ถามคุณหมอทางเดินอาหารและอายุรกรรมครับ

อาการของโรค

19 กุมภาพันธ์ เริ่มมีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด แน่นท้อง และมีอาการท้องผูก
การขัยถ่ายไม่เป็นปกติคือ ถ่ายทุกวันเหมือนเดิม แต่อุจจาระออกน้อยมาก และเส้นเล็ก
และมีอาการคลื่นไส้ ผะอืดผะอมในการกินอาหาร แต่ก็มีความอยากอาหารอยู่ตลอด
(ในระหว่างวันที่ 21-26 กพ. พยายามกินอาหาร ผลไม้ ชาฟิตเน่
ที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น)
**อาหารที่กินในวันที่ 18 กพ หลักๆ คือ บุฟเฟ่ห์อาหารญี่ปุ่น และโฮลการ์เด้น rose 7 ขวดเล็ก

ประมาณวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ไปหาหมอ(หมอคนที่1) เนื่องด้วยอาการคลื่นไส้อาเจียน(แต่อาเจียนเป็นลม)
ก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอให้ยาระบายมา วินิจฉัยว่าเป็นท้องผูก แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้น แต่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายดีขึ้นนิดเดียว
อาการแน่นท้องก็ยังคงอยู่ 

2 มีนาคม ไปเที่ยวร้านอาหาร  กินยำผักบุ้งกรอบ เบียร์ 1 แก้ว ชเวป มะนาวโซดา ผัดซาโยเต้ ข้าวผัด สักพักก็ออกอาการ ผะอืดผะอม คลื่นไส้ แน่นท้อง
อาเจียนเป็นลม(ไม่มีอะไรออกมาจากปาก)  4 ทุ่มครึ่งก็เลยออกมาจากร้านและไปหาหมอ(หมอคนที่2)เวลา5ทุ่มกว่าๆ ก็เล่าอาการให้หมอฟัง ตั้งแต่อาการของวันที่ 19 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา หมอก็ได้ทำการตรวจแบบกดท้อง และฟังท้อง หมอไม่ได้บอกคำวินิจฉัยว่าเป็นอะไร แต่ได้ยามาทาน ซึ่งเป็นยารักษาโรคกระเพาะ ซึ่งได้แก่ ยา Ocid , ดอมพ์-เอ็ม(ดอนเพอริโดน) , แอร์เอ็กซ์ และอักตัวหนึ่งจำไม่ได้ครับเป็นยารักษากระเพาะอักเสบ 


4 มีนาคม อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเริ่มปรับพฤติกรรมการกิน(ในที่นี้หมายถึงเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพราะส่วนใหญ่จะรีบกินข้าว) ก็เลยเข้าใจว่า อาการมันดีขึ้นแล้วก็เลยกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ เพราะคิดว่าอาการดีขึ้นแล้ว และเริ่มกินอาหารปกติ เช่น หมูจุ่ม หม่าล่า
เริ่มกลับมากินของเผ็ดและของสุกๆดิบๆ เบียร์/บุหรี่ ชาเขียว


20 มีนาคม 2562 ช่วงเวลาสักประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ  รู้สึกได้ว่าท้องไม่ปกติ เหมือนมีกรด และแก๊ส อาการเหมือนมีลมดันอยู่ท้องด้านขวา   วันนั้นกินข้าวหมูกรอบ และ ชาเขียว(กินตอนท้องว่าง) พอตกเย็นมาก็เลยรู้สึกเหมือนมีอาการแปลกๆ รู้สึกเหมือนมีกรด มีความรู้สึกกังวล เลยเกิดอาการกลัว และนอนไม่ค่อยหลับขึ้นมา


21 มีนาคม 2562 พอตื่นขึ้นก็มีอาการคลื่นไส้ และอยากอาเจียน(แต่อาการไม่ค่อยหนักเท่าไหร่) ก็เลยไปหาหมอ(หมอคนที่3)และเล่าอาการให้ฟัง
หมอ(หมอคนที่3)วิเคราะห์อาการของโรคให้ฟังว่าน่าจะเป็นโรคโรคกระเพาะเลยได้ยาชนิดเดียวกันกับวันที่ 2 มีนาคม(ยาเหมือนหมอคนที่2)มารับประทาน
แต่ไม่ได้ยารักษากระเพาะอักเสบ และเริ่มก็มีอาการเหมือนมีแก๊สบริเวณท้องด้านขวาและกลางหน้าอก แน่นๆ ไม่ได้เป็นตลอด แต่จะมีอาการทุกครั้งหลังจากทานข้าว และอาการเริ่มชัดเจนในวันที่ 23 มีนาคม และ 24 มีนาคม เริ่มมีอาการผะอืดผะอมร่วมด้วย คลื่นไส้ในช่วงเช้าแต่ไม่อาเจียน

จนมาถึง 25 มีนาคม 62 ช่วงเช้าก็ยังมีอาการคลื่นไส้อยู่ ตัดสินใจไปหาหมอ(หมอคนที่ 4) ก็เลยเล่าอาการให้หมอฟัง วิเคราะห์อาการว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะ ก็เลยได้ยาชนิดเดิมมาทานอีก(แต่ไม่มียารักษากระเพาะอาหารอักเสบ) แต่หมอให้มาแบบระยะยาว(ในช่วงวันที่ 23-24-25 มีนาคม มีอาการคลื่นไส้ในช่วงเช้าและตอนนอนมีอาการนอนหลับไม่ค่อยสนิท รู้สึกว่าลำไส้มันบีบลม และรู้สึกได้ถึงมีแก๊สในลำไส้  ครึ่งทางของการนอนมักจะต้องลุกตื่นมาปัสวะตลอด)

