ถึง เธอ...
เธออาจกำลังรู้สึกว่าโลกพังครืนลงมา จากความผิดหวังไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตแน่ๆ
ความรู้สึก 'โลกพัง' หรือ 'หัวใจสลาย' ไม่มีชิ้นดีแบบนี้ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจถึงความเจ็บปวดและความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นในใจเรา บางสิ่งที่เคยอยู่ในหัวใจเหมือนถูกควักออกไป และหายไปตลอดกาล
แค่อยากบอกเธอว่า ไม่ต้องรู้สึกแย่กับความอ่อนแอของตัวเองในวันนี้ เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์ทุกคน เมื่ออกหัก สูญเสีย ลาจาก ย่อมมีช่วงเวลาอ่อนแอ ร้องไห้ ไร้เรี่ยวแรงทำอะไร
ไม่ต้องฝืนยิ้มหรือพยายามทำตัวว่ายังโอเค เราเข้าใจว่าเธอต้องใช้เวลาอยู่กับความเจ็บปวดอีกระยะ เราโอเคที่เธอไม่โอเค คนเราไม่ต้องแข็งแกร่งหัวเราะร่าให้กับชีวิตทุกช่วง ความเปราะบางเสียอีกที่ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น
อย่าปกปิดความเจ็บปวดนะ เพราะเมื่อเธอแสดงมันออกมาต่อหน้าคนที่เธอไว้ใจได้ นั่นคือการเปิดโอกาสให้เขาได้ดูแลและแสดงความห่วงใย พร้อมกับเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รับความห่วงใยจากคนอื่นด้วย
สังคมอาจตัดสินเธอว่าอ่อนแอ กดดันให้แข็งแกร่งในเร็ววัน แต่ไม่เป็นไรเลย จงมีพื้นที่อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอกับคนบางคนที่เข้าใจเธออย่างแท้จริง
เธออาจต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่ต่างอะไรกับนกบาดเจ็บ ยังบินไม่ได้ตามปกติ ไม่ต้องกดดันตัวเองให้รีบลุกขึ้นมาแล้วทำราวกับว่า--ฉันไม่เป็นอะไร
...
โปรดระวังการเสพติดความหวังเดิมๆ การคิดหวนไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ความสุขเมื่อครั้งที่ทุกสิ่งยังสวยงาม เธออาจหวนคิดถึงสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกสูญเสีย หรือความว่างเปล่าในวันนี้ แต่การทำเช่นนี้ยิ่งทำให้เธอวนเวียนอยู่กับอดีต ไม่สามารถเดินจากมันมา
กับคนรัก, หากแยกทางแล้ว อย่าได้ตามส่องเขาในช่องทางต่างๆ ยิ่งทำแบบนี้ เธอยิ่งทำให้แผลถูกสะกิด และไม่วันแห้ง ไม่มีวันหาย
วิตกกังวล ซึมเศร้า สับสน หมดแรง...ไม่เป็นไร
ให้เวลาตัวเอง
...
ที่สำคัญมากคือ เธอต้องหยุดความคิดลบกับตัวเอง เมื่อทุกอย่างพังทลาย สิ่งแรกที่ผู้คนชอบทำคือ ตำหนิตัวเอง โทษตัวเอง แล้ววนเวียนอยู่กับการคิดว่า "ถ้าวันนั้นเราไม่ทำอย่างนั้น" หรือ "วันนั้นเราน่าจะทำอย่างนี้" ความคิดทำนองนี้ยิ่งกรีดแผลให้กว้างขึ้น เจ็บปวดขึ้น เพราะมันจะนำไปสู่การติตัวเองเกินพอดี เห็นตัวเองแย่เกินจริง
ในทางกลับกัน, กับคนรัก, เธอเลิกคิดได้แล้วว่าเขาเป็นคนดีเลิศ ในมุมหนึ่ง ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือ เราจึงเป็นแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดไปเสียทุกอย่าง แต่อยากให้มองคนคนนั้นเป็น 'คน' ที่มีด้านแย่ ห่วย ไม่ได้เรื่อง กระทั่งน่ารังเกียจอยู่ด้วย
อย่าจำและวนเวียนแต่กับด้านดี จดจำสิ่งแย่ๆ หรือความห่วยแตกของเขาที่ทำกับเราไว้ด้วย เมื่อนึกถึงเรื่องแบบนี้ เราจะโหยหาเขาน้อยลง ถ้านึกถึงแต่ด้านดีหรือวันคืนดีๆ เธอก็จะวนเวียนและเจ็บปวดซ้ำซาก
...
