เกริ่นก่อนเลยนะคะว่าเราเป็นคนชอบดูหนังมากกกโรงหนังในกรุงเทพเรียกได้ว่าดูมาหมดแล้วแทบจะทุกที่ แต่ปกติจะดู Major เพราะชอบป๊อปคอร์นที่นั่นมากกว่า เนื่องจากวันนี้ได้ได้สิทธิพิเศษจากกรุงศรีได้รับบัตรฟรีให้ดูที่นี่เรื่องAventures: Endgame เวลา19.00 น. โรงภาพยนตร์ที่4 จึงมีโอกาสได้ใช้บริการโรงหนังที่นี่เป็นครั้งแรกค่ะ
แรกเริ่มเลยในแมสเสจแจ้งว่าสามารถรับบัตรได้ตั้งแต่17.30 น. เป็นต้นไปแฟนเราเดินทางไปถึงห้างEmporium เวลา18.00 น. โดยประมาณได้ที่นั่งแถวH เราก็โอเคๆไม่เป็นไรหลังจากรับบัตรเสร็จก็รอจนเวลาใกล้19.00 น. เพื่อนำคูปองที่ได้ไปแลกน้ำและป๊อปคอร์นจนกระทั่งเวลา19.25 น. แถวป๊อปคอร์นก็หยุดชะงักลง(อีกประมาณ3 คิวจะถึงเรา) จนพี่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเราเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแถวไม่ขยับเลยพนักงานก็ดูงงๆไม่รู้ทำอะไรกันและไม่ได้ตอบคำถามใดๆจนซักพักก็มีพนักงานเดินกลับมาพร้อมตัวตุ๊กตาที่ติดบนฝาแก้วน้ำจำนวนหนึ่งจึงเข้าใจเหตุที่ชะงักเพราะไปหยิบตุ๊กตานี้มาแล้วพนักงานก็ยังคนมึนๆต่อไปโดยการทำน้ำและป๊อปคอร์นให้พี่คนที่อยู่ข้างหน้าสุดแต่ไม่เก็บคูปองจากพี่เค้าไปและก็ไปทำอย่างอื่นจนเราต้องถามว่าอันนี้เสร็จรึยังคะพนักงานจึงตอบว่าเสร็จแล้วค่ะเราเลยถามกลับไปว่าแล้วทำไมไม่เก็บคูปองล่ะคะข้างหลังแถวอีกยาวเลยจนตอนนี้มัน19.30 น. แล้วหนังมันจะเริ่มแล้วนะคะพนักงานจึงเดินมาเก็บคูปองไปจนกระทั่งพี่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเรา(คนที่เดินไปถามพนักงานในครั้งแรก)ได้สั่งพี่เค้าก็สั่งน้ำและป๊อปคอร์นพนักงานผู้หญิงจึงเดินไปตักป๊อปคอร์นและพนักงานผู้ชายก็ยืนอยู่เฉยๆเราจึงถามว่าพี่ไม่กดน้ำหรอคะพนักงานผู้ชายจึงตอบเรากลับมาว่าน้ำแข็งหมดครับเราจึงถามกลับไปว่าแล้วจะทำยังไงคะให้ยืนรอไปเรื่อยๆหรอนี่ทุ่มครึ่งแล้วนะคะหนังรอบ1 ทุ่มพี่ผู้ชายที่ซื้อป๊อปคอร์นอยู่จึงตอบพนักงานกลับไปว่ากดน้ำมาเลยครับหนังจะฉายแล้วจึงถึงคิวเราได้แลกป๊อปคอร์นและน้ำ
หลังจากเดินเข้ามาโรงหนังไม่นานหนังก็เริ่มฉายค่ะเวลาโดยประมาณ19.40 น. ระหว่างดูหนังก็ไม่มีอะไรค่ะมีผ้าห่มให้แต่ร้อนมากกกเราใส่กระโปรงจึงเอาผ้าคลุมขาไว้
