[แปล] เรื่องเล่าจากทีมงานชาวญี่ปุ่นที่ได้ทำงานร่วมกับซานะ
.
.
(เป็นคนละเรื่องกับโพสต์ก่อนนะคะ ช่วงนี้ก็จะมีคนออกมาปกป้องซานะเยอะหน่อย ^^)
.
.
นี่เป็นเรื่องราวของฉัน ตอนที่ฉันได้ทำงานให้กับทไวซ์ในงานอีเว้นท์งานหนึ่งที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปีก่อนๆ ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้มาตลอดหลายปี เพราะกลัวว่าถ้าเล่าแล้วจะมีคนรู้ว่าฉันเป็นใคร แต่เพราะทนเห็นซานะอ่อนแอแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะเล่าเรื่องนี้เท่าที่จะไม่กระทบถึงตัวเองก็แล้วกัน
.
.
.
โอเค บอกไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงแค่ซานะอย่างเดียวนะ #WeLoveYouSana
.
.
.
ในวันนั้น หน้าที่ของฉันคือ "ดูแลคนในแถว" ให้กับซานะ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่ามันเป็นงานแบบไหน ก็ลองเสิร์ชหาดูนะ ซานะคุยกับเมเนเจอร์ทั้งชาวเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างสนิทสนมและเป็นกันเอง ภาษาเกาหลีของเธอดีมากจริงๆ
.
.
.
ตอนที่เธอพูดคุยกับแฟนคลับ เธอจะส่งยิ้มอ่อนโยนให้พวกเขาทุกคนไปทีละคน และดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากที่ได้ทำแบบนั้น แต่ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นงานของเธอ พอมองในจุดๆ นี้ มันก็เป็นเรื่องธุรกิจตามธรรมดาของไอดอลทุกคน
.
.
แต่สำหรับซานะ แม้ตอนที่เธออยู่ในที่ที่ไม่มีแฟนๆ ห้อมล้อม เธอก็ไม่เคยพูดอะไรที่เป็นแง่ลบอย่างเช่น "เหนื่อยอ่ะ", "อยากกลับบ้าน" หรืออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง ตรงกันข้ามเรื่องที่เธอพูดกลับเป็นแบบ "เพราะวันนี้ฝนตกหนัก แฟนคลับก็เลยต้องถือร่มมาด้วย ดูเหมือนมันจะลำบากสำหรับพวกเค้านะคะ" หรือไม่ก็ "วันนี้ แฟนคลับพลังงานเยอะสุดๆ เลยค่ะ" หรือไม่เธอก็จะฮัมเพลงตามเพลงที่เปิดในงาน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้สร้างภาพเลยสักนิด
.
.
.
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ในระหว่างงาน ถ้าเธอเห็นแฟนคลับต้องลำบากกับอะไรสักอย่างอยู่ เธอก็จะคุยเรื่องนี้กับเมเนเจอร์ชาวญี่ปุ่นทันที เธอจะเสนอทางที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาให้แฟนคลับได้ "ถ้าเราทำแบบนั้นน่าจะดีกว่ามั้ยคะ?" เธอเป็นคนที่คิดถึงแฟนคลับมากเลยนะ
.
.
.
จริงๆ แล้ว เพราะฉันเป็นแค่ทีมงานชั่วคราว ก็เลยไม่ควรจะเข้าไปคุยกับศิลปิน แต่ซานะเข้ามาชวนฉันคุยก่อน มันเป็นบทสนทนาที่เกี่ยวกับวัยเด็กของเรา ตอนนั้นเธอถามว่า "ตอนพวกเรายังเด็กๆ กันโกะจังน่ะดังมากเลยเนอะ" ฉันไม่คิดจริงๆ นะว่าเธอจะมาชวนฉันคุยก่อน นอกจากความประหลาดใจแล้ว ในเวลาเดียวกันนั้นฉันก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า พวกแอนตี้ที่หาเรื่องด่าเธอนี่
ไม่ควรให้อภัยมันเลยจริงๆ
.
