ติดตามอ่านกระทู้ตอนที่ 1 เกียวโต - โอซาก้า - นารา
http://ppantip.com/topic/33834087
หลังจากที่เราได้เที่ยวชมเมืองทางภูมิภาคคันไซมาบ้างแล้ว ตอนนี้ได้ได้เวลาชมซากุระแบบเต็มๆ ตาได้กันแล้ว
ตอนที่ 2 Tokyo - Fuji
บอกก่อนนะครับว่าจุดประสงค์ในการมาโตเกียวในครั้งนี้ก็เพื่อชมความงามของดอกซากุระและไปชมความอลังการของภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากการเดินในย่านหลักๆของโตเกียว
วันที่ 5 เราออกเดินทางจากสนามบินคันไซมุ่งสู่โตเกียวกันแต่เช้าเลย ถ้าเป็นสายการ Peach จะลง terminal1 ต้องนั่งรถบัสภายในสนามบินกลับมาที่ Terminal 2 นะครับ เพื่อนที่ไปด้วยกัน นั่ง Jestar มาลง Terminal 2 เรานัดเจอกันตรงนี้ครับ เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมืองกันครับ
จากโอซาก้ามาโตเกียว เรานั่ง Peach มาครับ ระหว่างทางเราสามารถมองเห็นยอดฟูจิได้ด้วยนะครับ แต่เก็บภาพไม่ทัน
หลังจากเรานั่งรถไฟมาสักชั่วโมงครับ ก็มาถึง เราเลือกที่พักแถวอาซากุสะครับ แต่คงเป็นเรื่องปกติครับ มาถึงก็หลง เดินหาที่พักไม่เจอ เกือบชั่วโมง ถามเป็นสิบคน กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน อากาศที่นี้อุ่นกว่าคันไซครับ พอcheck in ที่พักเรียบร้อย ก็เริ่มออกเที่ยวกันเลย ที่โตเกียวผมใช้ Tokyo Subway 3 day Ticket ราคา 1500 เยน จริงเดินทางอย่างผมไม่ถึง 500 เยนต่อวันหรอกครับ แต่เพื่อความสะดวกไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋ว
เริ่มที่แรกก็คือวัด Sensoji หรือวัด อะสะกุสะ สวยงามแต่คนเยอะมากครับ คนไทยเยอะจริงๆ เดินไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าวัดครับ
ที่พักของผมอยู่หลังวัด Sensoji ต้องเดินลัดด้านหลังวัดมาเพื่อมาขึ้น subway
เดินเข้าหลังวัดมาเจอเลย
คนเยอะจริงๆ ครับ คนไทยทั้งนั้น
เดินมาถึงบริเวณหน้าวัดครับ คนแน่นมาก ตอนนี้สัก 11 โมง
......รอติดตามชมความสวยงามของวัดตอนเช้าได้นะ.......
เราเดินเลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอสะพานข้างหน้าสามารถมองเห็น Tokyo sky tree และตึกอาซาฮี เดินเล่นไปเรื่อยๆ ความสวยงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยเพราะได้สัมผัสกับความงามของดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งครับ 2 ฝั่งแม่น้ำ โรแมนติดสุดๆ
ตึกสำนักงานใหญ่อาซาฮี มองไกลเห็น Tokyo Sky tree ด้วย
เดินข้ามสะพานไปอีกฝั้งกัน
เดินมาถึงอีกฝั่งแล้ว
เดินมาจนเหนื่อยพอสมควร เริ่มหิว เพราะยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ไหนๆ ขอแจมกับคนญี่ปุ่นเลยละกัน เค้ามีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม มีที่นั่งให้พักผ่อน กับบรรยากาศแสนสบายครับ อาหารไม่แพงครับ
