บทความตามใจฉัน Message in Music: Toui sora he

บทความตามใจฉัน Message in Music: Toui sora he

เพลงประกอบ คือ เพลงที่ถูกเล่นเพื่อประกอบฉาก, ขับเน้นบรรยากาศ,

เนื้อหา, หรือสื่อถึงเรื่องราวหรืออารมณ์ของตัวละคร

เพลงประกอบนั้นมีทั้งแบบที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะหรือเพลงที่เคยมีอยู่แล้วถูกนำมาใช้

เพลงประกอบถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ

- เพลงที่มีเนื้อร้อง
มักถูกใช้ให้ตัวละครในเรื่องร้องเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว, เป็นเพลงเปิดเพื่อเริ่มการแสดงหรือเพื่อประกอบฉาก

- เพลงที่มีแต่เครื่องดนตรี มีชื่อเรียกที่ไม่ค่อยแพร่หลายว่า Score แต่รู้จักกันดีในชื่อ OST (Original Sound Track) หรือ BGM (Back Ground Music) ส่วนใหญ่มักถูกใช้เป็นเพื่อประกอบฉากแต่ก็พบว่าบางครั้งก็ถูกใช้เป็นเพลงเปิดการแสดง


ในไทยนั้น หากพูดถึงเพลงประกอบมักหมายถึงเพลงที่มีเนื้อร้องเสียมากเพราะผู้กำกับสามารถสื่อความหมายได้ง่ายกว่า,

ผู้ฟังก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องตีความและเพลงเองก็สามารถนำไปต่อยอดทางการตลาดได้ เช่น ออกมิวสิกวิดีโอ,  ขายไฟล์เพลง, ร้องเพลงออกคอนเสิร์ต

ความนิยมของคนไทยในเพลงประกอบที่มีแต่เครื่องดนตรีนั้นผู้เขียนยังไม่พบข้อมูลว่าเริ่มต้นอย่างไรแต่พบว่าในไทยเองก็มีเพลงประกอบที่มีแต่เครื่อง

ดนตรีมานานแล้วเช่น “เพลงหน้าพาทย์” ที่เป็นการเล่นเครื่องดนตรีไทยประกอบการแสดงโขน

แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้นส่วนใหญ่มักนิยมเพลงประกอบด้วยเครื่องดนตรีสากลมากกว่าเพราะเข้าถึงได้ง่ายและคุ้นชินมากว่าเนื่องจากได้รับชมสื่อบันเทิงจาก

ต่างประเทศที่มีเพลงประกอบเล่นด้วยเครื่องดนตรีสากลมานานอย่างต่อเนื่องเช่น ภาพยนตร์, เกมคอมพิวเตอร์, อนิเมชั่น

จึงทำให้เกิดกลุ่มคนที่ชื่นชอบฟังเพลงประเภทนี้ขึ้นมา

 

แต่จุดที่ทำให้พบว่ามีผู้ที่สนใจฟังเพลงแบบ Score

ในไทยจำนวนไม่น้อยคือการมาของละครดังเรื่อง “เลือดข้น คนจาง” ที่ใช้เพลงแบบ  Score

เล่นด้วยเครื่องดนตรีสากลเป็นเพลงเปิดและเพลงประกอบซึ่งได้รับการยอมรับพร้อมเสียงชื่นชมไม่น้อย

และด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลงประกอบแบบ Score

เช่นกันจึงขอเปิดบทความตามใจฉัน หัวใหม่ ชื่อ “Message in Music”

เพื่อแนะนำเพลงประกอบที่น่าสนใจให้ผู้อ่านได้ทดลองฟังรวมถึงอธิบายความหมายที่อยู่ในเพลงที่ผู้แต่งเพลงและผู้กำกับพยามยามจะสื่อถึงผู้ฟัง

ตามมุมมองของผู้เขียน

 
บทความ “Message in Music” นั้น ที่จริงผู้เขียนมีความคิดที่จะเขียนนานแล้วแต่ติดปัญหาอยู่ที่

“จะเอาเพลงอะไรมาเขียนถึงเป็นเพลงแรกดี”

โดยผู้เขียนตั้งใจว่าเพลงแรกนั้นอยากจะเขียนถึงเพลงที่สื่ออารมณ์ของ “การเริ่มต้น” แต่เพลงที่สื่ออารมณ์แบบนี้นั้นมีอยู่หลายเพลงมาก

สุดท้าย ผู้เขียนจึงตัดสินใจเลือกเพลง Toui sora he จากอนิเมชั่น Yosuga no Sora มาเป็นเพลงแรกของ Message in Music


Yosuga no Sora ถูกสร้างขึ้นในฐานะ Visual novel สำหรับผู้ใหญ่ แนว โรแมนติก ดราม่า ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2008

และถูกดัดแปลงเป็นอนิเมชั่นออกฉายครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2010 โดยได้ Rate R15 ที่ญี่ปุ่นและ MA (mature audience   = สำหรับผู้ใหญ่) ที่อเมริกา

เพลงประกอบฉบับอนิเมชั่นประพันธ์โดย Manabu Miwa (นามปากกา Manack) และ Bruno-Wen Li.

