สำหรับเราดูดไขมันเจ็บหมดนะ แต่เจ็บแบบทนได้ขนาดไหนมากกว่า อย่างแบบ CoolSculpting ตอนดูดไม่เจ็บมาก ไม่เจ็บเอาตอนที่นวดหลังจากแช่แข็งไขมัน ระบมกี่วันก็ว่ากันไป อย่างของเราดูดมาแบบ body tite ที่ ultima clinic ก็จะเจ็บตอนพักฟื้นเล็กน้อย ซึ่งโดยปกติของการดูดแบบนี้มันแผลเล็ก เจ็บน้อยและบอบช้ำน้อยอยู่แล้ว แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าแบบอื่น เพราะมันทั้งช่วยดูดไขมันและยกกระชับผิวในคราวเดียว ความร้อนที่ปล่อยออกมาก็ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บางวิธีไม่มีในส่วนนี้ และบางวิธีดูดแต่ไขมันแต่เซลลูไลท์ไม่ลดก็มี ดังนั้นเจ็บทั้งที เจ็บแบบให้ผลลัพธ์ครบสูตรไปเลยดีกว่าค่ะ

เจ็บจ้าแต่เจ็บแบบทนได้ เราดูดต้นขาด้านในทั้ง2ข้าง แบบbody jet ที่ Amara clinic เลือกวางยาสลบเพราะส่วนตัวเป็นคนกลัวเจ็บ และไม่ชอบลุ้นตอนทำ กลัวแพนิคแล้วต้องบอกให้หมอหยุดกลางทาง หมอก็ไม่แนะนำ คนที่ดูดหลายจุดก็ควรวางนะ เราว่า มันเสียวเจ็บหลายตำแหน่ง ข้อเสียของการดูดแบบเรานะ คุณหมอแจ้งตั้งแต่แรกเลย คือใช้เวลานานกว่าปกติ พีคๆก็4ชั่วโมง และสัดส่วนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลัง1เดือน บางคนเร็วหน่อยก็1วีค หลังดูดไขมันเสร็จ จะมีน้ำค้างอยู่ใต้ผิวจำนวนมาก จึงทำให้บวม ผลลัพธ์มันเลยขึ้นอยู่กับการดูแลหลังจากนั้นด้วย ไม่อวยไม่เว่อร์ ว่ากันตามจริง ส่วนข้อดีเพียบ ตามราคา ทำวิธีนี้มันจะแพงกว่าวิธีอื่นหน่อย เราสตาร์ทที่ 39k+ แต่ตอนทำไม่ทรมาน ผิวไม่เป็นคลื่น แผลเล็ก อีกวันไปทำงานได้ พักฟื้นเร็ว ไขมันที่ดูดออกมาเอาไปเติมหน้าต่อได้ด้วย

เราเคยดูดไขมันที่ต้นขาที่ คลีนิค Natchaya คลีนิคใกล้ๆบ้านเรา แถวๆเสรีไทย ตอนแรกก็เข้าไปปรึกษาแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยอ่ะ แต่พอเข้าไปคุยกับหมอแล้วคุณหมอก็แนะนำให้ดูดไขมันแบบที่เรียกว่า Bodytite ค่ะ หมอบอกว่าเป็นการใช้คลื่นอะไรซักอย่าง (อันนี้เราก็จำไม่ได้) เข้าช่วยในการละลายไขมันก่อนการดูดออกมา ซึ่งผิวหนังจะสามารถหดตัวได้อีกประมาณ30%หลังทำ

เคสของเรา ก่อนทำคุณหมอจะดูรูปร่างให้ก่อนค่ะ ว่าจุดที่เรากังวล ควรดูดตรงไหนบ้าง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม

ตอนดูด หมอจะให้ยาชา เรียกได้ว่าเราจะรู้สึกตัวเลยแหละ ตอนดูดส่วนใหญ่ไม่เจ็บค่ะ แต่จะรู้สึกว่ามีแรงของเข็มที่กระทุ้งๆ อยู่ใต้ผิวเรา มีเจ็บจี้ดบางช่วงที่เหมือนจะโดนกล้ามเนื้ออ่ะ แต่โดยรวมถือว่าเจ็บแบบทนได้อ่าค่ะ

หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ยาชาจะเริ่มปวดค่ะ เจ็บแบบระบม คุณหมอจะมียาแก้ปวดมาให้ทาน แผลที่ดูดก็ห้ามโดนน้ำเป็นอันขาดนะคะ ประมาณ 7 วัน หมอแนะนำมาว่า ช่วงสัปดาห์แรก ไม่ควรเดินเยอะ เพราะจะยิ่งระบม และหายบวมช้า ส่วนแผลนั้นเล็กมากค่ะ ประมาณ 2-3 มิลเท่านั้นเอง

หลังจากผ่านกระบวนการดูดไขมันและช่วงพักตัวแล้วเราก็ต้องใส่กางเกงกระชับสำหรับคนดูดไขมันโดยเฉพาะ ใส่ตลอดเวลา สัก 2 เดือนค่ะ เพื่อกระชับผิวหนังค่ะ โดยรวมแล้วเราค่อนข้างจะพอใจนะ ต้นขาเรากลับมากระชับเหมือนเดิมเลยค่ะ