ภาพนี้ระหว่างเดินหาข้าวกิน
นานๆจะเห็นดอกซากุรีสีนี้ครับ ชมพูสวยมากๆ
ยังเดินชมความงามไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบายมาก
ขอนั่งแจมกับคนญี่ปุ่นเลยละกัน กับข้าวอร่อย ไม่แพงครับ
บรรยากาศทั่วๆ ไป แดดไม่ร้อน
อิ่มแล้วก็เดินชมดอกซากุระไปเรื่อยๆ ครับ เดินมาจนถึง Tokyo sky tree ไกลพอสมควร แต่คุ้มค่าคับ
บรรยากาศสวนะหว่างการเดินเที่ยว
เขากำลังทำพิธีแต่งงานกันครับ แต่คนเยอะเลยไม่กล้าเข้าไป
จุดหมายที่เราจะไปกัน ไกลมาก เดินมาได้ไงไม่รู้
ต่อไปคือเราต้องไปซื้อตั๋วรถบัสเพื่อพรุ่งนี้เราจะไปชมความงามของภูเขาไฟฟูจิ พร้อมแล้วก็เดินลง subway ครับ ไปซื้อกันที่ชินจุกุ ครับ
ได้ตั๋วรถเรียบร้อยแต่เราต้องมาขึ้นรถที่ชั้น 5 สถานีชิบูยา เพราะรถที่สถานชินจุกุเต็ม ได้เวลา 08.00 ครับ
แต่เพื่อความชัวร์เราไม่เคยมา ลง subway เพื่อจะมาดูหน้าตาสถานีที่ ชิบูยาครับ ห้าแยกที่ทุกคนต้องมา คนเยอะจริงๆ ไม่ช้าครับหามุมถ่ายรูปกันก่อนเลย
สัญญาลักษณ์ของย่านนี้ครับ
เดินข้ามถนนไปหามุมถ่ายรูปกัน
เบียดฝูงชนจำนวนมากมาได้แล้ว ชั้น 2 starbucks รอไฟเขียว
พอไฟเขียว คนอย่างมดเดิน
นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาหาแห่งความสุข shopping
เดินเที่ยว shop กันสนุกเลย แหล่งละลายทรัพย์ หมดกันเยอะทีเดียว
ค่ำแล้วอีกสักที่ละกัน ลงsubway เปลี่ยนกันไปมา ก็มาถึง Tokyo tower ยามค่ำคืนพร้อมสายฝน
Tokyo tower ยามค่ำคืน
เหนื่อยแล้วสำหรับวันนี้เข้าที่พัก นอนเอาแรงพรุ่งนี้จะพาไปหาฟูจิชังกัน
วัด Sensoji ยามค่ำคืน ไม่มีคน เงียบมาก
วันที่ 6 ตื่นเช้ากันพอสมควร เพราะกลัวมันทันรถ อย่าลืมตั๋วรถที่ซื้อมาเมื่อวานนะครับ ราคาไปกลับจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ 3500 เยน ระหว่างทางเดินไป subway ก็ต้องผ่านวัดเช่นเคย แต่วันนี้เช้ามากไม่มีคน
เช้ามีแต่คนญี่ปุ่นมาเดินออกกำลังกัน
ตอนนี้ 7 โมงเช้าครับ
ไม่มีคนแย่งถ่ายรูป จัดกันสักหน่อย
หน้าวัดตอนเช้าไม่มีคนเลย
เรานั่ง subway มาถึงก่อนเวลาหาอะไรกินรองท้อง จากนั้นก็ออกเดินทางจากชิบูย่าไปคาวากูชิโกะ นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง อากาศแจ่มใส ความหลังคือเห็นฟูจิแบบเต็มๆ นั่งมาได้สักชั่วโมงกว่าๆ ก็สมปรารถนา ฟูจิชัง ใหญ่จริงๆ สวยงามมาก
ภาพระหว่างทาง ฟูจิ ถ่ายบนรถบัส
เรามาถึงสถานีคาวากูชิโกะก็ราวๆ 11 โมงครับ สถานีนี้เป็นสถานีรถไฟด้วย ใครนั่งรถไฟมาก็มาลงสถานีเช่นกัน
ถึงแล้ว สถานี้คาวากุชิโกะ
หน้าสถานี้
แล้วก็กินข้าวเที่ยงกัน หน้าสถานีเลย 500 เยนเอง
