หลังพักการรีวิวไปในช่วงเทศกาล สงกรานต์ วันนี้เลยขอมารีวิวหนังสือเล่มนี้สักหน่อยครับ ถือว่าเป็นการรีวิวเบาๆสั้นๆสักหน่อย เพราะยังไม่ตกตะกอนความคิดแถมอ่านเรื่องนี้ก็หลายปีแล้ว สารภาพเลยรายละเอียดบางอย่างก็ลืมไปหมดแล้ว 555 ถ้าไม่ผิดพลาดอะไรผมอาจจะจัดรีวิวชุดใหญ่ตามมา ถ้าตะกอนความคิดได้ตกลงมาแล้วนะครับ อิอิ

เรื่องย่อ

เสือดำที่มายอ
เมื่อความปรากฏว่า มีเสือดำ ขนาดใหญ่ออกมาอาละวาดที่บ้านมายอ เชิด วรชาติ และฉัตรชัย (พนมเทียน) ต้องหาทางกำจัดมัน ก่อนที่มันจะทำร้ายลูกบ้านคนอื่นในสภาพเละเทะปางตายเหมือนคนที่แล้วมา
ไอ้ลายที่บางลาง
เสือลายพาดกลอนขนาดใหญ่ ลงจากป่าทึบมากินคน ทีมงานคุณภาพชุดเดิมจึงต้องกลับมา แต่ครั้งนี้ยากหน่อย เพราะเสือตัวนี้ฉลาดเป็นกรด ในการล่าจึงเต็มไปด้วยชิงไหวชิงพริบของทั้งคนและสัตว์
ช้องหมูป่ามฤตยูเขี้ยวตัน
มีจดหมายจากเชิดไปถึง ฉัตรชัย ให้ช่วยมาล่าหมูป่าที่มาอาละวาดที่บ้านมายอ เพราะด้วยฝีมือระดับเชิดสัตว์ป่าธรรมดายังไงก็เอาอยู่ แต่ตัวนี้ไม่ธรรมดา มันยิงไม่เข้า !!
เมื่อคุณหมอหลงป่า
ถ้าหมอสักคนจะหลงป่าก็ไม่เห็นจะแปลก แต่ถ้าไปหลงป่ากับผู้เชี่ยวเรื่องป่าและเขียวนวนิยายการเดินป่าถึง 48 เล่มจบ นี่แหละแปลก

จัดเป็นหนังสือเชิงสารคดีปนชีวประวัติที่สนุกสนานใช้ได้ เรื่องสำนวนการเล่าเรื่องนี่สนุกสนานตามสไตล์คุณปู่พนมเทียน ในเล่าเรื่องนี้คุณปู่ท่าน ใช้สำนวนที่เป็นกันเอง ทำให้อ่านง่ายและสนุกมากๆ มีความรู้สึกประมาณว่าไม่ได้อ่านหนังสือแต่มีคุณปู่มีเล่าเรื่องราวชีวิตให้หลานฟังเสียมากกว่า นอกจากเรื่องราวจะเกี่ยวกับการเดินป่าเพื่อไปปราบสัตว์ร้ายแล้ว ยังเป็นการเปิดเผยปูมหลังชีวิตของพนมเทียนในยุคนั้นว่าเป็นอย่างไร การเดินป่าตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าสมัยนั้นเขานิยมอย่างไร และนอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่าต้นแบบของรพินทร์ ไพรวัลย์ นั้นคือใคร ถ้าท่านเคยสนุกสนานกับการบรรยายการต่อสู้กับสัตว์ร้ายต่างๆ และความรู้ต่างๆของอาวุธยุทโธปกรณ์ การเอาตัวรอดในป่า จากในเพชรพระอุมา หนังสือเล่มนี้ก็มีครบเหมือนกัน แต่เป็นไปในทางสมจริงสมจัง ต้องแค่ๆแกะรอยตามล่าไปทีละน้อย ยิงไม่พลาดก็ต้องใส่เกียร์หมา 555 ใน3ตอนแรก นั้นเต็มไปด้วยความโหด มัน ฮา เจ้าสัตว์ป่าแต่ละตัวก็ร้ายต่างกันไป โดยเฉพาะตัวสุดท้ายนี่ถึงขั้นยิงไม่เข้าโดยที่ฝีมือระดับเชิดแกยังต้องหนีปีนขึ้นต้นไม้(ถ้าอ่านแล้วจะรู้ถึงฝีมือของแก) ซึ่งก็ต้องไปลุ้นเองว่าเจ้าตัวนี้ยิงไม่เข้าเพราะมีช้องหมูป่าจริงๆรึป่าว เสียดายที่ว่าตอนสุดท้ายเป็นเรื่องราวเป็นแค่การหลงป่าของปู่พนมเทียนกับคุณหมอท่านหนึ่ง จุดสนุกจุดลุ้นๆในสามตอนแรกเลยไม่เห็นในจุดนี้ ทำให้อารมณ์การอ่านลดลงไปบ้างแต่ก็นั้นแหละ ถ้าจะให้มันสนุกลุ้นมากกว่านี้นี่ก็ไม่ใช่หนังสือจากประสบการณ์จริงของคุณปู่พนมเทียนสิครับ 555
ถือว่าเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวชีวิตจริงได้สนุกมาก ฉะนั้นไม่แปลกเลยที่เพชรพระอุมาจะสนุกได้ขนาดนี้ เพราะชีวิตจริงของคุณปู่ท่านก็สนุกไม่แพ้กันเลย