คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าเอาละเอียดก็คุยยาวนิดนึง
สรุปโดยสังเขป คือ ไม่มีตัวแยกโดยจำเพาะ ปนๆกันไป โดยมีมีส่วนนึงหลุดเข้าไปก่อน แล้วมีสารไปกระตุ้นฮอร์โมน หรือระบบประสาท ให้กระเพาะบีบตัวส่งช้าลง อันใหม่อันเก่าก็ปนไปนั่นแหละ เทียบคล้ายๆเครื่องซักผ้าละกัน 5555
ส่วนขยายความ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในคนจะเกิดการย่อยมากสุดที่ duodenum ส่วน absoption ส่วนใหญ่ที่ลำไส้เล็ก(ส่วน jejunum ) --> จะเห็นว่าหน้าที่สำคัญๆตกไปที่ลำไส้เล็กหมดเลย --> ฉะนั้นกระเพาะอาหารมันก็เป็นสถานีช่วยลำไส้เล็กย่อย ช่วยพักอาหาร หน้าที่หลักก็คือ 2 อันนั้นแหละ
ในเมื่อหน้าที่หลักคือการย่อยก็ต้องย่อยให้ดีที่สุด ก็คือย่อยพวกโปรตีนเชิงเคมีแบบที่รู้กันอยู่ มีการหลั่งเอนไซม์กับ HCl ออกมา --> เอนไซม์ของกระเพาะจะย่อยแบบสุ่ม แปลว่าไม่มี Ez จำเพาะที่สามารถย่อยให้เป็นกรดอะมิโนได้เลย แค่ทำให้สาย polypeptide สั้นลง (สุ่มย่อยตรงพันธะส่วนไหนของสายไม่รู้) ให้ย่อยง่ายขึ้นในลำไส้เล็ก <--> แล้วทำยังไงให้อาหารโดนเอนไซม์เยอะๆละ ก็ต้องคลุกเคล้าโดนมีใช้การย่อยเชิงกล --> การย่อยเชิงกลก็มีหลักๆ 2 แบบ คือ 1. tonic contraction คือ บีบและคลายตัวแบบคลื่น เพื่อให้เอนไซม์ที่หลั่งออกมาจากกระเพาะอาหารได้เข้าสัมผัสกับอาหารทุกๆ ส่วน เพราะฉะนั้นมันไม่มีการแยกอาหารไหนอาหารใหม่ อาหารเก่าครับ -->ทีนี้ก็ลองคิดดูว่าอาหารที่เราเคี้ยวแล้วปนน้ำลาย กรด น้ำย่อย จะเป็นไง --> ก็จะเป็นของเหลวข้นหนืดเรียกว่า chyme ผ่าม ผ้าม ! อาหารที่อยู่ก็โดนคลุก โขลก ปู้ยี้ปู้ยำเป็น chyme แหละ เล็กไปจนถึง 1 mm ได้เลย
โอเค เรารู้จัก chyme เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ เมื่อ chyme ได้ที่ (good consistency and optimal particle size) แล้วก็จะบีบตัวจากกระเพาะ (G) ส่งไปให้ลำไส้เล็ก (S.I.) ผ่านหูรูดที่เชื่อม G กับ SI ( pyloric sphincter ) โดยการช่วยของการย่อยเชิงกลแบบที่ 2, peristalsis <--> แล้วหูรูด pyloric จะเปิดเมื่อไหร่ละ มันก็มีตัวส่งสัญญาณต่างๆ ทั้งที่อยู่ใน G กับ SI เช่น mechanosensors บลาๆ กระตุ้นโดยบลาๆๆ ช่างมันก่อน --> เอาหลักๆคือเมื่อ chyme ผ่านไปที่ duodenum (ส่วนต้นของ SI ) โปรตีน หรือ ลิพิดใน Chyme ก็ไปกระตุ้น enteroendocrine cells ใน duodenum ให้หลั่งฮอร์โมน Cholecystokinin-Pancrezymin [เรียกย่อๆ CCK หรือ CCK-PZ] ซึ่งเจ้าตัว CCK เนี่ยมีบทบาทเยอะพอควร แต่ที่เราสนใจตอนนี้คือ มันไปยังยั้ง Gastric emtyping --> gastric emtyping คือการทำให้กระเพาะว่างแหละแปลตามชื่อเลย คือการบีบตัวของกระเพาะไปให้ลำไส้เล็กแหละ นอกจากนี้ กรด จาก HCl ในกระเพาะ ก็กระตุ้น enterogastric reflex ร่วม chyme ให้ชะลอการบีบตัวหรือ GE ที่ว่าได้ด้วย [ปัจจัยที่ยับยั้ง GE อื่นๆเช่น Distension, irritation, osmolarity ที่เพิ่มขึ้น , amino acids, and fat digestion products ใน duodenum]
เมื่อโดนยับยั้ง GE แล้ว อาหารในกระเพาะที่ทั้งย่อยอยู่กับเข้ามาใหม่ก็ปนเป คลุก โขลก วนไปก่อนในกระเพาะนั่นแหละครับ อันที่ย่อยอยู่แล้วก็ย่อยต่อไป อันที่มาใหม่ก็ย่อยซะ จนกว่าจะมีสัญญาณ (น่าจะมาจาก vagus nerve ไม่แน่ใจ ) มาอีกครั้งว่าให้เปิดหูรูดต่อ อาจจะเป็นผลมากจากการย่อยในลำไส้เล็ก feedback กลับมาที่กระเพาะอีก ผมเองก็ไม่ได้เข้าใจ pathway ทั้งหมดเหมือนกัน ซับซ้อนมากร่างกายมนุสสส
สรุปโดยสังเขป คือ ไม่มีตัวแยกโดยจำเพาะ ปนๆกันไป โดยมีมีส่วนนึงหลุดเข้าไปก่อน แล้วมีสารไปกระตุ้นฮอร์โมน หรือระบบประสาท ให้กระเพาะบีบตัวส่งช้าลง อันใหม่อันเก่าก็ปนไปนั่นแหละ เทียบคล้ายๆเครื่องซักผ้าละกัน 5555
ส่วนขยายความ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในคนจะเกิดการย่อยมากสุดที่ duodenum ส่วน absoption ส่วนใหญ่ที่ลำไส้เล็ก(ส่วน jejunum ) --> จะเห็นว่าหน้าที่สำคัญๆตกไปที่ลำไส้เล็กหมดเลย --> ฉะนั้นกระเพาะอาหารมันก็เป็นสถานีช่วยลำไส้เล็กย่อย ช่วยพักอาหาร หน้าที่หลักก็คือ 2 อันนั้นแหละ
ในเมื่อหน้าที่หลักคือการย่อยก็ต้องย่อยให้ดีที่สุด ก็คือย่อยพวกโปรตีนเชิงเคมีแบบที่รู้กันอยู่ มีการหลั่งเอนไซม์กับ HCl ออกมา --> เอนไซม์ของกระเพาะจะย่อยแบบสุ่ม แปลว่าไม่มี Ez จำเพาะที่สามารถย่อยให้เป็นกรดอะมิโนได้เลย แค่ทำให้สาย polypeptide สั้นลง (สุ่มย่อยตรงพันธะส่วนไหนของสายไม่รู้) ให้ย่อยง่ายขึ้นในลำไส้เล็ก <--> แล้วทำยังไงให้อาหารโดนเอนไซม์เยอะๆละ ก็ต้องคลุกเคล้าโดนมีใช้การย่อยเชิงกล --> การย่อยเชิงกลก็มีหลักๆ 2 แบบ คือ 1. tonic contraction คือ บีบและคลายตัวแบบคลื่น เพื่อให้เอนไซม์ที่หลั่งออกมาจากกระเพาะอาหารได้เข้าสัมผัสกับอาหารทุกๆ ส่วน เพราะฉะนั้นมันไม่มีการแยกอาหารไหนอาหารใหม่ อาหารเก่าครับ -->ทีนี้ก็ลองคิดดูว่าอาหารที่เราเคี้ยวแล้วปนน้ำลาย กรด น้ำย่อย จะเป็นไง --> ก็จะเป็นของเหลวข้นหนืดเรียกว่า chyme ผ่าม ผ้าม ! อาหารที่อยู่ก็โดนคลุก โขลก ปู้ยี้ปู้ยำเป็น chyme แหละ เล็กไปจนถึง 1 mm ได้เลย