จากนั้นก็ซื้อตั๋วรถไฟท้องถิ่นเพื่อจะไปพิชิตเจดีย์แดงครับ ตารางเวลาก็สอบถามจากพนักงานได้เลย นั่งไปสักสามสิบนาทีก็ถึงครับ แต่ก็ต้องเดินต่อไปไม่เกิน 2 กิโลเมตรก็จะถึงยอดเจดีย์แดงที่คู่กับภูเขาไฟฟูจิครับ
ระหว่างทางเดินไปเจดีย์แดงครับ
ถึงแล้วทางขึ้น
เดินขึ้นบันไดกันครับ หอบครับเหนื่อยมาก แต่เสียดายซากุระยังไม่บาน
ก่อนถึงยอดเจดีย์แดง
นั่งพักก่อนสักหน่อย เหนื่อยจริงๆๆ
ถึงแล้วยอดเจดีย์แดงคู่ภูเขาไฟฟูจิ
ขอแทรกตัวเข้าไปด้วยหน่อย
ได้เวลากลับครับ เพราะต้องไปปั่นจักรยานกันต่อ
แต่ตอนกลับลงมาขอเดินลงทางราบนะครับ เพราะบันไดไม่ไหวจริง ๆ ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง แวะมาไหวศาลเจ้าข้างล่างด้วย กลับมานั่นรอรถไฟกลับมายังสถานีคาวากูชิโก
ได้เวลาออกกำลังกันหน่อยครับ ปั่นจักรยานกันสิครับ รอบทะเลสอบกันเลย ไม่ไกลๆ เราเช่ากันสองชั่วโมงครับ เพราะร้านปิดห้าโมง ร้านเช่าก็หาได้ไม่ยากแถวๆ หน้าสถานีมีหลายร้าน เริ่มกันเลย
ปั่นกันไปลงเนินไปเรื่อยๆ
ปั่นข้ามสะพานไปอีกฝั่ง
ในวันที่ฟ้าเป็นใจ
มุมนี้บ้าง
ปั่นกันไป
กลับมาคืนจักรยานกันเรียบร้อย แต่อยากจะบอกว่าหอบเลยครับ เหนื่อยมากถึงขึ้นต้องจูงจักรยานกันเลยทีเดียว แต่รับรองความสนุก จริงๆแล้ว กลับมาก็หาอะไรกินในสถานีรถกลับเข้าโตเกียวครับ เราจองรถไว้หนึ่งทุ่มกว่าๆ ครับ พอพระอาทิตย์ตกเท่านั้นแหละที่นี้อากาศหนาวมากๆๆๆ ออกนอกสถานีสั่นกันเลยทีเดียว พอได้เวลารถก็มาตรงเวลาครับ กลับมาถึงโตเกียวก็เกือบห้าทุ่ม นั่ง Subway กลับที่พัก หมดแรงสุด ๆ
วันนี้ลากันกับภาพนี้นะครับ
วันที่ 7 วันนี้ตื่นสายครับ เมื่อวานหนักไปหน่อย check out โรงแรมเรียบร้อย เอากระเป๋ามาฝากที่ล็อกเกอร์สถานีอะซากุซะ ครับ ราคา 300 เยน เสร็จแล้วก็ออกไปชมซากุระที่สวน Ueno ซากุระต้นใหญ่มาก อากาศค่อนข้างสบาย เดินชิวไปเรื่อยๆ
ต้นใหญ่มากๆ
ทั่วไปในสวน
เดินครับเดิน
วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร
ชอบภาพนี้มากเลย จริงๆคือสวยกว่านี้มาก
แบบใกล้ชิด
ชิดได้อีก แต่อย่าจับละ
เอาให้สุดๆ
ได้เวลากลับแล้ว
เดินผ่านผู้คนออกมาเลย
เสร็จแล้วก็ไปสร้างกิเลสกันต่อที่ชิบูยาครับ นั่งพักผ่อนรอเวลากลับไปสนามบินนาริตะ วันนี้เราจะไปนอนที่คันไซ เพราะขี้เกียจเข้าเมืองนอนสนามบินกันเลยดีกว่า สำหรับประเทศญี่ปุ่นเราก็พักไว้แค่นี้ก่อน ครั้งหน้าเราสัญญาจะก่อนมาอีกแน่นอน เพราะเป็นเมืองที่สวยงามผู้คนใจดี เป็นกันเอง โดยรวมประทับใจมากครับ ติดตามกระทู้ต่อไปกันได้นะครับว่าเราจัดลัดเลาะไปเที่ยวเกาหลีจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ส่งท้ายกันครับ
อย่าลืมติดตามตอนที่ 3 กันนะครับ และสรุปค่าใช้จ่ายให้ตอนสุดท้ายครับ วันนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์
