สวัสดีค่ะ เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากเรื่องของเราได้รับการแก้ไข และเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกท่านไม่หลงเชื่อตัวแทนประกันที่ไร้จรรยาบรรณหลอกลวง (หมายเหตุ:จขกท. ยืม Log in เพื่อมา post นะคะ ..ขอน้อมรับให้ความผิดพลาดทุกประการของตัวเอง ต่อว่าได้นะคะ แต่อย่าแรง^^ เพราะตอนนี้รู้สึกแย่มาก)
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ช่วงเดือนมีนาคม 61 มีตัวแทนประกันจากกรุงไทยแอกซ่า 3 คนเดินมาขายประกันที่บ้านเรา (บ้านจขกท. เป็นร้านค้า)
ตัวแทนได้เสนอขายประกัน ไอชิลด์ คุ้มครองโรคร้ายแรง กับคุณพ่อและคุณแม่เรา ซึ่งคุณแม่เราสนใจ แต่ทางตัวแทนแจ้งว่าคุณแม่มีอายุเยอะแล้ว
(67ปี) ไม่สามารถทำประกันตัวนี้ได้ ขอให้เป็นชื่อเราทำประกันแทน และได้เอาโปรโมชั่นมาล่อ ว่าหากซื้อประกัน 150,000 บาท จะได้รับทองคำมูลค่า 2
บาท คุณแม่อยากได้ทองที่เค้าเสนอให้ จึงคะยั้นคะยอให้ จขกท. ลองคุยกับตัวแทนดู
อีก 2-3วันต่อมา ตัวแทนประกัน มาเฝ้ารอขอคุยกับเรา ซึ่งคนที่คุยกันเรา ชื่อตั้ม และ ชื่อ เอฟ โดยแจ้งว่าประกันตัวนี้เป็นการออมเงิน จ่ายเบี้ยประกัน 5 ปี ได้รับความคุ้มถึงอายุ 85 ปี และที่ 6 ได้เงินคืนครบจำนวนที่ส่งไป รายละเอียดที่คุยกันมีดังนี้
เรา : ถ้าส่งเบี้ยประกันครบแล้ว เราจะยกเลิกโดยขอเวนคืน จะได้รับเงินคืนทั้งหมดตามจำนวนที่ส่งไปหรือไม่
ตั้ม : ได้รับคืนครบ แต่ไม่แนะนำให้ยกเลิก ให้แช่ต่อเพื่อเอาความคุ้มครองดีกว่า
จากข้อมูลที่นายตั้มให้มา เราจึงหลงเชื่อประกอบความเกรงใจ คุณแม่ที่อยากให้ทำประกัน เพราะสนใจที่จะได้รับทอง เราจึงทำประกัน ไอชิลด์ กับนายตั้ม แต่หลังจากนั้นเวลาผ่านไปหลายเดือน เราได้โทรเข้าไปที่ call center สอบถามรายละเอียดกรรมธรรม์ จึงได้ทราบความจริงว่า
"หากส่งเงินประกันครบ 5 ปีแล้ว ต้องการยกเลิกกรรมธรรม์ จะไม่ได้รับเงินคืนตามจำนวนที่ส่งไปจะได้รับเงินคืนเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยได้แนะนำให้ลองคำนวณเงินเวนคืนจากรายละเอียดท้ายกรรมธรรม์" ซึ่งพบว่าไม่ตรงตามที่ตัวแทนแจ้งตอนเสนอขายประกัน
เมื่อคำนวณจากตารางแนบท้ายกรรมธรรม์ จะพบว่า จะต้องถือกรรมธรรม์นานถึง 24 ปี ถึงจะสามารถยกเลิกกรรมธรรม์ ได้โดยรับเงินต้นค่าเบี้ยประกันทั้งหมดคืน เราจึงร้องเรียน แต่Call center แจ้งเพียงให้ติดต่อไปทางตัวแทนก่อนโดยความเป็นจริงแล้วตัวแทนประกันทำงานให้บริษัท ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเมื่อเกิดความผิดพลาดที่จากการขาย ทางบริษัทควรแสดงความรับผิดชอบ ตรวจสอบและแก้ไขให้ลูกค้า มากกว่าแจ้งให้ติดต่อตัวแทนประกัน
เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ละเอียดรอบครอบเราและความโลภ เราจึงคิดว่า การที่จะโทรไปถามรายละเอียดกับตัวแทนเลย อาจจะได้ข้อมูลที่เปลี่ยนไป ไม่ตรงจากครั้งแรกที่เสนอขาย ดังนั้นเราจึงให้เพื่อนที่รู้จัก ลองโทรไปสอบถามทำทีว่าสนใจจะทำประกันก่อน เพื่อดูว่า นายตั้ม จะมีท่าทีหรือลักษณะการพูดอย่างไร ทางนายตั้มแสดงความสนใจและบอกว่าจะขอดูแลให้ สามารถนัดเจอคุยกันรายละเอียดกันได้หรือไม่ แต่เพื่อนเราขอข้อมูลคร่าวๆ ก่อน แล้วบอกว่า ไว้เดี๋ยวขอตัดสินใจก่อน พอดีดูๆของบริษัทอื่นไว้ด้วย
วันถัดมา เราจึงโทรเข้าไปคุยกับนายตั้ม พร้อมบันทึกเสียงไว้ รายละเอียดประมาณนี้
ตั้ม : วันก่อนที่เพื่อนพี่โทรเค้ายังสนใจจะทำประกันรึป่าวครับ
เรา : เค้าบอกขอคิดดูก่อน พี่สงสัยชื่อตัวแทนที่อยู่ในกรรมธรรม์ ทำไมไม่ชื่อของตั้มเลย จะมีปัญหาอะไรรึป่าว
ตั้ม : ไม่มีปัญหาครับพี่ ผมช่วยกันขายเป็นทีม เพื่อแบ่งยอดกัน แต่ผมยังดูแลพี่ได้อยู่นะครับ
เรา : แล้วชื่อ เอฟ นี่คือ พงษ์ศักดิ์ xxx ที่อยู่ในกรรมธรรม์ใช่ไหม (อีกคนที่ช่วยกันขาย และมาเจอเราวันนั้น)
ตั้ม : ใช่ครับพี่
เรา : พี่อยากถามเกี่ยวกับ การยกเลิกถ้าพี่ส่งเงินประกันครบ 5 ปีแล้ว ต้องการยกเลิกกรรมธรรม์ พี่จะได้รับเงินคืนเต็มตามที่เคยคุยกันไว้รึป่าว
ตั้ม : ได้รับคืนไม่ครบนะครับพี่ หักบ้างนิดหน่อย ไม่มาก ไม่ต้องสนใจครับ
เรา : อ้าว ตอนทำบอกได้คืนครบนี่ แต่ตอนนี้หักนิดหน่อย มันคือยังไงกันคะ
ตั้ม : อ๋อ ตอนนั้นที่เสนอ ผมเสนอกับคุณแม่และคุณพ่อพี่ ซึ่งจะเป็นคำนวณอีกแบบนึงครับ แต่ถ้าของพี่จะเป็นอีกแบบ (งง เถไปง่ายๆ ทั้งที่ตั้งใจจะ ขายเราตั้งแต่ต้น เพราะรู้แก่ใจว่า ประกันนี้ขายผู้สูงอายุไม่ได้อยู่แล้ว บริษัทไม่รับทำ 555)
เรา : ที่บอกหักไม่เยอะ คงไม่ใช่ล่ะ พี่ลองคิดแล้ว มันหักเยอะนะ ห่างกันเป็นแสนอยู่
ตั้ม : พี่คิดจากไหนครับ
เรา : พี่ดูจากเอกสารแนบท้ายตางรางกรรมธรรม์
ตั้ม : อ๋อ มันเป็น วิธีคิดของนักคณิตศาสตร์ ครับ หึ หึ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ พอดีผมอยู่ข้างนอก เดี๋ยวถ้าอยู่บริษัทผมจะส่งรายละเอียดให้พี่ดู (หัวเราะ ใส่เรา หึ หึ อารมณ์ประมาณว่า ตารางนักคณิตศาสตร์ นี่เชื่อไม่ได้ พี่ไปเอาจากไหนมา...แต่ก่อนเราจะมาถาม เราดูมาแล้วว่าตารางนี้เป็นมาตรฐานของคิดของแต่ละกรรมธรรม์ /สรุปเราโดนตัวแทนที่ไม่มีความรู้เรี่องกรรมธรรม์หลอกเราเหรอเนี่ย)
เรา : งั้น พี่ขอรูปถ่ายบัตรตัวแทนของตั้มได้ไหม ถ่ายส่ง line มาให้หน่อยนะ เพื่อความสบายใจ (ตั้ม เริ่มอึกอัก ไม่ยอมส่งรูปถ่ายให้ จนเราเค้นถาม จึงยอมพูดความออกมาว่า..)
