สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ
กระทู้นี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์เที่ยวที่จังหวัด ”ราชบุรี” ใน 1 วัน ของผมกับคุณแฟนซึ่งไปมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 เมษายน 2562)
...แผนการเดินทางคิดล่วงหน้าคืนวันเสาร์ ออกเดินทางเช้าวันอาทิตย์ รู้แค่ว่าจะไปไหน ส่วนจะได้อะไร ...หาเอาข้างหน้าครับ
***เนื่องจากเป็นการนึกอยากเที่ยวแบบฉุกเฉิน ภาพหรือเนื้อหาที่นำมาลงอาจไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์นัก แต่จะพยายามเล่าให้ครบที่สุดครับ***
***แผนการเดินทาง***
- วัดถ้ำน้ำ
- วัดถ้ำสติ
- ร้าน Secret Space
- วัดอรัญญิกาวาส
- อุทยานหินเขางู
- จุดชมวิวเขาแก่นจันทร์
- ตลาดเก่าโคยกี๊
***ภาพในกระทู้ถ่ายจากกล้อง Panasonic Lumix GX-85 เลนส์ Panasonic 20mm f/1.7, Voigtlander Color Ultron 50mm (มือหมุน)***
เริ่มต้นเดินทาง
...เราเริ่มออกเดินทางจากปทุมธานีประมาณ 7.00น. มุ่งหน้าไปยังวัดถ้ำน้ำซึ่งเป็นที่แรกที่เราจะไปกันในทริปนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงวัดถ้ำน้ำแล้วครับ
...วัดถ้ำน้ำตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ดูจากด้านนอกวัดก็เหมือนวัดธรรมดาทั่วไป แต่ที่วัดแห่งนี้มีถ้ำซึ่งภายในถ้ำนั้นมีขนาดใหญ่และมีน้ำไหลผ่านภายในถ้ำตลอดเวลา ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้เราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
...ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งพบกับความยื่งใหญ่อลังการ ทั้งขนาด ความสวยงามของหินงอกหินย้อย และแสงสีที่ทางวัดจัดไว้
...เดินชมจนทั่วก็ได้เวลาไปยังที่ต่อไป ซึ่งจะบอกว่าทางเข้าวัดนั้นจะเป็นพื้นที่ของลิงใหญ่น้อยจำนวนมาก ขับรถก็ระวังเจ้าลิงกันด้วยนะครับ และในพื้นที่ของวัดห้ามนำอาหารไปให้ลิงนะครับ
..เสร็จจากวัดถ้ำน้ำก็มาถึงวัดป่าพุทธาราม (ถ้ำสติ) ซึ่งอยู่อยู่ในต.นางแก้ว อ.โพธารามเหมือนกัน ขับรถไปแอร์ไม่ทันเย็นก็ถึงแล้วครับ ซึ่งแน่นอนครับ ลงรถก็มุ่งเข้าถ้ำกันเลย
...ภายในถ้ำสตินั้นไม่ได้ใหญ่โตเหมือนวัดถ้ำน้ำ แต่ภายในมีพระพุทธรูปหินแกรนิตแกะสลักจากผนังถ้ำขนาดใหญ่ปางปฐมเทศนาประดิษฐานอยู่ สวยงามมากครับ
...เสร็จแล้วออกจากถ้ำสติเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป
…ถึงตอนนี้แดดก็เริ่มทำงานด้วยความขันแข็ง เผาผิวกันตั้งแต่ตอนสายๆ เลยทีเดียว XD
...จากวัดถ้ำสติ เราไปกันต่อที่วัดขนอน ตั้งอยู่ที่ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม ซึ่งเพื่อนๆ น่าจะทราบดีว่าเป็นสถานที่อนุรักษ์หนังใหญ่ซึ่งเป็นศิลปะวัฒนธรรมไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เลยถือโอกาสมาเยี่ยมชมกันครับ ภายในวัดจะมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ที่จะให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวที่มาด้วยครับ
...นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีการแสดงหนังใหญ่ให้ได้ชมอีกด้วย ซึ่งหยิบยกบางส่วนของเรื่องรามเกียรติ์ มองดูผู้แสดงแทบทั้งหมดเป็นเด็ก + วัยรุ่น รู้สึกปลื้มที่คนรุ่นใหญ่ยังสืบสานศิลปะวัฒนธรรมที่สวยงามแบบนี้กันอยู่
...จากวัดขนอนก็ได้เวลาข้าวเที่ยง เรามุ่งหน้าไปที่ร้าน Secret Space ซึ่งขับรถจากวัดขนอนประมาณ 20 นาทีก็จะถึงร้าน หลังจากจอดรถแบกความหิวทั้งข้าวทั้งความหวังจะเดินตัวปลิวละลิ่วเข้าไปตากแอร์โดยไว แต่ลงรถเห็นป้ายก็อ๋อ...ร้านนี้ไม่ได้เข้าง่ายอย่างที่คิดนะ
...ใช่ครับ เพื่อนๆ เห็นไม่ผิด เราจะต้องผ่านเขาวงกตก่อนที่จะถึงตัวร้าน ดีเหมือนกันนะมีการลับสมองก่อนเข้าร้าน ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เขาวงกตเองก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร คนปกติเดินเข้าไปประมาณ 1-2 นาทีก็ถึงร้านแล้ว แต่สำหรับสติปัญญาระดับผม เดินวนไปมาท้าแดดให้เผาเล่นไป 5 นาทีกว่าจะได้เข้าร้าน XD