ใช้เวลาสักระยะ 'ถอนตัว' ออกจากคนคนนั้นหรือเหตุการณ์นั้น เลิกสน เลิกส่อง เลิกติดตาม ใช้ชีวิตแบบไม่มีเขาในโลกให้ได้สักระยะ ภาวะนี้เหมือนคน 'เลิกยา' ไม่อย่างนั้นเธอก็เหมือนคนติดยาเสพติดที่แอบสูบแอบเสพ จะไปเลิกขาดได้ยังไง มันก็ยังทำร้ายเราอยู่ได้ตลอด
กลับไปสถานที่เก่า แล้วสร้างความทรงจำใหม่ อย่าให้สวนสาธารณะ ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ และที่อื่นๆ ถูกประทับไว้ด้วยภาพของคนคนนั้นแค่คนเดียว ไปที่เดิมกับเพื่อน กับผู้คนใหม่ๆ ด้วยความรู้สึกใหม่ๆ มีความทรงจำใหม่พร้อมชีวิตใหม่
...
ความเข้มแข็งที่เธอต้องมี ไม่ใช่การรีบหายอ่อนแอ หากคือความเข้มแข็งของจิตใจที่ตั้งมั่นว่า--ฉันจะเดินไปบนเส้นทางแห่งการเยียวยา ไม่ใช่เส้นทางวนเวียนกับความทุกข์ เมื่อตั้งใจแล้ว เธอต้องทำตามความตั้งใจอย่างเคร่งครัด
ความผูกพันที่เคยผูกและพันเธอไว้ให้อยู่กับที่ จะค่อยๆ คลายจางลงตามวันเวลา หากเธอช่วยเหลือตัวเองอย่างที่เราคุยกัน นั่นคือ
- อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอ
- บอกเล่าความเจ็บปวดกับคนที่รับฟัง
- ยังไม่ต้องรีบเข้มแข็ง ให้เวลาตัวเอง
- เลิกเสพติดความหวังลมๆ แล้งๆ
- เลิกส่อง เลิกตามดูคนคนนั้นในช่องทางต่างๆ
- ไม่ตำหนิตัวเอง
- จดจำสิ่งแย่ๆ ที่เขาทำกับเรา
- มองเห็นด้านที่ไม่ดีงามของเขาด้วย
- พาตัวเองไปอยู่ในโลกที่ไม่มีเขา
- กลับไปสถานที่เก่าเพื่อสร้างความทรงจำใหม่
- โฟกัสข้อดีของตัวเอง
...
เหนืออื่นใด, เธอต้องเชื่อมั่นว่า ความเจ็บปวดนี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป เธอจะค่อยๆ ดีขึ้นจากการก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการเยียวยา บอกตัวเองว่า-ฉันจะไม่วนอยู่ที่เดิม
รักษาความนับถือตัวเองเอาไว้
รักตัวเองด้วยนะ มีเมตตากับตัวเองให้มากๆ อย่าโบยตีตัวเองให้ต้องเจ็บปวดเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
ถ้าเธออยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน, มันไม่ได้เร็วเกินไปหรอกนะ เธอไม่จำเป็นต้องลืมเขาคนนั้นจนหมดสิ้น (ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้) หรือรอแผลสมานจนหายดี ไม่เป็นไร เธอเยียวยาตัวเองไปพร้อมๆ กับเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้เช่นกัน
หัวใจของเธอใหญ่มากพอที่จะบรรจุเรื่องราวเก่าๆ และเปิดออกเพื่อต้อนรับผู้คนใหม่ๆ
ขอให้เธอมองเห็น 'ความเจ็บปวด' เป็นสิ่งนอกตัว ไม่ใช่สิ่งที่หลอมรวมไปอยู่ในตัวตนของเธอ มาได้ ก็ไปได้ อย่าเหนี่ยวรั้งมันไว้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แต่เธอต้องช่วยเหลือตัวเองในการทำให้ความเจ็บปวดนี้ไม่ติดตรึงอยู่กับตัวเธอไปตลอดกาล
ผู้คนบนโลกนี้ล้วนต้องผ่านภาวะใจสลายด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องสลายไปพร้อมหัวใจ ฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ เริ่มต้นใหม่
ผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราจะมีหัวใจที่แข็งแรงขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น ยอมรับเรื่องร้ายได้ดีขึ้น
เมื่อเธอผ่านเรื่องนี้ไปได้จริงๆ อย่างงดงาม วันหนึ่ง เธอจะหันมองมันแล้วยิ้มให้ตัวเอง ขอบคุณเหตุการณ์นี้ ขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองผ่านพ้นมันมาได้