ตั้ม : คือ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นตัวแทนแล้วนะครับ มีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย เอายังงี้นะครับ เดี๋ยวผมให้เอฟ โทรกลับหาพี่คุยรายละเอียดกับเอฟ ได้โดยตรงนะครับ
เรา : อ้าว แล้วเลิกทำเมื่อไร่ ยังไง คือให้ เอฟคุยได้ใช่ไหม
ตั้ม : ได้ครับ เอฟดูแลได้ เอฟมีชื่ออยู่ในกรรมธรรม์พี่ด้วย
เรา : แล้วถ้าเพื่อนพี่ สนใจจะทำประกันล่ะ จะให้คุยกับตั้มต่อไหม
ตั้ม : ให้เพื่อนพี่คุยกับ เอฟ ได้เลยครับ ....(ทีตอนนี้ไม่อยากขายซะล่ะ 555)
จากรายละเอียดนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า เราเจอตัวแทนที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพหลอกหลวง ทั้งให้ข้อมูลบิดเบือน เสนอส่วนลดเพื่อจูงใจ (โปรแจกทอง) แถมตัวแทนยังขาดความรู้ความเข้าใจให้รายละเอียดกรรมธรรม์และสัญญาแนบท้ายตาราง เราได้แจ้งไปยังบริษัท กรุงไทยแอกซ่า เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และได้ส่งไปยัง คปภ. แล้ว เข้าใจว่าเคสร้องเรียนนี้เยอะมาก
ถ้าเงินจำนวนไม่เยอะ เราคงพอตัดใจเสียกับค่าโง่ของตัวเองได้ แต่นี่เงินถึง 150,000 บาท สำหรับเรามัน เป็นจำนวนที่มากอยู่
ตอนนี้เราร้อนใจมาก อยากได้เงินคืนเต็มจำนวน ก็พยายามทำทุกช่องทางแล้ว เหลือแต่ทางพันทิปที่สุดท้ายที่เราเห็นว่า จะเป็นสื่อที่ช่วยให้เรื่องของเราได้รับการแก้ไขและความรับผิดชอบ จากบริษัทกรุงไทยแอกซ่า
บทเรียนราคาแพง ถูกตัวแทนกรุงไทยแอกซ่า หลอกทำประกัน 150,000 บาท
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ช่วงเดือนมีนาคม 61 มีตัวแทนประกันจากกรุงไทยแอกซ่า 3 คนเดินมาขายประกันที่บ้านเรา (บ้านจขกท. เป็นร้านค้า)
ตัวแทนได้เสนอขายประกัน ไอชิลด์ คุ้มครองโรคร้ายแรง กับคุณพ่อและคุณแม่เรา ซึ่งคุณแม่เราสนใจ แต่ทางตัวแทนแจ้งว่าคุณแม่มีอายุเยอะแล้ว
(67ปี) ไม่สามารถทำประกันตัวนี้ได้ ขอให้เป็นชื่อเราทำประกันแทน และได้เอาโปรโมชั่นมาล่อ ว่าหากซื้อประกัน 150,000 บาท จะได้รับทองคำมูลค่า 2
บาท คุณแม่อยากได้ทองที่เค้าเสนอให้ จึงคะยั้นคะยอให้ จขกท. ลองคุยกับตัวแทนดู
อีก 2-3วันต่อมา ตัวแทนประกัน มาเฝ้ารอขอคุยกับเรา ซึ่งคนที่คุยกันเรา ชื่อตั้ม และ ชื่อ เอฟ โดยแจ้งว่าประกันตัวนี้เป็นการออมเงิน จ่ายเบี้ยประกัน 5 ปี ได้รับความคุ้มถึงอายุ 85 ปี และที่ 6 ได้เงินคืนครบจำนวนที่ส่งไป รายละเอียดที่คุยกันมีดังนี้
เรา : ถ้าส่งเบี้ยประกันครบแล้ว เราจะยกเลิกโดยขอเวนคืน จะได้รับเงินคืนทั้งหมดตามจำนวนที่ส่งไปหรือไม่
ตั้ม : ได้รับคืนครบ แต่ไม่แนะนำให้ยกเลิก ให้แช่ต่อเพื่อเอาความคุ้มครองดีกว่า
