มันอาจจะดูไร้เหตุผล แต่สำหรับเราแทบทนไม่ค่อยได้มาก เราเป็นคนจิตอ่อนแอ นิ่ง ตกใจง่าย กังวน เป็นคนหูดีเกินไป แบบสามารถได้ยินเสียงที่ไกลๆได้เข้าเรื่องเลยล่ะกันน่ะค่ะ
บ้านย่า อยู่ภาคอีสาน แถวๆศรีสะเกษ มีเรื่องเล่าต่างๆนาๆเกี่ยวกับพิธีกรรม มีเรื่องผีมากมาย มีความเชื่อมากมาย บ้านย่า เป็นบ้าน5 หลัง แบบติดกันต่อกันเลย ไม่ห่างกัน คือเดินทะลุไปอีกบ้านได้เลย เป็นบ้าน2ชั้น ข้างล่าง จะเป็นผนังปูน 75% และ ไม้ 25 % รวมทั้ง5บ้านทั้งหมด คือ บ้านที่1 ปูน บ้านที่2 ปูน บ้านที่ 3 ปูน บ้านที่4 เป็น เป็นไม้ บ้านที 5 เป็นปูน ด้านล่าง เป็นห้องกว้างมี2 ห้อง แบบติดกัน แต่กั้นผนังบ้านที่ 4 บ้านที่ 4 เคยเป็นร้านขายของมาก่อน แต่มีญาติเสียหนึ่งคน เลยต้องเลิกขาย ส่วนของก็เก็บไว้ใช้เองที่เหลือน่ะ ส่วนอีกห้องก็คือ บ้านที่1-3 เป็นปูน เป็นห้องรับแขกปกติ ชั้น2 แบ่งเป็น 3ห้องใหญ่ ห้องที่1 ด้านบนไม้ล้วนๆ มีห้องนอน1ห้อง ห้องที่2 เป็นปูน มีเตียงนอนปกติ ห้องที่ 3 มีแยกห้องนอนขนาดเล็ก 3ห้องแต่ล่ะห้องล้วงเป็นไม้เก่าทั้งหมด สิ่งที่เราไม่ค่อยโอเคคือ ย่าเราเป็นคนไม่ชอบเปิดไฟ ห้องทุกห้องที่ไม่ได้ใช้ มันจะมืดหมด แล้วเราเดินผ่านบริเวณนั้นบ่อยมากๆ เวลานอน นอนยากมากๆ นอนเกือบตี2ได้ เวลานอนจะได้ยินเสียง ไม้บ้าง เหมือนคนเดิน ได้ยินเสียง เหมือนคนจับ เครื่องครัว ทั้งที่นอนกันแค่4คน เคยหลอนสุดตอนอยู่คนเดียว ตอนนั้นกำลังนั้นไดซ์ผมกับน้อง ที่ชั้น2 เราไม่รู้ว่า ลมมาจากไหน ประตูเปิดเองทั้งๆที เราปิดหน้าต่างทุกบาน มีเหลือแค่หน้าต่างช่องเล็กๆลมไม่ค่อยมี แล้วก็มี อีกช่วง ในวันฮาโลวีน ทางภาคอีสานทุกๆปี จะมีพิธีเชิญวิญญาณจากคนที่เสียไป เตรียมของอสหารคาวหวาน วางเรียง มีบรรพบุรุษ แม่ของแม่ที่เป็นแม่ของย่า ย่าเราจัดครบชุด เรานอนด้านล่างของเครื่องเส้นไหว้ มันอยู่ระหว่างขาที่นอน ช่วง5ทุ่ม เราไม้กล้าหลับเพราะพ่อเราเงลาดูทีวีชอบเปิดทิ้งไว้ให้เรามาปิดเอง นั่นแหละพ่อเราหลับ เราลุกมาปิด แล้วเราก็นอน พยายามทำให้ตัวเองหลับ แต่ มีช่วงเวลาหนึ่ง ถ้วนมันกลิ่งเองหมุนๆ มันคือจิ้กจก เราสะดุดตอนนั้นไม่มีสติแล้ว แล้วลุกไปแล้วร้องไห้ ย้ายไปนอนบ้านอา เรียกอา อาก็ไม่มาเปิด ตอนนั้นกลัวสุดขีดไม่มีสติ เราเลย สงบสติตัวเองไม่ให้ตื่นเกินไป ได้หลับจริงๆก็ตี2 ที่จริงบ้านย่า ช่วงแรกๆ ห้องใหญ่ชั้นบนที่ 3 มีพระพุทธรูปตั้งในที่มืดๆ แล้วก็มีรูป คนเสียวางเรียงกันอยู่ล่างของพระพุทธรูป เวลาเดินผ่านเราเสียวสันหลังมาก ตอนนี้ปัจจุบัน เค้าทุบตรงบริเวณประตูห้องใหญที่3ออก เปิดให้สว่าง ทำห้องให้โดนแสง แต่ย้าย รูป บรรพบุรุษไปอยู่ที่ห้องใหญ่2 วางเรียงๆกันเป็นชั้น