...และแล้วก็ถึงตัวร้านครับ หลังจากเขาวงเกต บริเวณร้านจัดเป็นสวนที่ต้นไม้น้อยใหญ่เยอะดูร่มรื่นดี (ถ้าแดดไม่แรงขนาดนี้ นั่งเสพบรรยากาศด้านนอกน่าจะเพลินไม่น้อย) ภายในเป็นห้องแอร์ มีขายทั้งเครื่องดื่ม อาหาร ขนม เราสั่งอเมริกาโน่เย็น, อิตาเลี่ยนโซดาสตรอว์เบอรี่, ผัดไทย, ยำทะเลรวม รสชาติโดยรวมก็ใช้ได้ครับ ค่าอาหารอยู่ที่ประมาณ 300 กว่าบาทครับ
...ขาออกกำลังจะไปรถ ย้อนกลับมามองป้ายอีกทีนึง ...คราวหน้าเราจะเข้าไปถึงร้านให้เร็วกว่าเดิม ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
...หลังจากอิ่มมื้อเที่ยงแล้วก็ได้เวลาโบกมือลาอ.โพธารามแล้ว เพราะเรากำลังจะเข้าสู่อ.เมือง จุดหมายที่เราจะไปนั่นก็คือ วัดอรัญญิกาวาสครับ วัดนี้มีสิ่งที่น่าสนใจคือปรางค์ขอม-เขมรสร้างสมัยประมาณศตวรรษที่ 10 ถึง 16 และมีพระนอนขนาดใหญ่สร้างเมื่อพ.ศ. 2030 - พ.ศ. 2035 เดิมเป็นหินทรายแดง ได้มีการบูรณะใหม่โดยการสร้างครอบองค์จริงเป็นองค์สีทอง ตอนไปถึงวัดนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น เลยได้ถ่ายรูปอย่างสะดวกสบายครับ
...จากวัดอรัญญิการามเราไปกันต่อที่อุทยานหินเขางู ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก อุทยานหินเขางูเดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินปูนที่สำคัญของประเทศไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เวลาต่อมาได้ยกเลิกสัมปทานเนื่องจากภาครัฐและประชาชนเล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพพื้นที่ อีกทั้งเขางูเป็นศาสนสถานเก่าแก่ หลังยกเลิกสัมปทานเขางูกลายเป็นพื้นที่ร้าง ทางจังหวัดจึงได้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป ในบริเวณเขางูมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญคือ ถ้ำฤาษี ถ้ำฝาโถ และถ้ำจีน-จาม แต่ด้วยเวลาที่เราไปถึงตอนบ่ายอากาศร้อนมาก เราเลยไปไม่ได้ไปแค่บริเวณสวนสาธารณะเท่านั้นครับ ความจริงคือเราควรมาถึงตอนเย็นน่าจะบรรยากาศดีนะครับ
…หลังจากเสพอากาศร้อนๆ จนสาแก่ใจ ก็ได้เวลาไปพึ่งเย็นบ้างแล้วล่ะ หันหน้ารถเข้าเมืองมุ่งหน้าสู่หอศิลป์ร่วมสมัย Tao Hong Tai d’kunst (ดีคุ้น) เป็นหอศิลป์ร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัด ภายในมีทั้งร้านกาแฟ และส่วนที่แสดงงานของศิลปินต่างๆ ด้วย ใครสนใจงานศิลปะก็มาเยี่ยมเยือนกันได้ครับ
...นั่งดื่มกาแฟ เดินชมงานศิลปะ หมุนไปหมุนมาหลายรอบ รู้สึกจะนั่งที่เดิมต่อไปไม่ได้ ก็ได้เวลาขยับกายาขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่เขาแก่นจันทร์กัน เขาแก่นจันทร์เป็นเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดราชบุรี มีความสูงประมาณ 141 เมตร ด้านบนยอดเขามีวิหารซึ่งประดิษฐาน “พระพุทธนิโรคันตราชัยวัฒน์จตุรทิศ” หรือ “พระสี่มุมเมือง” เป็นพระ 1 ใน 4 องค์ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น แล้วพระราชทานให้ไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองต่างๆ 4 เมือง ได้แก่ จ.ราชบุรี จ.ลำปาง จ.สระบุรี และจ.พัทลุง ภายในวิหารมีภาพเขียนที่บอกเล่าเรื่องราวของพระสี่มุมเมืองนอกจากเป็นที่ประดิษฐานพระสี่มุมเมืองแล้วยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองราชบุรีแบบ 360 องศาอีกด้วย ถ้าตั้งใจมาเก็บภาพ แนะนำให้มาตอนช่วงพระอาทิตย์ตก จะได้ภาพที่สวยงามมากครับ ...ฝากนิดนึงสำหรับเพื่อนๆ ที่จะขับรถขึ้นไปบนเขานะครับ เนื่องจากเขาแก่นจันทร์นอกจากมีสวนสาธารณะแล้ว เส้นทางขึ้นยอดเขาเป็นสถานที่ที่ประชาชนใช้วิ่งออกกำลังกาย และเส้นทางเป็นโค้งหักศอก อยากให้เพื่อนๆ ที่ไปเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เส้นทางเพื่อความปลอดภัยของทุกคนด้วยครับ
เที่ยว 1 วัน ณ ราชบุรี ฉบับสู้แดด
กระทู้นี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์เที่ยวที่จังหวัด ”ราชบุรี” ใน 1 วัน ของผมกับคุณแฟนซึ่งไปมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 เมษายน 2562)
...แผนการเดินทางคิดล่วงหน้าคืนวันเสาร์ ออกเดินทางเช้าวันอาทิตย์ รู้แค่ว่าจะไปไหน ส่วนจะได้อะไร ...หาเอาข้างหน้าครับ