จากข้อมูลที่นายตั้มให้มา เราจึงหลงเชื่อประกอบความเกรงใจ คุณแม่ที่อยากให้ทำประกัน เพราะสนใจที่จะได้รับทอง เราจึงทำประกัน ไอชิลด์ กับนายตั้ม แต่หลังจากนั้นเวลาผ่านไปหลายเดือน เราได้โทรเข้าไปที่ call center สอบถามรายละเอียดกรรมธรรม์ จึงได้ทราบความจริงว่า
"หากส่งเงินประกันครบ 5 ปีแล้ว ต้องการยกเลิกกรรมธรรม์ จะไม่ได้รับเงินคืนตามจำนวนที่ส่งไปจะได้รับเงินคืนเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยได้แนะนำให้ลองคำนวณเงินเวนคืนจากรายละเอียดท้ายกรรมธรรม์" ซึ่งพบว่าไม่ตรงตามที่ตัวแทนแจ้งตอนเสนอขายประกัน
เมื่อคำนวณจากตารางแนบท้ายกรรมธรรม์ จะพบว่า จะต้องถือกรรมธรรม์นานถึง 24 ปี ถึงจะสามารถยกเลิกกรรมธรรม์ ได้โดยรับเงินต้นค่าเบี้ยประกันทั้งหมดคืน เราจึงร้องเรียน แต่Call center แจ้งเพียงให้ติดต่อไปทางตัวแทนก่อนโดยความเป็นจริงแล้วตัวแทนประกันทำงานให้บริษัท ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเมื่อเกิดความผิดพลาดที่จากการขาย ทางบริษัทควรแสดงความรับผิดชอบ ตรวจสอบและแก้ไขให้ลูกค้า มากกว่าแจ้งให้ติดต่อตัวแทนประกัน
เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความไม่ละเอียดรอบครอบเราและความโลภ เราจึงคิดว่า การที่จะโทรไปถามรายละเอียดกับตัวแทนเลย อาจจะได้ข้อมูลที่เปลี่ยนไป ไม่ตรงจากครั้งแรกที่เสนอขาย ดังนั้นเราจึงให้เพื่อนที่รู้จัก ลองโทรไปสอบถามทำทีว่าสนใจจะทำประกันก่อน เพื่อดูว่า นายตั้ม จะมีท่าทีหรือลักษณะการพูดอย่างไร ทางนายตั้มแสดงความสนใจและบอกว่าจะขอดูแลให้ สามารถนัดเจอคุยกันรายละเอียดกันได้หรือไม่ แต่เพื่อนเราขอข้อมูลคร่าวๆ ก่อน แล้วบอกว่า ไว้เดี๋ยวขอตัดสินใจก่อน พอดีดูๆของบริษัทอื่นไว้ด้วย
วันถัดมา เราจึงโทรเข้าไปคุยกับนายตั้ม พร้อมบันทึกเสียงไว้ รายละเอียดประมาณนี้
ตั้ม : วันก่อนที่เพื่อนพี่โทรเค้ายังสนใจจะทำประกันรึป่าวครับ
เรา : เค้าบอกขอคิดดูก่อน พี่สงสัยชื่อตัวแทนที่อยู่ในกรรมธรรม์ ทำไมไม่ชื่อของตั้มเลย จะมีปัญหาอะไรรึป่าว
ตั้ม : ไม่มีปัญหาครับพี่ ผมช่วยกันขายเป็นทีม เพื่อแบ่งยอดกัน แต่ผมยังดูแลพี่ได้อยู่นะครับ
เรา : แล้วชื่อ เอฟ นี่คือ พงษ์ศักดิ์ xxx ที่อยู่ในกรรมธรรม์ใช่ไหม (อีกคนที่ช่วยกันขาย และมาเจอเราวันนั้น)
ตั้ม : ใช่ครับพี่
เรา : พี่อยากถามเกี่ยวกับ การยกเลิกถ้าพี่ส่งเงินประกันครบ 5 ปีแล้ว ต้องการยกเลิกกรรมธรรม์ พี่จะได้รับเงินคืนเต็มตามที่เคยคุยกันไว้รึป่าว
ตั้ม : ได้รับคืนไม่ครบนะครับพี่ หักบ้างนิดหน่อย ไม่มาก ไม่ต้องสนใจครับ