จุดพีคคือหลังหนังจบค่ะ หนังจบแน่นอนกี่โมงไม่ชัวร์นะคะ เพราะเราไม่ได้ดูเวลา แต่เรามารอลิฟท์ตอนประมาณ 22.40 น. เพื่อที่จะลงไปชั้นใต้ดินเพื่อกลับบ้าน ปรากฏว่ามีลิฟท์ที่เปิดให้บริการเพื่อลงไปลานจอดรถแค่ 3 ตัวเท่านั้น ซึ่งลิฟท์ 3 ตัวนี้เป็นเพียงทางออกเดียวจากโรงหนัง เพราะบันไดเลื่อนปิดให้ใช้งานแล้ว มีคนต่อแถวเพื่อลงลิฟท์อยู่เป็นจำนวนมาก ระหว่างที่รอเราก็เล่นเฟสบุ๊คไปด้วย จึงเห็นว่ามีเพื่อนดูรอบเดียวกับเรา เราจึงไลน์ไปหาเพื่อน เพื่อนเราจึงบ่นว่าได้นั่งแถว B แน่ะขนาดมาตั้งแต่ 5 โมง ซึ่งแปลว่าทางโรงหนังเปิดให้เอาตั๋วก่อนเวลาที่แจ้งไว้ แต่เราก็พยายามคิดว่าไม่เป็นไร ช่างมัน เราจึงยืนเล่นเฟสบุ๊คต่อไปเรื่อยๆ จนประมาณ23.00 น. เราก็ยังไม่ได้ลงลิฟท์ เนื่องจากมีลิฟท์ขึ้นมาพร้อมกับพนักงานที่ขนของเต็มลิฟท์ และพนักงานพูดว่าให้ไปใช้ลิฟท์ตัวอื่นแทน ทำให้คนที่ติดอยู่ข้างบนไม่สามารถเข้าไปในลิฟท์ได้และต้องรอจนกว่าลิฟท์ที่ไม่มีของจะขึ้นมา จนกระทั่งมีลิฟท์อีกตัวขึ้นมาอีก ก็ยังมีพนักงานขึ้นมาและในลิฟท์ยังคงเต็มไปด้วยของ แต่ก็ยังพอมีที่ให้คนเข้าไปได้จำนวนหนึ่ง เราจึงได้เข้าไปและถามว่า ทำไมขนของกันเวลานี้คะ รู้บ้างมั๊ยว่าคนข้างบนเค้าติดอยู่มานานกว่า 30 นาทีแล้ว ทางห้างไม่ประสานอะไรกันบ้างเลยหรอ แต่ก็ไม่มีใครตอบอะไรเรา สุดท้ายเราได้ลงมาจากโรงหนังตอน 23.10 น. ค่ะ
มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบเราบ้างมั๊ยคะ หรือเราแค่ดวงซวย แต่เราไม่ประทับใจกับที่นี่เลย และคิดว่าจะไม่ไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ
ห้าง Emporium กับโรงหนัง Emprive Cineclub โรงหนังระดับ 6 ดาว กับการบริการที่แย่ที่สุดตั้งแต่เคยดูหนังมา ใครเคยเจอบ้างคะ
แรกเริ่มเลยในแมสเสจแจ้งว่าสามารถรับบัตรได้ตั้งแต่17.30 น. เป็นต้นไปแฟนเราเดินทางไปถึงห้างEmporium เวลา18.00 น. โดยประมาณได้ที่นั่งแถวH เราก็โอเคๆไม่เป็นไรหลังจากรับบัตรเสร็จก็รอจนเวลาใกล้19.00 น. เพื่อนำคูปองที่ได้ไปแลกน้ำและป๊อปคอร์นจนกระทั่งเวลา19.25 น. แถวป๊อปคอร์นก็หยุดชะงักลง(อีกประมาณ3 คิวจะถึงเรา) จนพี่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเราเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแถวไม่ขยับเลยพนักงานก็ดูงงๆไม่รู้ทำอะไรกันและไม่ได้ตอบคำถามใดๆจนซักพักก็มีพนักงานเดินกลับมาพร้อมตัวตุ๊กตาที่ติดบนฝาแก้วน้ำจำนวนหนึ่งจึงเข้าใจเหตุที่ชะงักเพราะไปหยิบตุ๊กตานี้มาแล้วพนักงานก็ยังคนมึนๆต่อไปโดยการทำน้ำและป๊อปคอร์นให้พี่คนที่อยู่ข้างหน้าสุดแต่ไม่เก็บคูปองจากพี่เค้าไปและก็ไปทำอย่างอื่นจนเราต้องถามว่าอันนี้เสร็จรึยังคะพนักงานจึงตอบว่าเสร็จแล้วค่ะเราเลยถามกลับไปว่าแล้วทำไมไม่เก็บคูปองล่ะคะข้างหลังแถวอีกยาวเลยจนตอนนี้มัน19.30 