แปลกมั้ยที่เกลียดน้องแท้ๆตัวเอง

สวัสดีค่ะ เราแปลกมั้ยที่เกลียดน้องแท้ๆของตัวเอง น้องเราเป็นเด็กที่ได้รับความรักจากพ่อกับแม่มากกว่าเรา อาจเพราะว่าตอนที่เราเกิดมาพ่อกับแม่ไม่พร้อม แต่น้องเราเกิดมาในตอนที่มีทุกอย่างแล้ว และน้องเราเป็นเด็กที่มีสมาธิสั้น พ่อแม่เลยคิดว่าเราดูแลตัวเองได้เพราะเป็นพี่คนโตตอนอนุบาล เราได้ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่(ก่อนหน้านี้ย่ากับอาเลี้ยงเรา) พออยู่ไปสักพักเราก็รู้สึกว่าเหมือนที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของเราเลย น้องได้นอนกับพ่อแม่ที่เตียงบนห้อง เราได้นอนกับยายบนพื้นที่ชั้นล่าง ถ้าวันไหนอยากไปนอนกับพ่อแม่ก็ต้องเอาผ้าห่มมาปูที่พื้น แม้แต่ประชุมผู้ปกครองอนุบาลพ่อกับแม่ก็ยังไม่มา น้องชายชอบเลียนแบบเราทุกอย่าง ชอบเอาชุดเราที่เป็นกระโปรงไปใส่ สมัยนั้นฮิตกระเป๋าลากกันค่ะเพื่อนพ่อแม่ซื้อมาให้เรา แต่แม่เอาให้น้องทัง้ที่เราบอกว่านี่เป็นของเรานะ แม่ก็เอาไปให้น้องใช้จนขาด เราได้เอาไปแค่3วันเอง ช่วงอนุบาลเราชอบไปเรียนมากค่ะเพราะไม่อยากกลับบ้านมาเจอแม่ แม่จะชอบมองค้อน ตอนนั้นแค่เค้กวันเกิดพ่อปม่นังไม่ซื้อให้เลนค่ะ แต่น้องได้ตลอดเลย😂จนกระทั่งเราอยู่ป.1 ได้ย้ายมาอยู่กับย่าและอา อาก็จัดงานวันเกิดให้เราเรารู้สึกมีความสุขมากขึ้นเพราะได้มีที่สบายใจ ย่ากับอาตามใจเราทุกอย่างเลยคะ รู้สึกเหมือนที่ตรงนี้เป็นที่ของเรา เหมือนเรามีที่ยืน เวลาอากับย่าไปที่ไหน เค้าจะซื้อของฝากมาให้แค่เรา ทำให้เราเป็นเด็กขี้หวงของกับน้องมากค่ะ แม่เลยชอบด่าว่าเราเห็นแก่ตัวก็อาจจะจริงอย่างที่แม่บอก พอมาอยู่กับย่าเหมือนจะดีใช่มั้ยล่ะคะ แต่ย่ากับอากดดันเราเรื่องเรียนหนักมากๆ ด้วยความที่เราไม่ใช่เด็กที่เก่งขนาดนี้น สอบได้ที่9ก็ดีใจแล้ว เราเอาไปอวดคนทั่วบ้าน ย่ากลับถามเราว่า ทำไมโง่จัง ทำไมไม่ทำให้ได้ที่1เหมือนคนอื่น ตอนนั้นเหมือนโลกทั้งใบแตกสลายไปเลยค่ะ อาก็เลยยึดทรศ.เรา ไม่ให้เราเล่นไป1ปีเต็ม แต่กลับกันน้องชายสอบได้ที่เกือบสุดท้ายตลอด ไม่เคยโดนยึดทรศ.เลยค่ะ ตอนนั้นเราอิจฉาน้องมากว่าทำไมน้องถึงได้ทรศ.มือถือรุ่นใหม่ตลอด เปลี่ยนทุกปี เพราะน้องปาทรศ.เวลาเล่มเกมแล้วค้าง แต่เราได้แค่ทรศ.