28 มีนาคม อาการยังทรงตัว มีอาการจุกเสียดตรงกลางหน้าอก น้ำหนักลดลง 2 กก. ภายใน 1 สัปดาห์ (ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าน้ำหนักลดเพราะอะไร แต่คิดว่า อาจจะเกิดจาก ปรับการกิน และกินข้าวได้ไม่เยอะ) การนอนหลับยังรู้สึกว่ามีลมขยับตัวและบีบๆอยู่ในลำไส้เหมือนเดิม (ผลการตรวจสุขภาพไขมันไม่ดี(ldl)มีค่าอยู่ที่ 153 คอเรสเตอรอล 201 นอกนั้นปกติ(ไม่ได้ตรวจค่าตับเพราะเข้าใจว่ามันรวมกันแต่ตรวจภาวะเสี่ยงมะเร็งลำไส้แทน ค่าก็ปกติ) ในช่วงนี้ อาการเริ่มทุเลาลง

1 เมษายน  ตรวจอัลตร้าซาวน์ พบจุด ในตับ ขนาดไม่เกิน 1 ซม. โดยประมาณ เบื้องต้นสันนิษธานว่า อาจจะเป็ยนไขมันเกาะตับ อาการโดยรวมยังคงมีอาการปวดใต้ชายโครงขวา โดยที่อาการจุกหรือมีลมในท้องช่วงลำไส้ได้หายไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการของลม/แก๊ส ที่ใต้ชายโครงขวาอยู่ อาหารการกินก็ปกติ คลื่นไส้มีบ้างเล็กน้อย 

2 เมษายน มีอาการคลื่นไส้ในช่วงเช้า และมีอาการปวดใต้ชายโครงด้านขวาชัดเจน นั่ง หรือ ยืนนานๆ ไม่ค่อยจะได้ แต่เวลานอนจะไม่ค่อยออกอาการว่ามันเจ็บ สีอุจาระในตอนเช้า เหมือนปกติ ไม่มีสีเหลืองซีด เลยไปหาหมออายุรกรรม หมอวินิจฉัยว่า เป็นโรคเครียดลงกระเพาะ/ลงลำไส้ หมอบอกว่าอาการเหล่านี้เราคิดไปเอง (ตอนนั้นคิดว่าเราไม่ได้คิดไปเองจริงๆ มันมีลมดันอยู่ใต้ชายโครงจริงๆ และมันรู้สึกเกรงๆบางครั้ง) หมอก็ได้ให้ยานอนหลับ และยาแก้ปวด และ Ocid มา Normal

หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้น เพราะลดความกังวลลงมา จนรู้สึกได้ว่าที่เจ็บใต้ชายโครงขวา มันเป็นเหมือน อาการของลมดันมากกว่าอาการเจ็บอื่นๆ
และอาการคลื่นไส้ในตอนเช้าก็เริ่มหายไปแล้ว ไม่มั่นใจว่า เพราะทานยาดอมเพอริโดนติดต่อกัน หรือลดความกังวลลงมา อาการมันเลยทุเลาลง ในช่วงนี้อาการอื่นๆ เริ่มจะไม่มีให้เห็น จะเหลือก็แต่ ลม/แก๊ส ที่รู้สึกว่ามันดันอยู่ตรงชายโครงขวา และอาการนอนหลับไม่สนิท
เมื่อรู้สึกว่าตื่นจะมีอาการง่วงอยู่ แต่นอนต่อไม่ได้เพราะมันไม่หลับและต้องลุกมาปัสวะ ช่วงเช้าทุกครั้งต่อด้วยเข้าห้องน้ำถ่าย อุจาระปกติดี แต่บางทีก็มีเหลวบ้าง

22 เมษายน MRI และฟังผล วันที่ 23 สรุปคือ จุดที่ตับ มันหายไปแล้ว แต่มีค่าไขมันในตับที่เกินมา และมีจุดที่ถุงน้ำดี ซึ่งหมอบอกว่า มันเป็นจุดเล็กมาก และไม่มีผลต่ออาการที่ผมเป็นอยู่ แกก็จะให้ยา แอร์เอ็ก มาเหมือนเดิม เพื่อขับลมออก แต่ก็ไม่ได้รับ เพราะมีอยู่แล้ว (แต่กินขมิ้นชัน และ เมก้าวีแคร์ Avarin แทน **ซื้อมาเอง) ส่วนอาการก็เหมือนเดิม เวลายืน จะรู้สึกได้ว่ามีแก๊สดันอยู่ชายโครงขวาและทุเลาตอนนั่ง บางครั้งมันก็เหมือนจะหาย ออกกำลังกายก็ทำให้ทุเลาลงด้วย แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ปล. เหตุผลที่คิดว่าเป็นลม ก็เพราะรู้สึกว่ามันเคลื่อนที่ได้

คำถามคือ
1 อาการแบบนี้ มันยังจะเป็นอาการของโรคกระเพาะอยู่มั้ยครับ เพราะรู้สึกว่ามันมีลมที่ดันอยู่ตรงช่วงขวา
2 การเอ็กซเรย์ดูกระเพาะและลำไส้จะทำให้ทราบสาเหตุของอาการมั้ยครับ หรือต้องส่องกล้องเท่านั้น
3 ใครเคยเป็นเหมือนกันบ้างครับ มาแชร์ประสบการ์หน่อยและมีวิธรการรักาายังไงกันบ้างครับ 


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่