น. แล้วหนังมันจะเริ่มแล้วนะคะพนักงานจึงเดินมาเก็บคูปองไปจนกระทั่งพี่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเรา(คนที่เดินไปถามพนักงานในครั้งแรก)ได้สั่งพี่เค้าก็สั่งน้ำและป๊อปคอร์นพนักงานผู้หญิงจึงเดินไปตักป๊อปคอร์นและพนักงานผู้ชายก็ยืนอยู่เฉยๆเราจึงถามว่าพี่ไม่กดน้ำหรอคะพนักงานผู้ชายจึงตอบเรากลับมาว่าน้ำแข็งหมดครับเราจึงถามกลับไปว่าแล้วจะทำยังไงคะให้ยืนรอไปเรื่อยๆหรอนี่ทุ่มครึ่งแล้วนะคะหนังรอบ1 ทุ่มพี่ผู้ชายที่ซื้อป๊อปคอร์นอยู่จึงตอบพนักงานกลับไปว่ากดน้ำมาเลยครับหนังจะฉายแล้วจึงถึงคิวเราได้แลกป๊อปคอร์นและน้ำ
หลังจากเดินเข้ามาโรงหนังไม่นานหนังก็เริ่มฉายค่ะเวลาโดยประมาณ19.40 น. ระหว่างดูหนังก็ไม่มีอะไรค่ะมีผ้าห่มให้แต่ร้อนมากกกเราใส่กระโปรงจึงเอาผ้าคลุมขาไว้
จุดพีคคือหลังหนังจบค่ะ หนังจบแน่นอนกี่โมงไม่ชัวร์นะคะ เพราะเราไม่ได้ดูเวลา แต่เรามารอลิฟท์ตอนประมาณ 22.40 น. เพื่อที่จะลงไปชั้นใต้ดินเพื่อกลับบ้าน ปรากฏว่ามีลิฟท์ที่เปิดให้บริการเพื่อลงไปลานจอดรถแค่ 3 ตัวเท่านั้น ซึ่งลิฟท์ 3 ตัวนี้เป็นเพียงทางออกเดียวจากโรงหนัง เพราะบันไดเลื่อนปิดให้ใช้งานแล้ว มีคนต่อแถวเพื่อลงลิฟท์อยู่เป็นจำนวนมาก ระหว่างที่รอเราก็เล่นเฟสบุ๊คไปด้วย จึงเห็นว่ามีเพื่อนดูรอบเดียวกับเรา เราจึงไลน์ไปหาเพื่อน เพื่อนเราจึงบ่นว่าได้นั่งแถว B แน่ะขนาดมาตั้งแต่ 5 โมง ซึ่งแปลว่าทางโรงหนังเปิดให้เอาตั๋วก่อนเวลาที่แจ้งไว้ แต่เราก็พยายามคิดว่าไม่เป็นไร ช่างมัน เราจึงยืนเล่นเฟสบุ๊คต่อไปเรื่อยๆ จนประมาณ23.00 น. เราก็ยังไม่ได้ลงลิฟท์ เนื่องจากมีลิฟท์ขึ้นมาพร้อมกับพนักงานที่ขนของเต็มลิฟท์ และพนักงานพูดว่าให้ไปใช้ลิฟท์ตัวอื่นแทน ทำให้คนที่ติดอยู่ข้างบนไม่สามารถเข้าไปในลิฟท์ได้และต้องรอจนกว่าลิฟท์ที่ไม่มีของจะขึ้นมา จนกระทั่งมีลิฟท์อีกตัวขึ้นมาอีก ก็ยังมีพนักงานขึ้นมาและในลิฟท์ยังคงเต็มไปด้วยของ แต่ก็ยังพอมีที่ให้คนเข้าไปได้จำนวนหนึ่ง เราจึงได้เข้าไปและถามว่า ทำไมขนของกันเวลานี้คะ รู้บ้างมั๊ยว่าคนข้างบนเค้าติดอยู่มานานกว่า 30 นาทีแล้ว ทางห้างไม่ประสานอะไรกันบ้างเลยหรอ แต่ก็ไม่มีใครตอบอะไรเรา สุดท้ายเราได้ลงมาจากโรงหนังตอน 23.10 น. ค่ะ
มีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบเราบ้างมั๊ยคะ หรือเราแค่ดวงซวย แต่เราไม่ประทับใจกับที่นี่เลย และคิดว่าจะไม่ไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