แล้วห้องใหญ่ที่3 มีพระพุทธรูปวางตั้งบนโต๊ะด้านบนด้านล่างโต๊ะเป็นรูปใหญ่ๆของญาติเสีย นั่นแหละ เรากลัว ยิ่งกล้าคืน เราชอบมองในห้องมืดๆคือมันน่ากลัวกังวน มีความรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่กันแค่4คน เวลาญาติมาเยอะๆเราจะกลัวน้อยลง พอญาติไปเรากลัวมากเกินตัวจนอยากกลับบ้าน แต่พอยังอดทนได้เราเลยต้องไปนอนบ้านหลังที่5 ก็คือบ้านอาเรา อาก็มีญสติเสียไป แต่เราบอกอาว่าเราขี้กลัวมากๆอาเลยไม่ค่อยเอารูปญาติที่เสียมาตั้งเรียงกันไว้เยอะ ตั้งแค่2รูป ส่วนมากเป็นบรรพบุรุษทางอามากกว่าส่วนคนเสียในครอบครัวของอา อาเก็บไว้เค้าบอกไม่ให้เอารูปคนที่เสียมาตั้ง อาเรสเป็นคนชอบเปิดไฟตลอด มียันที่ห้องนอน2ห้อง เราก็มีความกลัวอยู่บ้าง อาเป็นคนหลับ ตอนเด็กน้องเราเป็นคนนอนเก่งมาก ปัจจุบันน้องนอนดึก เกือบๆ5ทุ่มกว่าๆ น้องเป็นคนติดมือถือ อันนี้ก็ไม่ค่อยกลัวมาก กลัวกึ่งๆกลางๆ 20% แต่เวลาอยู่ในบ้านย่ามันมีความรู้สึกว่า เค้ายังอยู่ เหมือนไม่ได้อยู่กันแค่4คน เป็นแบบนี้มาตลอด ปี1 ลงมาบ้านย่า2-3ครั้งต่อปี อยู่ไม่เกิด 1อาทิตย์ครึ่งๆ เราไม่ชินเลย เราโดนความกลัวครอบนำตลอด เวลาเดิน หรืออยู่คนเดียวในตอนเช้าและกลางคืนเหมือนมีคนอยู่กับเราด้วย พอมีทางแก้ไหมค่ะ เราเป็นคนที่แปลกมาก ชอบดูผี แต่ความจริงขี้กลัวแทบน้ำตาไหลค่ะ พอมีทางหยุดความกลัวได้ไหมค่ะ ถ้ามีคำเขียนผิดอันใด ขออภัยด้วยน่ะค่ะ
ฉันไม่ชินกับการอยู่บ้านย่า
บ้านย่า อยู่ภาคอีสาน แถวๆศรีสะเกษ มีเรื่องเล่าต่างๆนาๆเกี่ยวกับพิธีกรรม มีเรื่องผีมากมาย มีความเชื่อมากมาย บ้านย่า เป็นบ้าน5 หลัง แบบติดกันต่อกันเลย ไม่ห่างกัน คือเดินทะลุไปอีกบ้านได้เลย เป็นบ้าน2ชั้น ข้างล่าง จะเป็นผนังปูน 75% และ ไม้ 25 % รวมทั้ง5บ้านทั้งหมด คือ บ้านที่1 ปูน บ้านที่2 ปูน บ้านที่ 3 ปูน บ้านที่4 เป็น เป็นไม้ บ้านที 5 เป็นปูน ด้านล่าง เป็นห้องกว้างมี2 ห้อง แบบติดกัน แต่กั้นผนังบ้านที่ 4 บ้านที่ 4 เคยเป็นร้านขายของมาก่อน แต่มีญาติเสียหนึ่งคน เลยต้องเลิกขาย ส่วนของก็เก็บไว้ใช้เองที่เหลือน่ะ ส่วนอีกห้องก็คือ บ้านที่1-3 เป็นปูน เป็นห้องรับแขกปกติ ชั้น2 แบ่งเป็น 3ห้องใหญ่ ห้องที่1 ด้านบนไม้ล้วนๆ มีห้องนอน1ห้อง ห้องที่2 เป็นปูน มีเตียงนอนปกติ ห้องที่ 3 มีแยกห้องนอนขนาดเล็ก 3ห้องแต่ล่ะห้องล้วงเป็นไม้เก่าทั้งหมด สิ่งที่เราไม่ค่อยโอเคคือ ย่าเราเป็นคนไม่ชอบเปิดไฟ ห้องทุกห้องที่ไม่ได้ใช้ มันจะมืดหมด แล้วเราเดินผ่านบริเวณนั้นบ่อยมากๆ เวลานอน นอนยากมากๆ นอนเกือบตี2ได้ เวลานอนจะได้ยินเสียง ไม้บ้าง เหมือนคนเดิน ได้ยินเสียง เหมือนคนจับ เครื่องครัว ทั้งที่นอนกันแค่4คน เคยหลอนสุดตอนอยู่คนเดียว