เก่าที่มันค้างมากๆ ถ้ามองอีกแง่มันก็ดีค่ะ เพราะทำให้เราไม่ติดเกม แต่การที่เราอิจฉาน้องเหมือนคนไม่เคยได้รับความรักทำให้เราด่าว่าและตีกับน้อง ด้วยความที่ตอนนั้นเราโดนที่บ้านคาดหวังว่าเป็นพี่คนโตต้องเป๊ะทุกอย่าง ทำให้เรารู้สึกกดดันมาก ทำให้เรากับน้องห่างกันเรื่อยๆ แต่ย่ากับอาชอบพูดว่าน้องโง่ติดเกมอย่างนู้นอย่างนี้ ทำให้น้องเชื่อจริงๆว่าตัวเองโง่ จนกระทั้งเราขึ้นป.6 ตอนนั้นเรากดดันมากเพระาได้มาเรียนอยู่ห้องพิเศษ เด็กเก่งเต็มไปหมด เหมือนเป็นแกะดำ ทำให้เราเครียดมากร้องไห้ทุกวัน ปวดหัวจนนอนไม่หลับ พอไปตรวจพบว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ากับไมเกรน เราไปเรียนไม่ไหว เลยดรอปเรียนไปนึง ตอนนั้นเราเลนรู้สึกว่า อ๋อ มันจบแล้วสินะ เราใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ นอน ตื่น อาบน้ำ อยู่แค่ในห้องไม่ออกไปไหน ตอนนั้นเราชอบหารไปพบจิตแพทย์มากๆ เพราะเหมือนมีคนคุยด้วย ได้มีคนให้ระบาย ช่วงนั้นเหมือนที่บ้านจะดีขึ้นนะคะ แม่ก็ดูใจดีแปลกๆ เหมือนฝันเลยค่ะ ช่วงที่ดรอปเรียน เราเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะมากๆ เพราะตอนเด็กมันจะโดนเปรียบเทียบกับน้อง ว่าน้องหล่อขาว ส่วนพี่ดำแล้วก็อ้วน เราลดน้ำหนัก หนักมาก ออกกำลังกายทุกวัน ทาครีมทุกวันไม่ออกจากบ้านเพราะกลัวดำ จนน้ำหนักเราก็ลดมา20+โล จนเรากลับมาเรียนอีกครั้ง เหมือนปัญหามันก็วนอยู่ซ้ำๆ คราวนี้เราโดนคนในห้องบูลลี่เพราะแค่ขาวกว่ากับโดนห่ว่าแอ๊บเสียง ทั้งที่ความจริงเราเป็นคนเสียงสูงแต่ถ้าพูดเสียงเบามันเลยดูเหมือนแอ๊บ🥲🥲 เราเลยไม่สนใจอะไร จนกระทั่งม.2 แม่ให้เราเลิกยา แล้วไม่คอยพาเราไปหมอ เพราะบอกว่าเราหายแล้ว อาการเราก็กลับมาอีกครั้ง ระหว่างที่ป่วยเรามีอาการหูแว่ว นอนไม่หลับ พอเลิกยาเราก็มีอาการค่ะ มาถี่มากๆ พอบอกแม่ แม่ก็บอกว่าคิดไปเอง ก็ยังไม่ให้เราไปหาหมออยู่ดีค่ะ เราก็ไม่อยากเซ้าซี้ ไม่อยากทำตัวเหมือนเด็ก จนบางครั้งที่อาการเรากลับมา เราก็บอกใครไม่ได้เลย น้องก็ขี้หงุดหงิดชอบด่าเรา บางทีอาจเป็นเพราะการกระทำของเราที่ทำกับน้องในอดีตไว้ก็ได้ เราแปลกมั้ยคะที่เกลียดน้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่