[CR] แบกเป้ตลุยญี่ปุ่น ลัดเลาะเกาหลีใต้ ชมซากุระ ตอนที่ 2 โตเกียว-ฟูจิ
หลังจากที่เราได้เที่ยวชมเมืองทางภูมิภาคคันไซมาบ้างแล้ว ตอนนี้ได้ได้เวลาชมซากุระแบบเต็มๆ ตาได้กันแล้ว
ตอนที่ 2 Tokyo - Fuji
บอกก่อนนะครับว่าจุดประสงค์ในการมาโตเกียวในครั้งนี้ก็เพื่อชมความงามของดอกซากุระและไปชมความอลังการของภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนเลย นอกจากการเดินในย่านหลักๆของโตเกียว
วันที่ 5 เราออกเดินทางจากสนามบินคันไซมุ่งสู่โตเกียวกันแต่เช้าเลย ถ้าเป็นสายการ Peach จะลง terminal1 ต้องนั่งรถบัสภายในสนามบินกลับมาที่ Terminal 2 นะครับ เพื่อนที่ไปด้วยกัน นั่ง Jestar มาลง Terminal 2 เรานัดเจอกันตรงนี้ครับ เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมืองกันครับ
จากโอซาก้ามาโตเกียว เรานั่ง Peach มาครับ ระหว่างทางเราสามารถมองเห็นยอดฟูจิได้ด้วยนะครับ แต่เก็บภาพไม่ทัน
หลังจากเรานั่งรถไฟมาสักชั่วโมงครับ ก็มาถึง เราเลือกที่พักแถวอาซากุสะครับ แต่คงเป็นเรื่องปกติครับ มาถึงก็หลง เดินหาที่พักไม่เจอ เกือบชั่วโมง ถามเป็นสิบคน กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน อากาศที่นี้อุ่นกว่าคันไซครับ พอcheck in ที่พักเรียบร้อย ก็เริ่มออกเที่ยวกันเลย ที่โตเกียวผมใช้ Tokyo Subway 3 day Ticket ราคา 1500 เยน จริงเดินทางอย่างผมไม่ถึง 500 เยนต่อวันหรอกครับ แต่เพื่อความสะดวกไม่ต้องต่อแถวซื้อตั๋ว
เริ่มที่แรกก็คือวัด Sensoji หรือวัด อะสะกุสะ สวยงามแต่คนเยอะมากครับ คนไทยเยอะจริงๆ เดินไปเรื่อยๆจนมาถึงหน้าวัดครับ
ที่พักของผมอยู่หลังวัด Sensoji ต้องเดินลัดด้านหลังวัดมาเพื่อมาขึ้น subway
เดินเข้าหลังวัดมาเจอเลย
คนเยอะจริงๆ ครับ คนไทยทั้งนั้น
เดินมาถึงบริเวณหน้าวัดครับ คนแน่นมาก ตอนนี้สัก 11 โมง
......รอติดตามชมความสวยงามของวัดตอนเช้าได้นะ.......
เราเดินเลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอสะพานข้างหน้าสามารถมองเห็น Tokyo sky tree และตึกอาซาฮี เดินเล่นไปเรื่อยๆ ความสวยงามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยเพราะได้สัมผัสกับความงามของดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งครับ 2 ฝั่งแม่น้ำ โรแมนติดสุดๆ
ตึกสำนักงานใหญ่อาซาฮี มองไกลเห็น Tokyo Sky tree ด้วย
เดินข้ามสะพานไปอีกฝั้งกัน
เดินมาถึงอีกฝั่งแล้ว
เดินมาจนเหนื่อยพอสมควร เริ่มหิว เพราะยังไม่ได้กินอะไรกันเลย ไหนๆ ขอแจมกับคนญี่ปุ่นเลยละกัน เค้ามีร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม มีที่นั่งให้พักผ่อน กับบรรยากาศแสนสบายครับ อาหารไม่แพงครับ