.
.
ตอนที่งานอีเว้นท์นั้นจบลง และแฟนๆ ต่างก็ออกจากสถานที่จัดงานไปหมดแล้ว เมมเบอร์ทั้ง 9 คนของทไวซ์เข้ามาหาทีมงานและโค้งให้ "วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะ" ทีมงานตกใจกันมาก พวกเธอไม่จำเป็นต้องลงทุนเดินมาตั้งไกลเพียงเพื่อมาโค้งให้ทีมงานชั่วคราวอย่างพวกเรา นั่นเป็นครั้งแรก....ครั้งแรกเลยจริงๆ ที่มีศิลปินทำแบบนี้ให้เรา
.
.
.
ถ้าคุณจะถามว่าฉันพยายามจะบอกอะไรกันแน่ ก็บอกเลยว่าฉันไม่ได้หมายถึงแค่ดราม่าล่าสุดนะ แต่ที่ผ่านมาทไวซ์ดูเหมือนจะตกเป็นเป้าหมายสำคัญของพวกแอนตี้ ทั้งๆ ที่พวกเธอเป็นแค่กลุ่มเด็กผู้หญิงที่จิตใจดีมากๆ ซานะก็ด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงโดยไม่ได้เสแสร้ง ฉันรักซานะตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และหวังว่าซานะจะกลับมาเหมือนเดิมได้โดยเร็ว
#WeLoveYouSana
Eng : Sanatanslator
แปลไทย : Hazelchousana
หมายเหตุ : 1. อ่านจากเรื่องเล่าแล้วงานที่คนเล่าไปทำ น่าจะเป็นงานไฮทัชของทไวซ์
2. กันโกะจัง ค้นกูเกิลแล้วเป็นการ์ตูนค่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2332431597031166&id=2039488552992140
[แปล] เรื่องเล่าจากทีมงานชาวญี่ปุ่นที่ได้ทำงานร่วมกับซานะ
.
.
(เป็นคนละเรื่องกับโพสต์ก่อนนะคะ ช่วงนี้ก็จะมีคนออกมาปกป้องซานะเยอะหน่อย ^^)
.
.
นี่เป็นเรื่องราวของฉัน ตอนที่ฉันได้ทำงานให้กับทไวซ์ในงานอีเว้นท์งานหนึ่งที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปีก่อนๆ ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้มาตลอดหลายปี เพราะกลัวว่าถ้าเล่าแล้วจะมีคนรู้ว่าฉันเป็นใคร แต่เพราะทนเห็นซานะอ่อนแอแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ฉันก็เลยตัดสินใจว่าจะเล่าเรื่องนี้เท่าที่จะไม่กระทบถึงตัวเองก็แล้วกัน
.
.
.
โอเค บอกไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงแค่ซานะอย่างเดียวนะ #WeLoveYouSana
.
.
.
ในวันนั้น หน้าที่ของฉันคือ "ดูแลคนในแถว" ให้กับซานะ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่ามันเป็นงานแบบไหน ก็ลองเสิร์ชหาดูนะ ซานะคุยกับเมเนเจอร์ทั้งชาวเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างสนิทสนมและเป็นกันเอง ภาษาเกาหลีของเธอดีมากจริงๆ
.
.
.
ตอนที่เธอพูดคุยกับแฟนคลับ เธอจะส่งยิ้มอ่อนโยนให้พวกเขาทุกคนไปทีละคน และดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากที่ได้ทำแบบนั้น แต่ก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะมันเป็นงานของเธอ พอมองในจุดๆ นี้ มันก็เป็นเรื่องธุรกิจตามธรรมดาของไอดอลทุกคน
.
.
