ปล.แชร์ 2,000 แล้ว ผมแนะนำให้อ่านความคิดเห็นทั้งหมดและความคิดเห็นของผมด้วย ผมตั้งกระทู้เพื่อให้เกิดการถกเถียงเพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบและวัฒนธรรมของทนายความ แต่ถ้าระบบและวัฒนธรรมตอนนี้ทนายความทุกคนพอใจอยู่แล้ว ผมขอโทษที่โง่เขลาไม่รู้ความในการตั้งกระทู้ไร้สาระนี้
ผมสอบทนายความได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนสอบเป็นทนายความผมซื้อหนังสือมาอ่านมาศึกษาเอง ผมเข้าอบรมที่สภาทนายความทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแทบจะไม่เคยขาด เสียอย่างเดียวที่ผมไม่ได้ฝึกงานอย่างจริงจัง ผมฝึกงานกับลุง แต่ลุงก็ไม่ค่อยมีงาน ลุงให้ผมทำข้อสอบเก่าเพื่อเตรียมสอบ และไปศาลเพื่อไปฟังสืบพยานเอาเอง ผมโชคดีหน่อยตรงที่ผมสอบทนายความรอบเดียวผ่าน อย่างไรก็ตามระยะเวลากว่าจะสอบผ่านก็ใช้เวลาเป็นปี ผมเสียเงินค่าหนังสือทนายความเป็นพัน ค่าที่พัก ค่าเดินทางไปอบรมที่สภาฯก็หลายหมื่น ค่าสมัครสอบอีกหลายพัน จบแล้วเสียค่าสูทค่าครุยหมื่นต้นๆ
แต่ตอนเริ่มต้นทำงานจริง ผมพบว่าอาชีพทนายความยากลำบาก ถูกเอาเปรียบ และไม่คุ้มค่าต่อเวลาและเงินที่เสียไปกว่าจะได้เป็นทนายความ
ผมไปทำงานกับทนายความรุ่นพี่ เขาไม่ให้เงินเดือนผม แต่ให้เป็นครั้งคราวถ้าผมออกนอกออฟฟิศเหมือนการจ้างทำของ ในเวลาที่ผมไปส่งหมาย ยื่นฟ้อง ยื่นคำร้อง คัดทะเบียนราษฎร์ ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินรถยนต์ เขาให้เงินผมต่อรอบระหว่าง 600-1500 บาท มันไม่แทบจะไม่เหลืออะไรทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าข้าว ที่ผมต้องออกเอง(ผมขับรถมอเตอร์ไซค์เวลาไปทำงานข้างนอก) ในขณะที่ผมอยู่ออฟฟิศผมต้องเข้างานตั้งแต่ 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น ช่วยหาข้อมูลทางกฎหมาย ฎีกา ร่างคำร้อง คำฟ้อง ผมได้ค่าข้าวแค่หนึ่งมื้อ ทั้งหมดนี้พี่ทนายคนนี้อ้างว่า เขาจะช่วยฝึกงานให้เราเปิดสำนักงานได้ในอนาคต และตอนที่เขาเริ่มทำงานเขาลำบากกว่าผมเยอะ ผมรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ ผมทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ผมจึงลาออก
ต่อมาผมหางานใหม่คราวนี้ผมได้เงินเดือน 15,000 บาท แต่รูปแบบงานก็เหมือนเดิม และงานค่อนข้างหนักมาก เข้างาน 9 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น ถ้างานด่วนก็อยู่ดึก งานค่อนข้างเครียดเพราะงานด่วนบ่อยมาก และหัวหน้าใช้ผมทุกอย่าง ผมทำหน้าที่ทั้งทนายความ เสมียนทนายความ เด็กส่งเอกสาร คนขับรถ พนักงานทำความสะอาดออฟฟิศ ผมอดทนทำเพื่อเอาประสบการณ์ เพื่อความฝันจะมีสำนักงานเป็นของตัวเอง และเงินเดือนเลี้ยงตัวได้บ้าง แต่สุดท้ายผมมีปัญหาเรื่องระบบการทำงานกับหัวหน้า ผมจึงลาออก
ผมไม่เข้าใจว่า อาชีพทนายความ ใบปริญญาก็มี ใบอนุญาตเป็นทนายความก็มี แต่พวกเราทนายใหม่อยากจะเริ่มต้นงานด้วยเงินแค่ 15,000 กลับเป็นเรื่องยากมาก สำนักงานบางที่ไม่มีเงินเดือน ผมยอมรับว่าผมจบออกมาแต่ยังรับว่าความเองไม่ได้ ผมจึงยอมทำงานเป็นเสมียนทนายความ เป็นเด็กส่งเอกสาร เป็นพนักงานทำความสะอาด คำถามของผมคือถ้าจบมาแล้วยังเป็นทนายความไม่ได้ ว่าความไม่เป็น ถูกกดให้ต่ำแค่เสมียน เด็กส่งเอกสาร แล้วผมจะเสียเวลา เสียเงินไปอบรมเป็นทนายความทำไม และทำไมทนายความรุ่นพี่ถึงชอบเอาเปรียบทนายความรุ่นน้อง พวกคุณไม่เห็นอกเห็นใจทนายความรุ่นน้องบ้างหรือไง หรือคิดว่าพวกคุณเริ่มต้นลำบากอย่างไร พวกคุณก็จะทำอย่างเดียวกันกับพี่พวกคุณถูกกระทำมา แล้วแบบนี้วิชาชีพทนายความจะพัฒนามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างไร