ภาพนี้ระหว่างเดินหาข้าวกิน
นานๆจะเห็นดอกซากุรีสีนี้ครับ ชมพูสวยมากๆ
ยังเดินชมความงามไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบายมาก
ขอนั่งแจมกับคนญี่ปุ่นเลยละกัน กับข้าวอร่อย ไม่แพงครับ
บรรยากาศทั่วๆ ไป แดดไม่ร้อน
อิ่มแล้วก็เดินชมดอกซากุระไปเรื่อยๆ ครับ เดินมาจนถึง Tokyo sky tree ไกลพอสมควร แต่คุ้มค่าคับ
บรรยากาศสวนะหว่างการเดินเที่ยว
เขากำลังทำพิธีแต่งงานกันครับ แต่คนเยอะเลยไม่กล้าเข้าไป
จุดหมายที่เราจะไปกัน ไกลมาก เดินมาได้ไงไม่รู้
ต่อไปคือเราต้องไปซื้อตั๋วรถบัสเพื่อพรุ่งนี้เราจะไปชมความงามของภูเขาไฟฟูจิ พร้อมแล้วก็เดินลง subway ครับ ไปซื้อกันที่ชินจุกุ ครับ
ได้ตั๋วรถเรียบร้อยแต่เราต้องมาขึ้นรถที่ชั้น 5 สถานีชิบูยา เพราะรถที่สถานชินจุกุเต็ม ได้เวลา 08.00 ครับ
แต่เพื่อความชัวร์เราไม่เคยมา ลง subway เพื่อจะมาดูหน้าตาสถานีที่ ชิบูยาครับ ห้าแยกที่ทุกคนต้องมา คนเยอะจริงๆ ไม่ช้าครับหามุมถ่ายรูปกันก่อนเลย
สัญญาลักษณ์ของย่านนี้ครับ
เดินข้ามถนนไปหามุมถ่ายรูปกัน
เบียดฝูงชนจำนวนมากมาได้แล้ว ชั้น 2 starbucks รอไฟเขียว
พอไฟเขียว คนอย่างมดเดิน
นั่งพักให้หายเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาหาแห่งความสุข shopping
เดินเที่ยว shop กันสนุกเลย แหล่งละลายทรัพย์ หมดกันเยอะทีเดียว
ค่ำแล้วอีกสักที่ละกัน ลงsubway เปลี่ยนกันไปมา ก็มาถึง Tokyo tower ยามค่ำคืนพร้อมสายฝน
Tokyo tower ยามค่ำคืน
เหนื่อยแล้วสำหรับวันนี้เข้าที่พัก นอนเอาแรงพรุ่งนี้จะพาไปหาฟูจิชังกัน
วัด Sensoji ยามค่ำคืน ไม่มีคน เงียบมาก
วันที่ 6 ตื่นเช้ากันพอสมควร เพราะกลัวมันทันรถ อย่าลืมตั๋วรถที่ซื้อมาเมื่อวานนะครับ ราคาไปกลับจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ 3500 เยน ระหว่างทางเดินไป subway ก็ต้องผ่านวัดเช่นเคย แต่วันนี้เช้ามากไม่มีคน
เช้ามีแต่คนญี่ปุ่นมาเดินออกกำลังกัน
ตอนนี้ 7 โมงเช้าครับ
ไม่มีคนแย่งถ่ายรูป จัดกันสักหน่อย
หน้าวัดตอนเช้าไม่มีคนเลย
เรานั่ง subway มาถึงก่อนเวลาหาอะไรกินรองท้อง จากนั้นก็ออกเดินทางจากชิบูย่าไปคาวากูชิโกะ นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง อากาศแจ่มใส ความหลังคือเห็นฟูจิแบบเต็มๆ นั่งมาได้สักชั่วโมงกว่าๆ ก็สมปรารถนา ฟูจิชัง ใหญ่จริงๆ สวยงามมาก
ภาพระหว่างทาง ฟูจิ ถ่ายบนรถบัส
เรามาถึงสถานีคาวากูชิโกะก็ราวๆ 11 โมงครับ สถานีนี้เป็นสถานีรถไฟด้วย ใครนั่งรถไฟมาก็มาลงสถานีเช่นกัน
ถึงแล้ว สถานี้คาวากุชิโกะ
หน้าสถานี้
แล้วก็กินข้าวเที่ยงกัน หน้าสถานีเลย 500 เยนเอง