โอเค เรารู้จัก chyme เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ เมื่อ chyme ได้ที่ (good consistency and optimal particle size) แล้วก็จะบีบตัวจากกระเพาะ (G) ส่งไปให้ลำไส้เล็ก (S.I.) ผ่านหูรูดที่เชื่อม G กับ SI ( pyloric sphincter ) โดยการช่วยของการย่อยเชิงกลแบบที่ 2, peristalsis <--> แล้วหูรูด pyloric จะเปิดเมื่อไหร่ละ มันก็มีตัวส่งสัญญาณต่างๆ ทั้งที่อยู่ใน G กับ SI เช่น mechanosensors บลาๆ กระตุ้นโดยบลาๆๆ ช่างมันก่อน --> เอาหลักๆคือเมื่อ chyme ผ่านไปที่ duodenum (ส่วนต้นของ SI ) โปรตีน หรือ ลิพิดใน Chyme ก็ไปกระตุ้น enteroendocrine cells ใน duodenum ให้หลั่งฮอร์โมน Cholecystokinin-Pancrezymin [เรียกย่อๆ CCK หรือ CCK-PZ] ซึ่งเจ้าตัว CCK เนี่ยมีบทบาทเยอะพอควร แต่ที่เราสนใจตอนนี้คือ มันไปยังยั้ง Gastric emtyping --> gastric emtyping คือการทำให้กระเพาะว่างแหละแปลตามชื่อเลย คือการบีบตัวของกระเพาะไปให้ลำไส้เล็กแหละ นอกจากนี้ กรด จาก HCl ในกระเพาะ ก็กระตุ้น enterogastric reflex ร่วม chyme ให้ชะลอการบีบตัวหรือ GE ที่ว่าได้ด้วย [ปัจจัยที่ยับยั้ง GE อื่นๆเช่น Distension, irritation, osmolarity ที่เพิ่มขึ้น , amino acids, and fat digestion products ใน duodenum]
เมื่อโดนยับยั้ง GE แล้ว อาหารในกระเพาะที่ทั้งย่อยอยู่กับเข้ามาใหม่ก็ปนเป คลุก โขลก วนไปก่อนในกระเพาะนั่นแหละครับ อันที่ย่อยอยู่แล้วก็ย่อยต่อไป อันที่มาใหม่ก็ย่อยซะ จนกว่าจะมีสัญญาณ (น่าจะมาจาก vagus nerve ไม่แน่ใจ ) มาอีกครั้งว่าให้เปิดหูรูดต่อ อาจจะเป็นผลมากจากการย่อยในลำไส้เล็ก feedback กลับมาที่กระเพาะอีก ผมเองก็ไม่ได้เข้าใจ pathway ทั้งหมดเหมือนกัน ซับซ้อนมากร่างกายมนุสสส
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ระบบย่อยอาหาร (Digestive System)
นักศึกษาแพทย์
คณะแพทยศาสตร์
วิทยาศาสตร์
กระเพาะเราแยกส่งอาหารที่ย่อยแล้ว/ยังไม่ย่อย ไปลำใส้เล็กยังไง
ดังนั้น ณ. เวลานึงเช่น 30 นาทีหลังกินข้าว ในกระเพาะเราจะมีทั้งอาหารที่ย่อยเสร็จแล้ว และยังย่อยไม่เสร็จ (กำลังย่อยอยู่ หรือยังไม่ย่อยเลย)
คำถามคือ
ในการส่งอาหารที่ย่อยเสร็จแล้วไปยังลำใส้เล็ก กระเพาะเราแยกส่งเฉพาะอาหารที่ย่อยเสร็จแล้ว โดยไม่ส่งอาหารที่ยังย่อยไม่เสร็จได้ยังไง
คือใน Youtube ที่ผมค้นดูเจอตัวอย่างว่ามันย่อยเสร็จทั้งหมดแล้วส่งทั้งหมดต่อไป แต่ไม่มีอธิบายว่ามันแยกอาหารย่อยเสร็จ/ไม่เสร็จยังไง
คือ ผมไม่ได้จบแพทย์นะครับแต่ อยากเรู้เป็นความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายเราน่ะครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