Yosuga no Sora เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองพี่น้องฝาแฝดที่พ่อและแม่พึ่งเสียชีวิต

หลังจากจัดแจงอะไรต่าง ๆ แล้วทั้งคู่จึงเดินทางกลับไปยังเมืองบ้านเกิดของพ่อแม่ที่ซึ่งฝาแฝดเคยใช้ชีวิตในสมัยยังเด็ก

เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งโดยมีกันเพียงสองพี่น้อง

สำหรับผู้ที่อยากฟังเพลงก่อนที่จะอ่านการตีความของผม

สามารถกดฟังได้ที่ Link ข้างล่างนี้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=inEvh-I0buI

ส่วนคนที่อยากอ่านก่อน ผู้เขียนจะวาง Link ไว้ให้ที่บรรทัดสุดท้ายของบทความอีกครั้ง


ในฉบับอนิเมชั่นนั้น Toui sora he นั้นเป็นเพลงแรกที่ถูกเล่นเมื่อเริ่มเรื่อง

โดยรวมเพลงนั้นให้อารมณ์ของการเริ่มต้นและการเดินทางโดยเพลงนั้นสื่ออารมณ์ด้วยเครื่องดนตรีหลัก ๆ สามประเภท

ความโดดเดียว,ความกังวล สื่อด้วยเปียนโน
ความเศร้า สื่อด้วยไวโอลีน
ความฝันและความหวัง สื่อด้วยฮาร์ฟ

ในท่อนแรกของเพลง

ท่อน intro นั้นจะสื่อถึงความโดดเดียวและความกังวลเป็นสิ่งที่ใครที่เคยเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป,

สถานที่ที่ห่างไกล น่าจะเคยรู้สึกบ้างและไม่จำเป็นต้องเป็นการเดินทางเสมอไป

เพราะเพลงนี้เองก็ใช้ได้กับการเริ่มต้นไม่รู้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร เช่น การเริ่มทำงานวันแรกหรือการย้ายไปโรงเรียนใหม่วันแรก


หลังจากนั้น เพลงจะเข้าสู่ท่อนที่สองซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็นท่อน Hook ของเพลง

 ดนตรีจะเริ่มโหมดังขึ้นช้า ๆ Main ด้วยไวโอลีนและฮาร์ปคลอด้วยเปียนโนและฉาบคู่

ฮาร์ปให้อารมณ์ของความหวัง หวังว่าจะได้พบสิ่งดี ๆ ในเส้นทางที่กำลังจะมุ่งไป ที่น่าสนใจคือมีการใช้ฉาบคู่แบบเบา ๆ ทำให้เพลงมีอารมณ์แบบอบอุ่นแฝงอยู่

ส่วนไวโอลีนสื่อความเศร้าที่ยังแฝงอยู่

ในอนิเมชั่นตอนแรกของเรื่องเพลงนี้จะถูกใช้ถึงแค่ตรงนี้

ในเพลงเต็ม จุดนี้จะต่อด้วยท่อนที่เรียกว่า Bridge เพื่อเชื่อมต่อกับเพลงในท่อน Hook ที่ 2  ในท่อนนี้จะเป็นเล่นด้วยเปียนโนเป็นหลักคลอด้วยฮาร์ป


จุดเด่นที่สุดในการใช้เพลงนี้ของผู้กำกับคือการใช้เพลงนี้อีกครั้ง ในตอนสุดท้ายของซีรีย์

อย่างที่กล่าวไปว่าเพลงนี้คือเพลงที่ให้อารมณ์ของการเริ่มต้นและการเดินทาง

แต่สิ่งที่ผู้กำกับต้องการสื่อคือ

การเริ่มต้นไม่ได้หมายความว่าสุดท้ายคือการสิ้นสุด
การเดินทางไม่ได้หมายความว่าสุดท้ายคือการถึงที่หมายปลายทาง

บางครั้งการเริ่มต้นก็นำไปสู่การเริ่มต้นอีกครั้งเหมือนกับการเดินทางที่บางครั้งก็นำไปสู่การเดินทางอีกครา

ผู้กำกับใช้เพลงนี้อีกครั้งในช่วงปัจฉิมบทของตอนสุดท้ายโดยใช้แบบเต็มทั้งเพลง

ซึ่งลำดับของเรื่องนั้นผู้กำกับจงใจจะใช้ใช้ท่อน Hook ที่ 2 เป็น Finale ของเรื่อง

โดยท่อน Hook ที่ 2 จะค่อย ๆ โหมขึ้นด้วยฮาร์ปแล้วเล่นด้วยทำนองที่คล้ายกับ Hook ที่ 1

แต่ดังกว่า จุดเด่นคือไวโอลีนไม่ได้สื่ออารมณ์ความเศร้าอีกแล้วแต่กลับเปี่ยมไปด้วยความฝันและความหวังเช่นเดียวกับฮาร์ป

เช่นเดียวกับเรื่องราวในไคลแม็กซ์สุดท้าย แต่ผู้เขียนก็ยังรู้สึกว่ายังมีความเศร้าปนอยู่บ้าง

ตามด้วย Breakdown สั้น ๆ ด้วยฮาร์ปและไวโอลีนเพื่อดึงอารมณ์ผู้ฟัง

และในท่อนสุดท้าย Outro ก็ปิดด้วยเปียนโนโซโล่ที่สื่อถึงความโดดเดียวและความกังวลของตัวละครอีกครั้ง

แต่ก็รู้สึกได้ว่าแม้จะโดดเดียวและกังวลแต่ก็มีความสุขด้วยเช่นกัน  


อันที่จริง Toui sora he

เป็นเพลงที่อยากจะนำมาเขียนถึงเป็นเพลงแรกอยู่นานแล้วแต่ใจนึงจะไม่อยากให้เพลงแรกที่เขียนเป็นเพลงที่มีความโศกเศร้าผสมอยู่

แต่สุดท้ายผู้เขียนก็ยอมรับว่าไม่ว่าอย่างไรเพลงนี้ไพเราะเหมาะสมที่จะเป็นเพลงแรกใน “Message in Music” อยู่ดี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”

โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น

ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ https://www.facebook.com/uptomejournal/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่