จากนั้นก็ซื้อตั๋วรถไฟท้องถิ่นเพื่อจะไปพิชิตเจดีย์แดงครับ ตารางเวลาก็สอบถามจากพนักงานได้เลย นั่งไปสักสามสิบนาทีก็ถึงครับ แต่ก็ต้องเดินต่อไปไม่เกิน 2 กิโลเมตรก็จะถึงยอดเจดีย์แดงที่คู่กับภูเขาไฟฟูจิครับ
ระหว่างทางเดินไปเจดีย์แดงครับ
ถึงแล้วทางขึ้น
เดินขึ้นบันไดกันครับ หอบครับเหนื่อยมาก แต่เสียดายซากุระยังไม่บาน
ก่อนถึงยอดเจดีย์แดง
นั่งพักก่อนสักหน่อย เหนื่อยจริงๆๆ
ถึงแล้วยอดเจดีย์แดงคู่ภูเขาไฟฟูจิ
ขอแทรกตัวเข้าไปด้วยหน่อย
ได้เวลากลับครับ เพราะต้องไปปั่นจักรยานกันต่อ
แต่ตอนกลับลงมาขอเดินลงทางราบนะครับ เพราะบันไดไม่ไหวจริง ๆ ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง แวะมาไหวศาลเจ้าข้างล่างด้วย กลับมานั่นรอรถไฟกลับมายังสถานีคาวากูชิโก
ได้เวลาออกกำลังกันหน่อยครับ ปั่นจักรยานกันสิครับ รอบทะเลสอบกันเลย ไม่ไกลๆ เราเช่ากันสองชั่วโมงครับ เพราะร้านปิดห้าโมง ร้านเช่าก็หาได้ไม่ยากแถวๆ หน้าสถานีมีหลายร้าน เริ่มกันเลย
ปั่นกันไปลงเนินไปเรื่อยๆ
ปั่นข้ามสะพานไปอีกฝั่ง
ในวันที่ฟ้าเป็นใจ
มุมนี้บ้าง
ปั่นกันไป
กลับมาคืนจักรยานกันเรียบร้อย แต่อยากจะบอกว่าหอบเลยครับ เหนื่อยมากถึงขึ้นต้องจูงจักรยานกันเลยทีเดียว แต่รับรองความสนุก จริงๆแล้ว กลับมาก็หาอะไรกินในสถานีรถกลับเข้าโตเกียวครับ เราจองรถไว้หนึ่งทุ่มกว่าๆ ครับ พอพระอาทิตย์ตกเท่านั้นแหละที่นี้อากาศหนาวมากๆๆๆ ออกนอกสถานีสั่นกันเลยทีเดียว พอได้เวลารถก็มาตรงเวลาครับ กลับมาถึงโตเกียวก็เกือบห้าทุ่ม นั่ง Subway กลับที่พัก หมดแรงสุด ๆ
วันนี้ลากันกับภาพนี้นะครับ
วันที่ 7 วันนี้ตื่นสายครับ เมื่อวานหนักไปหน่อย check out โรงแรมเรียบร้อย เอากระเป๋ามาฝากที่ล็อกเกอร์สถานีอะซากุซะ ครับ ราคา 300 เยน เสร็จแล้วก็ออกไปชมซากุระที่สวน Ueno ซากุระต้นใหญ่มาก อากาศค่อนข้างสบาย เดินชิวไปเรื่อยๆ
ต้นใหญ่มากๆ
ทั่วไปในสวน
เดินครับเดิน
วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร
ชอบภาพนี้มากเลย จริงๆคือสวยกว่านี้มาก
แบบใกล้ชิด
ชิดได้อีก แต่อย่าจับละ
เอาให้สุดๆ
ได้เวลากลับแล้ว
เดินผ่านผู้คนออกมาเลย
เสร็จแล้วก็ไปสร้างกิเลสกันต่อที่ชิบูยาครับ นั่งพักผ่อนรอเวลากลับไปสนามบินนาริตะ วันนี้เราจะไปนอนที่คันไซ เพราะขี้เกียจเข้าเมืองนอนสนามบินกันเลยดีกว่า สำหรับประเทศญี่ปุ่นเราก็พักไว้แค่นี้ก่อน ครั้งหน้าเราสัญญาจะก่อนมาอีกแน่นอน เพราะเป็นเมืองที่สวยงามผู้คนใจดี เป็นกันเอง โดยรวมประทับใจมากครับ ติดตามกระทู้ต่อไปกันได้นะครับว่าเราจัดลัดเลาะไปเที่ยวเกาหลีจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ส่งท้ายกันครับ
อย่าลืมติดตามตอนที่ 3 กันนะครับ และสรุปค่าใช้จ่ายให้ตอนสุดท้ายครับ วันนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์