ตอนนี้เราทำงานด้วยเรียนวันอาทิตย์วันเดียวอายุ18ปี เราก็ได้มาทำงานเป็น freelance คะจะอยู่ในออฟฟิศ บ้างและออกไปทำงานข้างนอกบ้างเวลาไปก็จะไปกัน2คนมีเรากับเจ้านายที่เป็นผู้ชายอายุ 50 ปลายๆ (รุ่นปู่เราเลย)คะแรกๆก็ทำมาเป็นจับมือตอนแรกเราก็ไม่คิดอะไรเพราะเราเป็นคนมือเหงื่อออกเยอะและเค้าก็เป็นคนมือแห้งๆเค้าก็ชมนี่ดีนะมือชุ่มดีนะเราก็คะแล้วยิ้ม(เราไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน)ในใจคือคิดในแง่ดีว่าคงคิดว่าเราเป็นลูกเป็นหลานหรือไม่ก็น้องคนหนึ่งจนกระทั่งไปทำงานด้วยกันครั้งที่4เริ่มจับมือแบบประมือกับเราละก็หอมมือเรา เราก็คิดเหมือนเดิม ลูกหลานพี่น้องแต่ทำงานเดือนกว่าเกือบสองเดือนจู่ๆมือก็เริ่มมาบีบช่วงไหล่เรา

นาย: หลังแข็งมากกเลยนะ
เรา: คะ พอดียกของหนักบ่อยคะ
นาย: ไปนวดแรงไม่ได้นะอันตรายแย่ เพื่อนผมก็ไปนวดมาละเดินไม่ได้เกือบปี
เรา: อ่อคะ (จู่ๆเขาก็จอดรถวุ้ยละก็มาเดี๋ยวนวดให้)
นาย: เดี๋ยวนวดให้ผมนวดเบานะ
เรา: ไม่เป็นไรคะไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น
นาย: หน่า นะ

เราก็เคด้วยความไม่อะไรจู่ๆเขาก็จับผมเราขึ้นละก็พูดหอมคอหน่อยไม่ทันได้ตอบไรก็เข้ามาหอมเลย จุดนั้นเราขนลุกยิ่งกว่าตอนปวดขี้อีกคะ -*- ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วทำไมหนักขึ้นคือเราเคารพเค้ามากเลยเพราะเค้าเป็นคนที่มีชื่อเสียงในสังคมและมีผลงานดีเด่นมากมายคือถ้าพิมพ์ชื่อเค้าในเน็ตมีรูปเค้าและผลงานเค้า แต่พอเค้าทำตัวแบบนี้ทำให้เรารู้สึกว่าทำแบบนี้เค้าไม่คิดระอาเลยหรอถ้าหลุดมาจะทำไงละแฟนเค้าชวนเรามาทำงานละมาลวนลามงี้ตอนเราอยู่เค้าละก็ลูกเมียเค้าก็คุยปกติแบบไม่มีไรเกิดขึ้นเลย จนเริ่มหนักขึ้นๆ เรื่อยๆ มีครั้งนึงเราอยู่ออฟฟิศคนเดียวจู่ๆเขาก็เข้ามาปกติจะไม่ค่อยเข้า ละเค้าก็กอดจากด้านหลังละลูบขา จุดๆนั้นคือเราช็อคเลยแบบเเล่นหนักไปป่าววะละเราก็นั้งทำงานเหมือนนายเป็นอากาศไม่มองหน้าไม่พูดอะไรถามคำตอบตอบคำละยังไม่พอทำอีกเหมือนเดิมเราเลยดึงหน้าเลยครั้งนี้ ละมีอีกคือไปต่างจังหวัด3วัน2คืน พี่ที่เค้าประสานงานเค้าบอกจองไว้2ห้อง ละตอนบ่ายเจ้านายก็เดินมาบอกว่าห้องอะผมจองไว้ห้องเดียวกันแต่แยกเตียงนะจบคำเท่านั้นหละเราเลยโทรถามพี่

ตรู๊ดดดดด~~~
เรา: โหลพี่ไหนบอกจอง2ห้องไงทำไมเจ้านายมาบอกว่าจองห้องเดียวกันแต่2เตียงละ
พี่ที่ทำงาน: พี่ก็จอง2ห้องนะ
เรา: งั้นโทรไปบอกพนักงานโรงแรมให้ด้วยนะพี่ว่าเอา2ห้อง
พี่ที่ทำงาน: โอเค
พี่ที่ทำงานเค้ายังไม่รู้เบื้องหลัง เราปิดเงียบไว้เพราะยังไม่กล้าบอกใคร

