจากบ้าน ซึ่งเวลาที่คุยเป็นเวลาเดียวกัน เพราะตอนนั้นอะไรไม่รู้ดลใจอยู่ดีๆคนที่นางทักไปก็ทักเรามา เราเลยได้รู้

จริงๆมันมีปัญหาอีกเยอะมากที่เราต้องเจออย่างเช่นที่เราบอกไปว่า เราเจอกันน้อยลงด้วยเวลานางก็จะออกแนวงอแงทำไมไม่มากินข้าวกันเลย ซึ่งมันส่งผลให้เวลาเราพาครอบครัวไปกินข้าวเสาร์อาทิตย์ นางก็จะโวยวายทำไมที่งี้ออกมาได้ที่ตอนนางจะนัดไม่ยอมมา เราเลยคิดในใจนี่พ่อแม่กูไหมล่ะ
หรือบางครั้งหลังเลิกงานเรามักไปกินข้าวบ้านแฟนหรือแฟนมากินข้าวบ้านเราเนื่องจากบ้านเราอยู่ใกล้กัน นางก็จะโมโหเหมือนเดิมแล้วพาลมาโกรธมาเกลียดแฟนเราถึงขั้นเคยบอกให้เราเลิกคบกับแฟน วันไหนคุยกันแล้วบอกว่าดีกับแฟนนางก็จะ "อ่อหรอ" แต่ถ้าโกรธกันนางก็จะ "5555เออดีเลิกกันไปเลยกูเชียร์" หรือบางครั้งไม่มีประเด็นเรื่องแฟนเรานางก็จะทักขึ้นมาเองว่าเป็นไงทะเราะกันบ้างไหม
ซึ่งเราเบื่อการกระทำและนิสัยของนางมากเคยพูดตรงๆก็แล้วอ้อมๆก็แล้วว่าควรปรับปรุง แต่นางก็จะมีประโยคที่บอกว่า "กูขอโทษ กูเป็นโรคซึมเซร้า" มันเลยทำให้เรายอมนางและรับกับนิสัยแย่ๆของนาง จนตอนนี้บอกตามตรงอยากเทนางมากแต่ใจก็เป็นห่วงกลัวนางจะฆ่าตัวตาย
เพราะฉะนั้นเราควรรับมือกับปัญหานี้ยังไง???
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่