ใช่, ยังมีรอยยิ้มใหม่ๆ ที่เกิดจากผู้คนใหม่ๆ เหตุการณ์ใหม่ๆ รออยู่ในอนาคต
ค่อยๆ ผ่านเหตุการณ์นี้ไป
เป็นกำลังใจให้นะ
ถ้าหัวใจเธอแตกสลาย โดย นิ้วกลม
เธออาจกำลังรู้สึกว่าโลกพังครืนลงมา จากความผิดหวังไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตแน่ๆ
ความรู้สึก 'โลกพัง' หรือ 'หัวใจสลาย' ไม่มีชิ้นดีแบบนี้ ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจถึงความเจ็บปวดและความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นในใจเรา บางสิ่งที่เคยอยู่ในหัวใจเหมือนถูกควักออกไป และหายไปตลอดกาล
แค่อยากบอกเธอว่า ไม่ต้องรู้สึกแย่กับความอ่อนแอของตัวเองในวันนี้ เป็นปกติธรรมดาของมนุษย์ทุกคน เมื่ออกหัก สูญเสีย ลาจาก ย่อมมีช่วงเวลาอ่อนแอ ร้องไห้ ไร้เรี่ยวแรงทำอะไร
ไม่ต้องฝืนยิ้มหรือพยายามทำตัวว่ายังโอเค เราเข้าใจว่าเธอต้องใช้เวลาอยู่กับความเจ็บปวดอีกระยะ เราโอเคที่เธอไม่โอเค คนเราไม่ต้องแข็งแกร่งหัวเราะร่าให้กับชีวิตทุกช่วง ความเปราะบางเสียอีกที่ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น
อย่าปกปิดความเจ็บปวดนะ เพราะเมื่อเธอแสดงมันออกมาต่อหน้าคนที่เธอไว้ใจได้ นั่นคือการเปิดโอกาสให้เขาได้ดูแลและแสดงความห่วงใย พร้อมกับเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รับความห่วงใยจากคนอื่นด้วย
สังคมอาจตัดสินเธอว่าอ่อนแอ กดดันให้แข็งแกร่งในเร็ววัน แต่ไม่เป็นไรเลย จงมีพื้นที่อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอกับคนบางคนที่เข้าใจเธออย่างแท้จริง
เธออาจต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่ต่างอะไรกับนกบาดเจ็บ ยังบินไม่ได้ตามปกติ ไม่ต้องกดดันตัวเองให้รีบลุกขึ้นมาแล้วทำราวกับว่า--ฉันไม่เป็นอะไร
...
โปรดระวังการเสพติดความหวังเดิมๆ การคิดหวนไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว ความสุขเมื่อครั้งที่ทุกสิ่งยังสวยงาม เธออาจหวนคิดถึงสิ่งเหล่านี้อยู่บ่อยๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกสูญเสีย หรือความว่างเปล่าในวันนี้ แต่การทำเช่นนี้ยิ่งทำให้เธอวนเวียนอยู่กับอดีต ไม่สามารถเดินจากมันมา
กับคนรัก, หากแยกทางแล้ว อย่าได้ตามส่องเขาในช่องทางต่างๆ ยิ่งทำแบบนี้ เธอยิ่งทำให้แผลถูกสะกิด และไม่วันแห้ง ไม่มีวันหาย
วิตกกังวล ซึมเศร้า สับสน หมดแรง...ไม่เป็นไร
ให้เวลาตัวเอง
...
ที่สำคัญมากคือ เธอต้องหยุดความคิดลบกับตัวเอง เมื่อทุกอย่างพังทลาย สิ่งแรกที่ผู้คนชอบทำคือ ตำหนิตัวเอง โทษตัวเอง แล้ววนเวียนอยู่กับการคิดว่า "ถ้าวันนั้นเราไม่ทำอย่างนั้น" หรือ "วันนั้นเราน่าจะทำอย่างนี้" ความคิดทำนองนี้ยิ่งกรีดแผลให้กว้างขึ้น เจ็บปวดขึ้น เพราะมันจะนำไปสู่การติตัวเองเกินพอดี เห็นตัวเองแย่เกินจริง
ในทางกลับกัน, กับคนรัก, เธอเลิกคิดได้แล้วว่าเขาเป็นคนดีเลิศ ในมุมหนึ่ง ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือ เราจึงเป็นแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดไปเสียทุกอย่าง แต่อยากให้มองคนคนนั้นเป็น 'คน' ที่มีด้านแย่ ห่วย ไม่ได้เรื่อง กระทั่งน่ารังเกียจอยู่ด้วย
อย่าจำและวนเวียนแต่กับด้านดี จดจำสิ่งแย่ๆ หรือความห่วยแตกของเขาที่ทำกับเราไว้ด้วย เมื่อนึกถึงเรื่องแบบนี้ เราจะโหยหาเขาน้อยลง ถ้านึกถึงแต่ด้านดีหรือวันคืนดีๆ เธอก็จะวนเวียนและเจ็บปวดซ้ำซาก
...
