นางพเยาว์ มริตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2551 เพื่อเรียกร้องให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชำระเงินส่วนต่างรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ 29 ส.ค.2546 กับอัตราค่าผ่านทางที่ถูกต้องตามสัญญานั้น
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับทราบคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 22 เม.ย.2552 โดยคณะอนุญาโตตุลาการได้มีมติเอกฉันท์ชี้ขาดให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัทประกอบด้วย 1.ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 1,048.23 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ศรีรัช ส่วน D ช่วงถนนรัชดาภิเษก-ศรีนครินทร์ปี 2546) ข้อ 25.6 ของต้นเงินค่าเสียหายจำนวน 914.35 ล้านบาท 2.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ 29 ส.ค.2546 กับส่วนแบ่งที่บริษัทมีสิทธิจะได้รับตามสัญญา โดยคำนวณตามจำนวนรถยนต์แต่ละประเภทที่ใช้ทางตามจริง
ก่อนหน้านี้ กทพ.ก็ได้แพ้คดีข้อพิพาทกับ BEM จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2561 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ กทพ. จ่ายค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทลูกของ BEM เป็นเงินกว่า 4,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 คณะอนุญาโตตุลาการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายแก่ BEM เป็นเงินต้น 7,909.59 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จำนวนรวมทั้งหมด 9,091.79 ล้านบาท เนื่องจากไม่ให้ BEM ปรับขึ้นค่าผ่านทางทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัช ตามผลการศึกษาและสัญญาที่ระบุไว้.
ที่มา:
https://www.thairath.co.th/news/business/1557528
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งวดนี้ค่าเสียหาย 1,048.23 ล้านบาท ดอกเบี้ย 914.35 ล้านบาท ดอกเบี้ยจะวิ่งทบต้นแล้ว ยิ่ง กทพ. ยังยึกยักไม่ต่อสัญญาสัมปทานแบบนี้ ดอกเบี้ยก็วิ่งทุกวันพรุ่งนี้มาลุ้นกันว่าตลาดเปิด BEM จะวิ่งรึปล่าว
ชนะอีกแล้ว!!! อนุญาโตตุลาการมติเอกฉันท์ให้ กทพ. จ่ายชดเชย BEM อีก 2,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับทราบคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 22 เม.ย.2552 โดยคณะอนุญาโตตุลาการได้มีมติเอกฉันท์ชี้ขาดให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัทประกอบด้วย 1.ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 1,048.23 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ศรีรัช ส่วน D ช่วงถนนรัชดาภิเษก-ศรีนครินทร์ปี 2546) ข้อ 25.6 ของต้นเงินค่าเสียหายจำนวน 914.35 ล้านบาท 2.ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ 29 ส.ค.2546 กับส่วนแบ่งที่บริษัทมีสิทธิจะได้รับตามสัญญา โดยคำนวณตามจำนวนรถยนต์แต่ละประเภทที่ใช้ทางตามจริง
ก่อนหน้านี้ กทพ.ก็ได้แพ้คดีข้อพิพาทกับ BEM จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2561 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ กทพ. จ่ายค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทลูกของ BEM เป็นเงินกว่า 4,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2561 คณะอนุญาโตตุลาการมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ กทพ.ชดใช้ค่าเสียหายแก่ BEM เป็นเงินต้น 7,909.59 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จำนวนรวมทั้งหมด 9,091.79 ล้านบาท เนื่องจากไม่ให้ BEM ปรับขึ้นค่าผ่านทางทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัช ตามผลการศึกษาและสัญญาที่ระบุไว้.
ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/business/1557528
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งวดนี้ค่าเสียหาย 1,048.23 ล้านบาท ดอกเบี้ย 914.35 ล้านบาท ดอกเบี้ยจะวิ่งทบต้นแล้ว ยิ่ง กทพ. ยังยึกยักไม่ต่อสัญญาสัมปทานแบบนี้ ดอกเบี้ยก็วิ่งทุกวันพรุ่งนี้มาลุ้นกันว่าตลาดเปิด BEM จะวิ่งรึปล่าว