ซากุระบาน 16-19 April 2019 Asakusa -> Kawaguchiko -> Chiba ลุยเดี่ยวเที่ยวได้

สวัสดีค่ะ ปีนี้กลับมารีเฟรชตัวเองอีกครั้ง 
เลือกไปรับอากาศเย็นๆ ชมความงามของฟูจิซังและซากุระที่บานสะพรั่งริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ 
ทริปนี้ เป็นทริปผู้หญิงลุยเดี่ยวเดินทางคนเดียวนะคะ  ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย และเดินทางง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แม้คนญีปุ่่นจะพูดภาษาอังกฤษได้ไม่มาก แต่ประเทศเค้าก็มีป้าย มีตัวอักษร มีสัญลักษณ์ที่ช่วยให้การเดินทางของเราง่ายขึ้นเยอะค่ะ
เพราะฉะนั้นใครที่ยังกล้าๆ กลัวๆ  ลองออกมาจาก comfort zone ของตัวเอง แล้วไปหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิตดูนะคะ 
โลกนี้ยังมีอะไรให้เราได้เรียนรู้ เปิดตา เปิดใจอีกเยอะค่ะ 


สำหรับทริปนี้ จขกท. เริ่มต้นทริปด้วยการจองตั๋วล่วงหน้าของสายการบินหางแดง  ได้ที่ราคาหมื่นนิดๆ + ซื้อน้ำหนักกระเป๋าก็ประมาณ 13,000 กว่าบาท
ค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ ในระหว่างที่อยู่ญี่ปุ่น เช่น ค่าที่พัก ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหาร รวมๆ แล้วก็ประมาณ 8 พันกว่าบาท 
ค่าซิมการ์ด Sim2fly สำหรับใช้เน็ท 399.- บาท (ใช้งานได้ 6 GB)  รวม 4 วัน ใช้เงินไปประมาณ 22,000 บาท ไม่รวมค่าช้อปปิ้งและของฝากค่ะ ^__^

ทริปคร่าวๆ นะคะ 
Day_1  ออกเดินทางจากไทย 05.05 น. ถึงสนามบินนาริตะ โตเกียว 13.15 น.
             นั่งรถไฟ  Narita Sky Access รวดเดียวถึง  Subway Toei Asakusa (A18)   เข้าที่พัก แล้วก็ออกมาเดินเล่นวัด Sensoji 
Day_2  นั่ง Subway   Metro  Ginza Line ไปลงสถานีรถไฟชินจุกุ  แล้วต่อรถบัสไป  Kawaguchiko ซื้อตั๋วรถ 2 day ticket เที่ยวรอบทะเลสาบ
             คาวากูจิโกะและทะเลสาบไซโกะ โดยวันแรกนี้เลือกไปพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านโบราณ ที่ทะเลสาบ Saiko ก่อน  จากนั้นก็กลับมานั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟฟูจิ แล้วก็ไปปิดท้ายที่ป้ายที่ 20 ของสาย Green Line bus
Day_3  ขึ้นไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิมุมสูง ที่เจดีย์แดง  แลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ต้องไปเช็คอิน ^^  อากาศช่วงเช้าๆ หนาวมาก ประมาณ 6 องศา
             แล้วก็ไปดูหิมะละลายที่ ภูเขาไฟฟูจิชั้น 4 (ช่วงที่ไป  มีประกาศแจ้งว่าขึ้นไปถึงสถานีชั้น 5 ไม่ได้) จากนั้นกลับมาเดินเล่นชิลๆ รอบทะเลสาบ
            คาวากูจิโกะ  4.2 km. ใช้เวลาเก็บภาพ สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ประมาณ 4 ชั่วโมง ตกเย็นก็แช่ออนเซ็นที่โรงแรมที่พัก 
Day_4   นั่งบัสมาลงที่สถานีรถไฟโตเกียว แล้วต่อ Shuttle bus ไปสนามบินนาริตะ  เพื่อฝากกระเป๋า  ก่อนออกไปเก็บทริปที่ทุ่งทิวลิป เมืองชิบะอีกทริป
             แล้วช้อปปิ้งทิ้งท้ายที่ Shisui Premium Outlet  ก่อนจะกลับมาสนามบินนาริตะ แล้วบินไฟล์ทค่ำกลับถึงเมืองไทย  เวลา 01.40 น. 

พร้อมยังคะ   ถ้าพร้อมแล้ว มาลุยเดี่ยวไปด้วยกันค่ะ

Day_1  (16 April)  
            เวลา 02.00 น.  เช็คอินโหลดกระเป๋า  เนื่องจากวันนี้ มีกรุ๊ปทัวร์ด้วย 2 กรุ๊ป ทำให้ใช้เวลารอที่เคาน์เตอร์เช็คอินนานเป็นชั่วโมง  ดีนะที่เราไปสแตนบายที่สนามบินไว้ตั้งแต่หัวค่ำ  เรียกได้ว่า  เตรียมหมอนเล็กและผ้าห่มไปนอนรอเวลาที่สนามบินเลยทีเดียว จุดที่นอนได้ที่คนไม่ค่อยพลุกพล่านก็แถวทางเชื่อมระหว่าง Terminal 1 และ 2 นั่นแหละค่ะ  ได้เวลา 05.05 น. เจ้าหางแดงก็พาเราบินตรงสู่มหานครกรุงโตเกียว โดยบนเครื่องขาไปนี้ เค้าเน้นให้เรานอนอย่างเดียวเลยค่ะ ^_^ ไม่เห็นมีมาถามเสริฟอาหาร ขายอาหารในช่วงเช้าเลย  แต่พอดี จขกท. เตรียมพร้อมซื้อครัวซอง กับขนมปังไส้กรอกไว้แล้ว ก็เลยทานเป็นอาหารเช้า -เที่ยงได้    