19.00 ทำงานต่างจังหวัด วันแรก เราก็เดินทางมาถึงที่พักเปลี่ยนชุดละเจ้านายก็พามากินข้าวที่เราไปกินด้วยเพราะที่พักอยู่ลึกเลยหาของกินก็ไม่ได้พอกินข้าวเสร็จตอนที่นั่งรถเรากลับก็สนทนากัน
นาย: วันนี้ผมเอาที่มาร์คมาให้ใช้ด้วย
เรา: คะ เดี๋ยววันนี้ต้องเล่นเกมกับเพื่อนนะคะเพราะนัดเพื่อนไว้
นาย: งั้นวันพรุ่งนี้ขอเวลาถึง3ทุ่มนะล็อคตัวไว้แล้วอย่าเพิ่งนัดใครละ
เรา: เงียบ(คิดในใจน่าลำคานขึ้นทุกวัน)

วันที่ 2 หลังจากกลับมาทำงานก็เข้าห้องพักอาบน้ำรอไปกินข้าวจุดๆนั้นเราก็คิดแผนว่าต้องบอกว่านัดเพื่อน3ทุ่มพอดีเพราะเค้าบอกว่าขอเวลาไปกินข้าวถึงเวลาสัก3ทุ่มเราออกเดินทางไปกินข้าวตอน6โมง เราก็บอกเค้าไปตามที่เราคิดแผนไว้จู่ๆเค้าก็บอก
นาย: อ้าวเรานัดกันละหนิ
เรา: ก็บอกว่า3ทุ่มไม่ใช่หรอคะหนูก้บอกเพื่อนว่า3ทุ่มครึ่งค่อยมาเล่นเกม
นาย: งั้นไม่เอาเดี๋ยวกลับไปส่งเค้าก็กลับรุถ
เรา: ไปได้คะก็คุยกันไว้อย่างนี้
นาย: โอเคงั้นก็ไปหาร้านกัน

พอกินข้าวเสร็จ 20.30
นาย: วันนี้เอามาร์คมาเข้าไปมาร์คมั้ย
เรา: ไม่เป็นไรคะหนูก็เอามา
นาย: งั้นขอเข้าไปนั่งในห้องได้มั้ยไม่ก็มานั่งที่ห้องผม
เรา: คือหนูนัดเพื่อนเล่นเกมแล้วคะ
นาย: อยากรู้จังว่าเล่นไงถ้าไม่รังเกียจช่วยสอนหน่อยสิ
เรา: พอดีต้องหาทีมก่อนคะหาได้ค่อยมาให้สอน
--------เงียบ--------จนถึงที่พัก
นาย: ขอกอดหน่อย
เรา: ยิ้ม ไม่ดีกว่าคะ ลงรถ
ละก็ลงรถพร้อมกัน
นาย: มากอดหน่อย
เรา: มีกล้องคะ(คิดในใจหน้าปิ้สมองคิดได้เท่านี้หรอ I หัวงูเอ้ยย)หมดความเคารพโดนสิ้นเชิง
นายก็เดินเข้าห้องละก็บอกในนี้ก็ได้มากอดหน่อย
เราเลยเปิดกล้องโทรหาเพื่อน
เรา: เข้างานด่วนๆ(ละก้คุยเหมือนมีธุระบลาๆๆละก็เดินเข้าห้องล็อคเลย)
ละ3ทุ่มนายก็โทรมาแต่เราไม่รับสาย

พฤติกรรมที่เค้าชอบพูดเวลาเราทำผิด
เช่นถ้าบอกทางผิดต้องโดนหอมแก้ม นะเราก็เปลี่ยนเรื่องคุยหึ ละก็กลับมาเรื่องนี้


คือเราก็ทนทำงานเรื่อยๆเหตุผลที่ทนเพราะรายได้ค่อนข้างดีแต่เรามีที่ทำงานอีกที่ค่อนข้างไกลบ้านเราจึงอดทนเก็บเงินตรงนี้ไว้ก่อนสักพักแต่ช่วงนี้เราก็ไม่ยอม ถ้าหากมีข้อเสนอเอาตัวรอดเพิ่มเติม มาแชร์กันให้หน่อยนะคะ