ใช้เวลาสักระยะ 'ถอนตัว' ออกจากคนคนนั้นหรือเหตุการณ์นั้น เลิกสน เลิกส่อง เลิกติดตาม ใช้ชีวิตแบบไม่มีเขาในโลกให้ได้สักระยะ ภาวะนี้เหมือนคน 'เลิกยา' ไม่อย่างนั้นเธอก็เหมือนคนติดยาเสพติดที่แอบสูบแอบเสพ จะไปเลิกขาดได้ยังไง มันก็ยังทำร้ายเราอยู่ได้ตลอด
กลับไปสถานที่เก่า แล้วสร้างความทรงจำใหม่ อย่าให้สวนสาธารณะ ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ และที่อื่นๆ ถูกประทับไว้ด้วยภาพของคนคนนั้นแค่คนเดียว ไปที่เดิมกับเพื่อน กับผู้คนใหม่ๆ ด้วยความรู้สึกใหม่ๆ มีความทรงจำใหม่พร้อมชีวิตใหม่
...
ความเข้มแข็งที่เธอต้องมี ไม่ใช่การรีบหายอ่อนแอ หากคือความเข้มแข็งของจิตใจที่ตั้งมั่นว่า--ฉันจะเดินไปบนเส้นทางแห่งการเยียวยา ไม่ใช่เส้นทางวนเวียนกับความทุกข์ เมื่อตั้งใจแล้ว เธอต้องทำตามความตั้งใจอย่างเคร่งครัด
ความผูกพันที่เคยผูกและพันเธอไว้ให้อยู่กับที่ จะค่อยๆ คลายจางลงตามวันเวลา หากเธอช่วยเหลือตัวเองอย่างที่เราคุยกัน นั่นคือ
- อนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอ
- บอกเล่าความเจ็บปวดกับคนที่รับฟัง
- ยังไม่ต้องรีบเข้มแข็ง ให้เวลาตัวเอง
- เลิกเสพติดความหวังลมๆ แล้งๆ
- เลิกส่อง เลิกตามดูคนคนนั้นในช่องทางต่างๆ
- ไม่ตำหนิตัวเอง
- จดจำสิ่งแย่ๆ ที่เขาทำกับเรา
- มองเห็นด้านที่ไม่ดีงามของเขาด้วย
- พาตัวเองไปอยู่ในโลกที่ไม่มีเขา
- กลับไปสถานที่เก่าเพื่อสร้างความทรงจำใหม่
- โฟกัสข้อดีของตัวเอง
...
เหนืออื่นใด, เธอต้องเชื่อมั่นว่า ความเจ็บปวดนี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป เธอจะค่อยๆ ดีขึ้นจากการก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งการเยียวยา บอกตัวเองว่า-ฉันจะไม่วนอยู่ที่เดิม
รักษาความนับถือตัวเองเอาไว้
รักตัวเองด้วยนะ มีเมตตากับตัวเองให้มากๆ อย่าโบยตีตัวเองให้ต้องเจ็บปวดเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
ถ้าเธออยากเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน, มันไม่ได้เร็วเกินไปหรอกนะ เธอไม่จำเป็นต้องลืมเขาคนนั้นจนหมดสิ้น (ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้) หรือรอแผลสมานจนหายดี ไม่เป็นไร เธอเยียวยาตัวเองไปพร้อมๆ กับเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้เช่นกัน
หัวใจของเธอใหญ่มากพอที่จะบรรจุเรื่องราวเก่าๆ และเปิดออกเพื่อต้อนรับผู้คนใหม่ๆ
ขอให้เธอมองเห็น 'ความเจ็บปวด' เป็นสิ่งนอกตัว ไม่ใช่สิ่งที่หลอมรวมไปอยู่ในตัวตนของเธอ มาได้ ก็ไปได้ อย่าเหนี่ยวรั้งมันไว้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
แต่เธอต้องช่วยเหลือตัวเองในการทำให้ความเจ็บปวดนี้ไม่ติดตรึงอยู่กับตัวเธอไปตลอดกาล
ผู้คนบนโลกนี้ล้วนต้องผ่านภาวะใจสลายด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ชีวิตเราไม่จำเป็นต้องสลายไปพร้อมหัวใจ ฟื้นฟูมันขึ้นมาใหม่ เริ่มต้นใหม่
ผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราจะมีหัวใจที่แข็งแรงขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น ยอมรับเรื่องร้ายได้ดีขึ้น
เมื่อเธอผ่านเรื่องนี้ไปได้จริงๆ อย่างงดงาม วันหนึ่ง เธอจะหันมองมันแล้วยิ้มให้ตัวเอง ขอบคุณเหตุการณ์นี้ ขอบคุณตัวเองที่พาตัวเองผ่านพ้นมันมาได้
ใช่, ยังมีรอยยิ้มใหม่ๆ ที่เกิดจากผู้คนใหม่ๆ เหตุการณ์ใหม่ๆ รออยู่ในอนาคต
ค่อยๆ ผ่านเหตุการณ์นี้ไป
เป็นกำลังใจให้นะ