...  
จากสนามบินนาริตะ  เลือกที่พักไว้ที่ย่านอาซากุสะ  ซึ่งหากจะนั่งต่อเดียวถึงเลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนคัน เปลี่ยนขบวน ก็ต้องนั่ง Narita Sky Access Line สายสีส้ม ไปลงที่  Subway Toei Asakusa Sta.   search เส้นทางได้จากเวปไซต์  http://www.hyperdia.com     หรือ ดาวน์โหลดแอป   NAVITIME (Japan travel) ไว้ในเครื่องโทรศัพท์เลยค่ะ สะดวกมาก  เอาไว้เช็คจำนวนสถานีที่เราจะผ่าน  ชื่อสถานีที่เราจะต้องลง  เพื่อป้องกันการนั่งเลยป้ายค่ะ  ลืมบอกไปที่สนามบิน  เมื่อเราเดินออกจากเกท Terminal 2  จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วรถบัสอยู่ด้านหน้าเลยนะคะ  หากใครอยากนั่งรถบัสไปสถานีโตเกียว สถานีชินจุกุ  ก็สามารถซื้อตั๋วรถของบริษัท Keisei ได้ที่ชั้นนี้เลยค่ะ  เมื่อได้ตั๋วแล้ว ท่ารถบัส จะต้องลงบันไดเลื่อนไปอีกชั้นหนึ่งนะคะ  ส่วนกรณีเรา เราจะใช้บริการรถไฟ จึงต้องลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น B1F ค่ะ
ไปซื้อตั๋วที่เครื่องหยอดเหรียญหน้าประตูทางเข้าค่ะ  โดยสามารถเลือกกดเปลี่ยนเป็นเมนูภาษาอังกฤษได้จากหน้าจอนะคะ  ก่อนจะซื้อตั๋วก็เช็คสถานีปลายทางก่อนว่า ป้ายที่เราจะลงมีค่าโดยสารเท่าไหร่ แล้วก็กดปุ่มจำนวนเงินตามนั้น จึงค่อยหยอดเหรียญหรือใส่ธนบัตรลงไปค่ะ   ในกรณีของเรา สถานีปลายทางคือ Asakusa (A18) ราคาตั๋วเท่ากับ 1290 yen  รถไฟจะเปลี่ยนสายขบวนเอง โดยที่เราไม่ต้องลงจากรถไฟค่ะ  ภาพวิวระหว่างทาง  ก็จะมีซากุระพอให้เห็นบ้างค่ะ
ตอนขามาจากนาริตะ  เราจะออกจากรถไฟที่ Toei Asakusa Station  (A18)  แต่ขากลับที่จะไปสถานีชินจุกุ เราจะใช้บริการ subway Tokyo Metro  Asakusa Sta. (G19) ในภาพนะคะ  ทั้งสองที่อยู่ละแวกใกล้ๆกับประตูคามินาริมง ทางเดินที่จะเข้าไปวัด Sensoji ค่ะ 

จากสถานี Toei Subway Asakusa ข้ามถนน แล้วเดินไปทางซ้าย แล้วเดินเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางไปประตูคามินาริมง  เราจะเอากระเป๋าไปเก็บก่อนแล้วค่อยออกมาเดินเที่ยว  จึงเดินเข้าซอยเล็กๆ ทางด้านซ้ายของประตูเข้าไป  แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคนเดินย่านช้อปปิ้งไม่ไกลนัก ก็ถึงโรงแรม Hotel 3000 Asakusa Hoten ประมาณ 400 เมตร จากซับเวย์  ซึ่งเราจองห้องพักแบบพักรวมหญิงไว้ ราคาต่อคืนเท่ากับ 2,520 Yen (มีอาหารเช้า)   แต่ถ้าจะ walk-in เลยก็คืนละ 2,800  yen ตามป้ายหน้าโรงแรมค่ะ

ด้านหน้าโรงแรมก็จะชิกๆ  นิดนึง ค่ะ
ที่พักค่อนข้างสะดวก ทำเลดี อยู่ไม่ไกลจากวัดเซนโซจิ สามารถเดินเล่นทอดน่องกินลมชมวิวได้  แต่ว่าเนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ ขนาดเตียงเลยแคบไปนิดนึง  แต่ก็ดีตรงที่มีอาหารเช้าพวกขนมปัง ไส้กรอก ไก่ทอด สปาเก็ตตี้  กาแฟ สลัดผักให้เรารับประทานฟรีก่อนเช็คเอ้าท์ 
เดินเล่นจากประตูทางเข้าวัดไปจนถึงตัววัดค่ะ




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่