เรา : อ้าว ตอนทำบอกได้คืนครบนี่ แต่ตอนนี้หักนิดหน่อย มันคือยังไงกันคะ
ตั้ม : อ๋อ ตอนนั้นที่เสนอ ผมเสนอกับคุณแม่และคุณพ่อพี่ ซึ่งจะเป็นคำนวณอีกแบบนึงครับ แต่ถ้าของพี่จะเป็นอีกแบบ (งง เถไปง่ายๆ ทั้งที่ตั้งใจจะ ขายเราตั้งแต่ต้น เพราะรู้แก่ใจว่า ประกันนี้ขายผู้สูงอายุไม่ได้อยู่แล้ว บริษัทไม่รับทำ 555)
เรา : ที่บอกหักไม่เยอะ คงไม่ใช่ล่ะ พี่ลองคิดแล้ว มันหักเยอะนะ ห่างกันเป็นแสนอยู่
ตั้ม : พี่คิดจากไหนครับ
เรา : พี่ดูจากเอกสารแนบท้ายตางรางกรรมธรรม์
ตั้ม : อ๋อ มันเป็น วิธีคิดของนักคณิตศาสตร์ ครับ หึ หึ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ พอดีผมอยู่ข้างนอก เดี๋ยวถ้าอยู่บริษัทผมจะส่งรายละเอียดให้พี่ดู (หัวเราะ ใส่เรา หึ หึ อารมณ์ประมาณว่า ตารางนักคณิตศาสตร์ นี่เชื่อไม่ได้ พี่ไปเอาจากไหนมา...แต่ก่อนเราจะมาถาม เราดูมาแล้วว่าตารางนี้เป็นมาตรฐานของคิดของแต่ละกรรมธรรม์ /สรุปเราโดนตัวแทนที่ไม่มีความรู้เรี่องกรรมธรรม์หลอกเราเหรอเนี่ย)
เรา : งั้น พี่ขอรูปถ่ายบัตรตัวแทนของตั้มได้ไหม ถ่ายส่ง line มาให้หน่อยนะ เพื่อความสบายใจ (ตั้ม เริ่มอึกอัก ไม่ยอมส่งรูปถ่ายให้ จนเราเค้นถาม จึงยอมพูดความออกมาว่า..)
ตั้ม : คือ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นตัวแทนแล้วนะครับ มีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อย เอายังงี้นะครับ เดี๋ยวผมให้เอฟ โทรกลับหาพี่คุยรายละเอียดกับเอฟ ได้โดยตรงนะครับ
เรา : อ้าว แล้วเลิกทำเมื่อไร่ ยังไง คือให้ เอฟคุยได้ใช่ไหม
ตั้ม : ได้ครับ เอฟดูแลได้ เอฟมีชื่ออยู่ในกรรมธรรม์พี่ด้วย
เรา : แล้วถ้าเพื่อนพี่ สนใจจะทำประกันล่ะ จะให้คุยกับตั้มต่อไหม
ตั้ม : ให้เพื่อนพี่คุยกับ เอฟ ได้เลยครับ ....(ทีตอนนี้ไม่อยากขายซะล่ะ 555)
จากรายละเอียดนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า เราเจอตัวแทนที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพหลอกหลวง ทั้งให้ข้อมูลบิดเบือน เสนอส่วนลดเพื่อจูงใจ (โปรแจกทอง) แถมตัวแทนยังขาดความรู้ความเข้าใจให้รายละเอียดกรรมธรรม์และสัญญาแนบท้ายตาราง เราได้แจ้งไปยังบริษัท กรุงไทยแอกซ่า เรื่องก็ยังเงียบอยู่ และได้ส่งไปยัง คปภ. แล้ว เข้าใจว่าเคสร้องเรียนนี้เยอะมาก
ถ้าเงินจำนวนไม่เยอะ เราคงพอตัดใจเสียกับค่าโง่ของตัวเองได้ แต่นี่เงินถึง 150,000 บาท สำหรับเรามัน เป็นจำนวนที่มากอยู่
ตอนนี้เราร้อนใจมาก อยากได้เงินคืนเต็มจำนวน ก็พยายามทำทุกช่องทางแล้ว เหลือแต่ทางพันทิปที่สุดท้ายที่เราเห็นว่า จะเป็นสื่อที่ช่วยให้เรื่องของเราได้รับการแก้ไขและความรับผิดชอบ จากบริษัทกรุงไทยแอกซ่า