แต่สำหรับซานะ แม้ตอนที่เธออยู่ในที่ที่ไม่มีแฟนๆ ห้อมล้อม เธอก็ไม่เคยพูดอะไรที่เป็นแง่ลบอย่างเช่น "เหนื่อยอ่ะ", "อยากกลับบ้าน" หรืออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง ตรงกันข้ามเรื่องที่เธอพูดกลับเป็นแบบ "เพราะวันนี้ฝนตกหนัก แฟนคลับก็เลยต้องถือร่มมาด้วย ดูเหมือนมันจะลำบากสำหรับพวกเค้านะคะ" หรือไม่ก็ "วันนี้ แฟนคลับพลังงานเยอะสุดๆ เลยค่ะ" หรือไม่เธอก็จะฮัมเพลงตามเพลงที่เปิดในงาน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้สร้างภาพเลยสักนิด
.
.
.
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ในระหว่างงาน ถ้าเธอเห็นแฟนคลับต้องลำบากกับอะไรสักอย่างอยู่ เธอก็จะคุยเรื่องนี้กับเมเนเจอร์ชาวญี่ปุ่นทันที เธอจะเสนอทางที่อาจจะช่วยแก้ปัญหาให้แฟนคลับได้ "ถ้าเราทำแบบนั้นน่าจะดีกว่ามั้ยคะ?" เธอเป็นคนที่คิดถึงแฟนคลับมากเลยนะ
.
.
.
จริงๆ แล้ว เพราะฉันเป็นแค่ทีมงานชั่วคราว ก็เลยไม่ควรจะเข้าไปคุยกับศิลปิน แต่ซานะเข้ามาชวนฉันคุยก่อน มันเป็นบทสนทนาที่เกี่ยวกับวัยเด็กของเรา ตอนนั้นเธอถามว่า "ตอนพวกเรายังเด็กๆ กันโกะจังน่ะดังมากเลยเนอะ" ฉันไม่คิดจริงๆ นะว่าเธอจะมาชวนฉันคุยก่อน นอกจากความประหลาดใจแล้ว ในเวลาเดียวกันนั้นฉันก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า พวกแอนตี้ที่หาเรื่องด่าเธอนี่ไม่ควรให้อภัยมันเลยจริงๆ
.
.
.
ตอนที่งานอีเว้นท์นั้นจบลง และแฟนๆ ต่างก็ออกจากสถานที่จัดงานไปหมดแล้ว เมมเบอร์ทั้ง 9 คนของทไวซ์เข้ามาหาทีมงานและโค้งให้ "วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะ" ทีมงานตกใจกันมาก พวกเธอไม่จำเป็นต้องลงทุนเดินมาตั้งไกลเพียงเพื่อมาโค้งให้ทีมงานชั่วคราวอย่างพวกเรา นั่นเป็นครั้งแรก....ครั้งแรกเลยจริงๆ ที่มีศิลปินทำแบบนี้ให้เรา
.
.
.
ถ้าคุณจะถามว่าฉันพยายามจะบอกอะไรกันแน่ ก็บอกเลยว่าฉันไม่ได้หมายถึงแค่ดราม่าล่าสุดนะ แต่ที่ผ่านมาทไวซ์ดูเหมือนจะตกเป็นเป้าหมายสำคัญของพวกแอนตี้ ทั้งๆ ที่พวกเธอเป็นแค่กลุ่มเด็กผู้หญิงที่จิตใจดีมากๆ ซานะก็ด้วย เธอเป็นผู้หญิงที่ร่าเริงโดยไม่ได้เสแสร้ง ฉันรักซานะตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และหวังว่าซานะจะกลับมาเหมือนเดิมได้โดยเร็ว
#WeLoveYouSana
Eng : Sanatanslator
แปลไทย : Hazelchousana
หมายเหตุ : 1. อ่านจากเรื่องเล่าแล้วงานที่คนเล่าไปทำ น่าจะเป็นงานไฮทัชของทไวซ์
2. กันโกะจัง ค้นกูเกิลแล้วเป็นการ์ตูนค่ะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2332431597031166&id=2039488552992140