ตอนนั้นกำลังนั้นไดซ์ผมกับน้อง ที่ชั้น2 เราไม่รู้ว่า ลมมาจากไหน ประตูเปิดเองทั้งๆที เราปิดหน้าต่างทุกบาน มีเหลือแค่หน้าต่างช่องเล็กๆลมไม่ค่อยมี แล้วก็มี อีกช่วง ในวันฮาโลวีน ทางภาคอีสานทุกๆปี จะมีพิธีเชิญวิญญาณจากคนที่เสียไป เตรียมของอสหารคาวหวาน วางเรียง มีบรรพบุรุษ แม่ของแม่ที่เป็นแม่ของย่า ย่าเราจัดครบชุด เรานอนด้านล่างของเครื่องเส้นไหว้ มันอยู่ระหว่างขาที่นอน ช่วง5ทุ่ม เราไม้กล้าหลับเพราะพ่อเราเงลาดูทีวีชอบเปิดทิ้งไว้ให้เรามาปิดเอง นั่นแหละพ่อเราหลับ เราลุกมาปิด แล้วเราก็นอน พยายามทำให้ตัวเองหลับ แต่ มีช่วงเวลาหนึ่ง ถ้วนมันกลิ่งเองหมุนๆ มันคือจิ้กจก เราสะดุดตอนนั้นไม่มีสติแล้ว แล้วลุกไปแล้วร้องไห้ ย้ายไปนอนบ้านอา เรียกอา อาก็ไม่มาเปิด ตอนนั้นกลัวสุดขีดไม่มีสติ เราเลย สงบสติตัวเองไม่ให้ตื่นเกินไป ได้หลับจริงๆก็ตี2 ที่จริงบ้านย่า ช่วงแรกๆ ห้องใหญ่ชั้นบนที่ 3 มีพระพุทธรูปตั้งในที่มืดๆ แล้วก็มีรูป คนเสียวางเรียงกันอยู่ล่างของพระพุทธรูป เวลาเดินผ่านเราเสียวสันหลังมาก ตอนนี้ปัจจุบัน เค้าทุบตรงบริเวณประตูห้องใหญที่3ออก เปิดให้สว่าง ทำห้องให้โดนแสง แต่ย้าย รูป บรรพบุรุษไปอยู่ที่ห้องใหญ่2 วางเรียงๆกันเป็นชั้น แล้วห้องใหญ่ที่3 มีพระพุทธรูปวางตั้งบนโต๊ะด้านบนด้านล่างโต๊ะเป็นรูปใหญ่ๆของญาติเสีย นั่นแหละ เรากลัว ยิ่งกล้าคืน เราชอบมองในห้องมืดๆคือมันน่ากลัวกังวน มีความรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่กันแค่4คน เวลาญาติมาเยอะๆเราจะกลัวน้อยลง พอญาติไปเรากลัวมากเกินตัวจนอยากกลับบ้าน แต่พอยังอดทนได้เราเลยต้องไปนอนบ้านหลังที่5 ก็คือบ้านอาเรา อาก็มีญสติเสียไป แต่เราบอกอาว่าเราขี้กลัวมากๆอาเลยไม่ค่อยเอารูปญาติที่เสียมาตั้งเรียงกันไว้เยอะ ตั้งแค่2รูป ส่วนมากเป็นบรรพบุรุษทางอามากกว่าส่วนคนเสียในครอบครัวของอา อาเก็บไว้เค้าบอกไม่ให้เอารูปคนที่เสียมาตั้ง อาเรสเป็นคนชอบเปิดไฟตลอด มียันที่ห้องนอน2ห้อง เราก็มีความกลัวอยู่บ้าง อาเป็นคนหลับ ตอนเด็กน้องเราเป็นคนนอนเก่งมาก ปัจจุบันน้องนอนดึก เกือบๆ5ทุ่มกว่าๆ น้องเป็นคนติดมือถือ อันนี้ก็ไม่ค่อยกลัวมาก กลัวกึ่งๆกลางๆ 20% แต่เวลาอยู่ในบ้านย่ามันมีความรู้สึกว่า เค้ายังอยู่ เหมือนไม่ได้อยู่กันแค่4คน เป็นแบบนี้มาตลอด ปี1 ลงมาบ้านย่า2-3ครั้งต่อปี อยู่ไม่เกิด 1อาทิตย์ครึ่งๆ เราไม่ชินเลย เราโดนความกลัวครอบนำตลอด เวลาเดิน หรืออยู่คนเดียวในตอนเช้าและกลางคืนเหมือนมีคนอยู่กับเราด้วย พอมีทางแก้ไหมค่ะ เราเป็นคนที่แปลกมาก ชอบดูผี แต่ความจริงขี้กลัวแทบน้ำตาไหลค่ะ พอมีทางหยุดความกลัวได้ไหมค่ะ ถ้ามีคำเขียนผิดอันใด ขออภัยด้วยน่ะค่ะ