พรุ่งนี้จะเลือกนายกสภาทนายความแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าท่านใด คณะใดจะแก้ความทุกข์ทนายใหม่อย่างผมได้บ้าง
ความทุกข์ของทนายใหม่
ผมสอบทนายความได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนสอบเป็นทนายความผมซื้อหนังสือมาอ่านมาศึกษาเอง ผมเข้าอบรมที่สภาทนายความทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแทบจะไม่เคยขาด เสียอย่างเดียวที่ผมไม่ได้ฝึกงานอย่างจริงจัง ผมฝึกงานกับลุง แต่ลุงก็ไม่ค่อยมีงาน ลุงให้ผมทำข้อสอบเก่าเพื่อเตรียมสอบ และไปศาลเพื่อไปฟังสืบพยานเอาเอง ผมโชคดีหน่อยตรงที่ผมสอบทนายความรอบเดียวผ่าน อย่างไรก็ตามระยะเวลากว่าจะสอบผ่านก็ใช้เวลาเป็นปี ผมเสียเงินค่าหนังสือทนายความเป็นพัน ค่าที่พัก ค่าเดินทางไปอบรมที่สภาฯก็หลายหมื่น ค่าสมัครสอบอีกหลายพัน จบแล้วเสียค่าสูทค่าครุยหมื่นต้นๆ
แต่ตอนเริ่มต้นทำงานจริง ผมพบว่าอาชีพทนายความยากลำบาก ถูกเอาเปรียบ และไม่คุ้มค่าต่อเวลาและเงินที่เสียไปกว่าจะได้เป็นทนายความ
ผมไปทำงานกับทนายความรุ่นพี่ เขาไม่ให้เงินเดือนผม แต่ให้เป็นครั้งคราวถ้าผมออกนอกออฟฟิศเหมือนการจ้างทำของ ในเวลาที่ผมไปส่งหมาย ยื่นฟ้อง ยื่นคำร้อง คัดทะเบียนราษฎร์ ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดินรถยนต์ เขาให้เงินผมต่อรอบระหว่าง 600-1500 บาท มันไม่แทบจะไม่เหลืออะไรทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าข้าว ที่ผมต้องออกเอง(ผมขับรถมอเตอร์ไซค์เวลาไปทำงานข้างนอก) ในขณะที่ผมอยู่ออฟฟิศผมต้องเข้างานตั้งแต่ 9 โมง ถึง 5 โมงเย็น ช่วยหาข้อมูลทางกฎหมาย ฎีกา ร่างคำร้อง คำฟ้อง ผมได้ค่าข้าวแค่หนึ่งมื้อ ทั้งหมดนี้พี่ทนายคนนี้อ้างว่า เขาจะช่วยฝึกงานให้เราเปิดสำนักงานได้ในอนาคต และตอนที่เขาเริ่มทำงานเขาลำบากกว่าผมเยอะ ผมรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ ผมทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ผมจึงลาออก
ต่อมาผมหางานใหม่คราวนี้ผมได้เงินเดือน 15,000 บาท แต่รูปแบบงานก็เหมือนเดิม และงานค่อนข้างหนักมาก เข้างาน 9 โมง เลิกงาน 6 โมงเย็น ถ้างานด่วนก็อยู่ดึก งานค่อนข้างเครียดเพราะงานด่วนบ่อยมาก และหัวหน้าใช้ผมทุกอย่าง ผมทำหน้าที่ทั้งทนายความ เสมียนทนายความ เด็กส่งเอกสาร คนขับรถ พนักงานทำความสะอาดออฟฟิศ ผมอดทนทำเพื่อเอาประสบการณ์ เพื่อความฝันจะมีสำนักงานเป็นของตัวเอง และเงินเดือนเลี้ยงตัวได้บ้าง แต่สุดท้ายผมมีปัญหาเรื่องระบบการทำงานกับหัวหน้า ผมจึงลาออก
ผมไม่เข้าใจว่า อาชีพทนายความ ใบปริญญาก็มี ใบอนุญาตเป็นทนายความก็มี แต่พวกเราทนายใหม่อยากจะเริ่มต้นงานด้วยเงินแค่ 15,000 กลับเป็นเรื่องยากมาก สำนักงานบางที่ไม่มีเงินเดือน ผมยอมรับว่าผมจบออกมาแต่ยังรับว่าความเองไม่ได้ ผมจึงยอมทำงานเป็นเสมียนทนายความ เป็นเด็กส่งเอกสาร เป็นพนักงานทำความสะอาด คำถามของผมคือถ้าจบมาแล้วยังเป็นทนายความไม่ได้ ว่าความไม่เป็น ถูกกดให้ต่ำแค่เสมียน เด็กส่งเอกสาร แล้วผมจะเสียเวลา เสียเงินไปอบรมเป็นทนายความทำไม และทำไมทนายความรุ่นพี่ถึงชอบเอาเปรียบทนายความรุ่นน้อง พวกคุณไม่เห็นอกเห็นใจทนายความรุ่นน้องบ้างหรือไง หรือคิดว่าพวกคุณเริ่มต้นลำบากอย่างไร พวกคุณก็จะทำอย่างเดียวกันกับพี่พวกคุณถูกกระทำมา แล้วแบบนี้วิชาชีพทนายความจะพัฒนามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างไร
พรุ่งนี้จะเลือกนายกสภาทนายความแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าท่านใด คณะใดจะแก้ความทุกข์ทนายใหม่อย่างผมได้บ้าง